นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนว่า หากใช้สายตาเพ่งหน้าจอมือถือติดต่อกันเกิน 2ชั่วโมง หรือทำงานที่ต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกวัน อาจเสี่ยงปัญหาสุขภาพที่เรียกว่า อาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม หรือ ซีวีเอส (Computer Vision Syndrome : CVS) โดยจะมีอาการแสบตา ปวดตา ตาแห้ง น้ำตาไหล ปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดไหล่หรือปวดหลัง ระดับความรุนแรงของอาการจะเพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาที่ใช้สายตาอยู่หน้าจอ
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า สาเหตุของอาการดังกล่าว ยังเกิดจากตำแหน่งการจัดวางคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสม มีแสงสว่างหรือแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ที่มากเกินไป ระยะห่างระหว่างดวงตากับจอคอมพิวเตอร์ ท่านั่งทำงาน ที่ไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดมาจากความผิดปกติสายตาของผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ดิจิตอลเอง ที่ไม่ได้รับการแก้ไข
โดยวิธีการปฏิบัติป้องกันที่ดีที่สุด คือ…
1.วางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากดวงตาประมาณ 20-28นิ้ว และควรให้จุดกึ่งกลางกึ่งกลางของหน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาในแนวราบประมาณ 4-5นิ้ว
2.ปรับแสงสว่างหน้าจอให้พอเหมาะและไม่สว่างเกินไป อาจใช้กระจกกันแสงสะท้อนติดที่หน้าจอ เพื่อลดแสงสะท้อนเข้าดวงตา
3.ควรพักการใช้สายตาเป็นระยะ โดยใช้ “สูตรการพักสายตา 20-20-20” คือละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 20 นาที แล้วมองไปที่วัตถุที่อยู่ไกลอย่างน้อย 20 ฟุต นานประมาณ 20 วินาที
นอกจากนี้ขณะทำงานหน้าจอ ควรกระพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดวงตา สำหรับผู้ที่มีสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น ยาว หรือเอียง ควรตรวจและแก้ไขความผิดปกติสายตาโดยใส่แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์ เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพที่หน้าจอได้อย่างชัดเจน และลดการเพ่งมองที่หน้าจอ ป้องกันอาการปวดตาหรือแสบตาได้ หากมีข้อสงสัยสามารถโทรปรึกษาจักษุแพทย์ ที่สถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค โทร 02-3868153 ต่อ 281-283 ในวันเวลาราชการ
ที่มา: สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข
เครดิตภาพ Unsplash/Pixabay.com