วันฮาโลวีน (Halloween)
ถ้าพูดถึงเทศกาลงานรื่นเริงสากลแล้ว นอกจากเทศกาลคริสมาสต์ ก็จะมีวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี หรือที่เราเรียกว่า ‘วันปล่อยผี’ ‘วันฮาโลวีน’ ที่คนไทยตั้งตารอคอย เพราะจะได้สนุกกับการแต่งตัวแฟนซีแปลกประหลาดร่วมกับเพื่อนๆ พากันไปเที่ยวบ้านผีสิง ดูหนังสยองขวัญกัน หรือจับกลุ่มเล่าเรื่องผีที่เคยได้ฟังมา
แต่ถ้าใครยังไม่เคยเจอผี ไม่มีเรื่องจะเล่า เราขอแนะนำ 13 เรื่องน่าสนใจในวันฮาโลวีน อ่านเอาไว้ไปเล่าต่อให้เพื่อนๆ ฟังได้เลยค่ะ
“All Hallows’ Eve”
- “Halloween” กร่อนเสียงมาจากคำว่า “All Hallows’ Eve” หรือ “All Hallows’ Evening,” หมายถึง คืนก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลายของทางศาสนาคริสต์ โดยในคืนวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ในหลายประเทศทางฝั่งยุโรปจะมีงานเทศกาลเฉลิมฉลองรื่นเริง รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่อยากสนุกกับเทศกาลนี้ด้วย โดยวันฮาโลวีน มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลเก็บเกี่ยว Samhain ของชาวเซลต์ หรือชนยุโรปโบราณ ซึ่งถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน จึงฉลองวันสิ้นสุดของช่วงสว่างแห่งปี และเข้าสู่ช่วงมืดของปีซึ่งก็คือฤดูหนาวนั่นเอง
- นอกจากนี้ชาวเซลต์ ยังเชื่อว่า เป็นวันที่โลกของคนเป็นและโลกของคนตายได้โคจรมาใกล้กันมากที่สุด วิญญาณของบรรบุรุษจะได้กลับมาเยี่ยมบ้าน รวมถึงปีศาจร้ายที่จะแฝงตัวเข้ามาได้ด้วย เราจึงต้องแต่งตัวเป็นภูตผีปีศาจเพื่อปิดบังไม่ให้ปีศาจมาทำร้ายเราได้นั่นเอง
สีดำ สีส้ม
- เมื่อพูดถึงวันฮาโลวีน แน่นอนว่าหลายคนจะต้องนึกถึงสีดำและสีส้ม ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของวันปล่อยผีนี้ แต่สีส้มไม่ได้หมายถึงสีของฟักทอง และสีดำไม่ได้หมายถึงเสื้อผ้าของแม่มดเท่านั้นนะ สีส้มและสีดำนั้นมีความหมายที่มากกว่านั้น โดยสีส้มหมายถึง สีแห่งความแข็งแกร่งและความอดทน บางครั้งสีส้มจะมีสีออกคล้ำาๆ จนเหมือนน้ำตาล ซึ่งหมายถึงสีของทุ่งนาที่พร้อมให้เก็บเกี่ยว แสดงถึงฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวนั่นเอง ส่วนสีดำมืดมิดนั้น หมายถึง สัญลักษณ์แห่งความตายและความมืด ที่จะช่วยให้เราได้ตระหนักอยู่เสมอว่าเรายังมีชีวิตอยู่และความตายนั้นอยู่ไม่ไกล
กิจกรรมท้าทายในคืนฮาโลวีน
- ในคืนฮาโลวีน มีความเชื่อแปลกๆ มากมาย ที่พร้อมจะให้คนเก่งคนใจกล้าได้ลอง เช่น กิจกรรมของเด็กสาวชาวสก๊อตติช พวกเขาเชื่อว่า หากอยากเห็นหน้าสามีในอนาคตให้ตากผ้าห่มเปียกๆ ไว้หน้ากองไฟ แล้วจะมองเห็นเงาหน้าของสามีบนผ้าห่มนั้น หรืออีกหนึ่งความเชื่อ คือ ถ้ามองไปในกระจกขณะที่เดินลงบันไดในช่วงเวลาเทียงคืนพอดีของคืนฮาโลวีนก็จะได้เห็นหน้าคนรักในอนาคตชาวไอริชจะทำนายเนื้อคู่โดยการปอกเปลือกแอปเปิลให้เป็นเส้นยาวโดยไม่ขาดจากกัน แล้วโยนเปลือกนั้นข้ามไหล่ไป เปลือกแอปเปิลนั้นก็จะปรากฎเป็นตัวอักษรนำหน้าชื่อเนื้อคู่ของเราเช่นกัน
- แต่ถ้าใครไม่สนใจเรื่องความรัก ต้องลองกิจกรรมนี้เลย ใส่เสื้อผ้ากลับด้านแล้วเดินถอยหลังในช่วงเวลาเที่ยงคืนของคืนฮาโลวีน ทำแบบนี้จะได้เห็นแม่มดแน่!
