แมงโก้ ทรี (Mango Tree Worldwide) แบรนด์ผู้นำร้านอาหารไทยที่มี 70 สาขาทั่วโลก เปิดตัวแคมเปญ “Root and Fruits” ยกทีมเชฟ 15 คน จาก 13 ประเทศ สัมผัสวัฒนธรรมการทำอาหารของภาคใต้ ประเทศไทยถึงท้องถิ่นต้นตำรับ เพื่อนำวัฒนธรรมอาหารใต้ไปสู่สาขาต่างๆ ทั่วโลก
แคมเปญ “Roots and Fruits” ได้พาทีมเชฟทั้ง 15 คนของเครือแมงโก้ ทรี ล่องใต้ไปเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช โดยทั้งหมดได้เรียนรู้ถึงแก่นแท้วัฒนธรรมภาคใต้ของไทยจากชุมชนท้องถิ่น ภายใต้วิถีชีวิตที่ยั่งยืนตามพระราโชวาท “ความพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9
ทีมเชฟยังได้เรียนรู้อย่างใกล้ชิดกับชาวประมงและเกษตรกร เพื่อทำความเข้าใจสาระสำคัญและหัวใจที่แท้จริงของวัฒนธรรมการทำอาหารใต้ อาทิ เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารและบริบททางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในการปรุงอาหาร การเลี้ยงกุ้งเพื่อทำกะปิ การเก็บผักและสมุนไพรในท้องถิ่น และเรียนรู้การใช้ “ใบจาก” ที่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายประเภท อาทิ ดอกสำหรับทำสลัดหรือยำ ส่วนใบใช้พันบุหรี่ มุงหลังคาบ้าน เมล็ดใช้สำหรับการเพาะปลูกและการเลี้ยงกุ้ง ส่วนก้านสำหรับทำบ้านปลาซึ่งเป็นสถานที่ที่ปลาและกุ้งรวมตัวกันหลังจาก 3 เดือนพวกเขาสามารถจับและนำไปขายในตลาดได้ถึง 3,000 บาท
เทรเวอร์ แมคเคนซี กรรมการผู้จัดการ แมงโก้ ทรี โกลบอล กล่าวว่า “แคมเปญ Roots and Fruits เป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับพวกเราอย่างแท้จริง เพราะหากเราไม่เข้าใจวัฒนธรรมก็จะไม่สามารถเข้าใจอาหารได้ นอกจากนั้น การต้อนรับของชาวใต้ยังน่าประทับใจอย่างมาก เราจึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า วัฒนธรรมคือหัวใจของการปรุงอาหาร และจากประสบการณ์ที่เราได้รับจากท้องถิ่นและข้อมูลเชิงลึกที่ดีเกี่ยวกับต้นกำเนิดที่แท้จริงของอาหารไทยภาคใต้ ทั้งหมดจะเป็นสิ่งสำคัญไปสู่การเปิดตัวเมนูพิเศษซึ่งเป็นอาหารใต้ของไทยที่น่าทึ่ง ในทุกสาขาทั่วโลกตุลาคมปีนี้”
ทั้งนี้ “อาหารใต้” คือหนึ่งในตำนานอาหารของเมืองไทยที่มีชื่อเสียงในเรื่องกลิ่นและความจัดจ้าน ทั้งความเปรี้ยวและความเผ็ดร้อน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เป็นคาบสมุทรที่ทอดตัวจากทะเลอันดามันไปทางทิศตะวันตกและอ่าวไทยไปทางทิศตะวันออก ยังมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลสด รวมถึงอิทธิพลจากมาเลย์และจีน โดยอาหารยอดนิยม ได้แก่ แกงส้ม คั่วกลิ้ง และข้าวยำ
แคมเปญ Roots and Fruits ของแมงโก้ ทรี เริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม หลังจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ และร่วมรับประทานอาหารค่ำเป็นการต้อนรับ เช้าวันรุ่งขึ้นได้ล่องลงใต้สู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ในอ่าวไทย เพื่อเยี่ยมชมตลาดเช้าและบ้านรังนก เก็บเกี่ยวข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภูมิภาค ช่วงบ่ายได้ไปเยือนฟาร์มมะม่วงเบา และเวิร์กช็อปทำพริกแกง เครื่องปรุงที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารใต้
ในวันถัดไปหลังจากทัวร์ล่องเรือในยามเช้า ทีมเชฟได้มุ่งหน้าไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่สวยงามบนชายฝั่งตะวันออก พวกเขาได้เรียนรู้วิธีทำ “ไข่เค็ม” ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในวงการอาหาร นอกจากนั้น ทีมเชฟจากแมงโก้ ทรี ยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง ขั้นตอนการทำกะปิ และเข้าร่วมเวิร์คช็อป “มะพร้าว” และ “กะทิ” ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่สำคัญที่สุดของอาหารใต้
ตลอดการเดินทางทีมแมงโก้ ทรี ได้เข้าพักที่ “โฮมสเตย์” และเข้าร่วมในการฝึกอบรมการทำอาหารกับคนในท้องถิ่น เพื่อเชื่อมต่อกับแต่ละจุดหมายปลายทางอย่างใกล้ชิด
“ทริปนี้เป็นสิ่งที่พิเศษมากและทีมของเรามีความผูกพันกันมากขึ้น โดยได้ร่วมเรียนรู้และมีส่วนร่วมในชุมชนด้วยการปลูกป่าชายเลน ก่อนกลับเรายังเหมาน้ำพริกที่ทำสดใหม่ของชาวบ้าน เพื่อใช้สำหรับการปรุงอาหารที่แมงโก้ ทรี และเป็นของฝากให้กับครอบครัวของเรา สร้างรอยยิ้มให้กับชาวชุมชนท้องถิ่นได้อย่างน่าประทับใจ” เทรเวอร์กล่าวปิดท้าย
แมงโก้ ทรี นำเสนอรสชาติดั้งเดิมของประเทศไทยในร้านอาหารกว่า 70 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก โดยให้บริการอาหารไทยต้นตำรับจากสี่ภูมิภาคของไทย ได้แก่ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งภายในปี 2568 นี้ คาดว่าจะเปิดสาขาทั้งหมด 100 แห่งทั่วโลก