trick or treat
- กิจกรรมทริกออร์ทรีต (trick or treat) จะโดนหลอกหรือจะเลี้ง เชื่อว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ ปลายคริสต์ทศวรรษ 1920 ที่ประเทศไอร์แลนด์ โดยเป็นประเพณีการไปตามบ้านเพื่อเก็บอาหารในฮาโลวีน ท่องบทร้อยกรองแลกอาหาร หรือเตือนว่าอาจเกิดโชคร้ายหากไม่ยอมให้ แม้ว่าการตระเวนไปตามบ้านในชุดจะยังได้รับความนิยมในหมู่ชาวสกอตและไอริช แต่ประเพณีการกล่าว “ทริกออร์ทรีต” เพิ่งมาแพร่หลายเมื่อไม่นานนี้
- โดยเด็กๆ ในประเทศยุโรปและอเมริกา มักจะแต่งกายในชุดผีปีศาจตัวน้อยๆ แล้วเดินไปเคาะตามประตูบ้านต่างๆ จากนั้นจะพูดว่า ทริกออร์ทรีต หากตอบว่า ทรีต หมายถึง การเลี้ยง เจ้าของบ้านก็จะต้องนำขนมมาให้เด็กๆ แต่ถ้าบอกว่า ทริก หมายถึง การหลอก คือ เจ้าของบ้านจะไม่ยอมให้ขนมเด็กๆ ก็อาจจะถูกเด็กๆ แกล้งเล่นต่างๆ นานาได้จนกว่าจะให้ขนม แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เด็กๆ มักจะไปตามบ้านที่ตกแต่งในธีมฮาโลวีนอยู่แล้ว เพื่อแสดงให้เห็นว่าเต็มใจจะเล่นด้วยนะ และบางบ้านอาจวางขนมไว้หน้าบ้านให้เด็กๆ มาหยิบกันได้เลย
- ขนมยอดนิยมในกิจกรรมทริคออร์ทรีตของเด็กๆ คือ ช็อกโกแลตแท่ง ยี่ห้อ Snickers โดย 50% ของเด็กๆ อยากได้เจ้าช็อกโกแลตแท่งนี้มากที่สุด ส่วน 24% อยากได้ขนมชนิดอื่นๆ มากกว่า และอีก 10% อยากได้หมากฝรั่ง
เด็กๆ กับวันฮาโลวีน
- ผลวิจัยพบว่า ในคืนวันฮาโลวีนเด็กๆ จำทำตัวร้ายกาจขึ้นกว่าปกติ เนื่องจากการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม และการแต่งตัวปิดหน้าปิดตา ทำให้เด็กๆ กล้าทำอะไรเสี่ยงๆ ทำอะไรที่น่าตื่นเต้น รวมไปถึงทำมารยาแย่ๆ ใส่ผู้ใหญ่บางคนด้วย เพราะคิดว่า วันฮาโลวีนจะต้องทำตัวร้ายๆ เหมือนผีร้ายจริงๆ นอกจากนี้ ในคืนวันฮาโลวีน เราจะพบว่ามีเด็กๆ เสียชีวิตในคืนนี้เป็นจำนวนสองเท่าของวันอื่นๆ การใส่หน้ากากปิดบังตัวเอง จำนวนเด็กๆ เสียชีวิตในวันฮาโลวีนเป็นสองเท่าของวันอื่นๆ โดยเฉพาะการเสียชีวิตเนื่องมาจากรถชน ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเด็กๆ มักเดินเกาะกลุ่มกัน ทางเดินแคบ และอาจจะต้องลงไปเดินกันกลางถนน รวมถึงการแต่งตัวที่อาจปิดหน้าปิดตาจนมองทางลำบาง และการแต่งตัวเป็นผีสีดำๆ อาจทำให้รถยนต์นั้นมองไม่เห็นนั่นเอง
ทำไมต้องแกะสลักฟักทอง
- อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในวันฮาโลวีน คือ การแกะสลักฟักทองเป็นรูปหน้าปีศาจแล้วใส่โคมไฟไว้ข้างใน หรือที่เรียกว่า Jack O’Lanterns โดยเรื่องของแจ็กมีการเล่าหลายรูปแบบ อย่างเรื่องของชาวไอริชโบราณ ได้เล่าว่า แจ็กเป็นชาวนาจอมเจ้าล์ ที่กล้าหาญต่อกรกับปีศาจ โดยครั้งหนึ่งแจ็กหลอกล่อปีศาจให้ติดกับ หนีไม่ได้ และให้ปีศาจสัญญาว่า หากเขาตายแล้ว ห้ามพาเขาไปนรกเด็ดขาด ปีศาจจึงต้องตกลงรับปาก
- จนเมื่อแจ็กตายลง ด้วยความที่เขาเป็นคนเจ้าเลห๋จึงทำให้เขาไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ลงนรกก็ไม่ได้ แจ็กจึงต้องอยู่ในโลกต่อไป โดยมีโคมไฟนำทางที่ทำมาจากหัวผักกาด เพื่อให้เขาผ่านความมืดและความเหน็บหนาวในช่วงเดือนตุลาคมไปให้ได้ จากเรื่องเล่านี้ จึงทำให้ Jack O’Lanterns ชิ้นแรกของโลกทำมาจากหัวผักกาด แต่เมื่อตำนานนี้มาถึงประเทศอเมริกา ก็ได้เปลี่ยนเป็นฟักทองสีส้มที่ดูแล้วสยองขวัญกว่าหัวผักกาดหลายร้อยเท่าเลยนะ
- การแกะสลักฟักทองนั้น นอกจากจะทำเป็นรูปหน้าปีศาจแล้ว บางครั้งเรามักจะเห็นรูปแบบแปลกๆ ที่สวยงามมากๆ ด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นที่นิยมมากไม่ว่าในวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ ทำให้ฟักทองขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ว่ากันว่า เคยขายฟังทองได้ราคาแพงสุดในคืนฮาโลวีนในราคาถึง 25,000 ดอลลาห์สหรัฐ หรือกว่า 800,000 บาทเลยทีเดียว
โรคกลัววันฮาโลวีน
- นอกจากผู้คนที่ชื่นชอบในเทศกาลวันฮาโลวีนแล้ว ก็ยังมีอีกกลุ่มคนที่ขอลาจากคืนปล่อยผีนี้ ซึ่งเรามีชื่อเรียก โรคของผู้ที่กลัววันฮาโลวีนว่า Samhainophobia โดยมีอาการเหมือนโรคโฟเบียอื่นๆ หากได้เห็นสิ่งที่ตัวเองกลัว เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก ปากแห้ง หายใจลำบาก หรืออาจรุนแรงถึงขั้นชักหมดสติได้ ถ้ามีเพื่อนๆ กลัวล่ะก็ อย่าแกล้งเพื่อนกันนะคะ
สัตว์สัญลักษณ์ในวันฮาโลวีน
- นอกจากแม่มดแล้ว สัตว์ต่างๆ ที่ดูน่ากลัว(แต่จริงๆ ออกจะน่ารัก) ก็จะมักจะถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ในวันฮาโลวีน้ด้วย เช่น นกฮูก เคยเป็นสัญลักษณ์ของฮาโลวีนที่โด่งดังมาก่อนตัวหนึ่ง โดยในยุโรปยุคกลาง นกฮูกถูกคิดว่าเป็นแม่มดปลอมตัวมา และมีเรื่องเล่าว่า หากใครได้ยินเสียงนกฮูกร้อง นั่นหมายความว่าอาจจะมีคนใกล้ตัวใกล้ๆ ตายก็ได้ สัตวปีกอีกชนิดที่ถูกทำให้ดูน่ากลัวคือ อีกา เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของฮาโลวีน รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของฤดูการเก็บเกี่ยวก่อนที่หน้าหนาวจะมาเยือนด้วย
- รวมไปถึง เจ้าเหมียวดำ ด้วย เมื่อก่อนเคยเชื่อว่า แมวดำมีจิตวิญญาณของแม่มด มีพลังดั่งแม่มดเลยทีเดียว จึงเชื่อว่า หากใครเลี้ยงแมวดำ คนนั้นอาจจะเป็นแม่มด จึงทำให้แมวดำเป็นสัตว์อัปมงคล สัตว์แห่งความโชคร้าย ไม่มีใครอยากรับเลี้ยง นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น้องแมวดำโดนใส่ร้ายอีกด้วย เช่น หากแมวดำเดินข้ามเราไป หมายความว่าเราถูกสาปให้โชคร้าย นั่นไม่จริงสักหน่อย แมวดำน่ารักจะตาย หากยุคนี้มีใครมากล่าวหาว่าแมวดำเป็นแม่มดแปลงร่างมา ต้องโดนทาสแมวจัดการแน่ๆ
วันฮาโลวีนในแบบฉบับคนเอเชีย
- Teng Chieh คือ เทศกาลโคมไฟของประเทศจีนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นวันฮาโลวีนแบบเอเชีย โดยลักษณะของโคมไฟนั้นจะมีรูปร่างเป็นสัตว์ต่างๆ เช่น มังกร เสือ โดยมักจะแขวนไว้มุมตามบ้านหรือถนน เพื่อช่วยนำทางให้วิญญาณได้กลับบ้านของตัวเองถูก ให้คนในครอบครัวที่ยังอยู่และบรรพบุรุษได้กลับมาพบเจอกัน ส่วนเทศกาลนี้ในฮ่องกงจะเรียกว่า Yue Lan หรือ Festival of the Hungry Ghosts” โดยผู้คนจะจุดไฟให้สว่างไสว และนำอาหาร ของกำนันต่างๆ มาวางไว้ให้กับวิญญาณที่หิวโหยและเกรี้ยวกราดเพื่อไม่ให้มาทำร้ายเรา นอกจากนี้ยังมีการจัดงานรื่นเริง มีขบวนพาเหรดโคมไฟต่างๆ สร้างแสงสีและความสนุกให้กับชาวจีนและนักท่องเที่ยวอีกด้วย
Source