กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ บริษัทผู้ผลิตน้ำตาล ผู้ประกอบการโรงแรม/สถานที่จัดประชุม และภาคีเครือข่าย เร่งรณรงค์สร้างค่านิยม “คนไทยอ่อนหวาน ใช้น้ำตาลซองไม่เกิน 4 กรัม” ลดการบริโภคน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด ให้ได้วันละไม่เกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัม โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการผลิตน้ำตาลทรายบรรจุซอง 47 แห่ง ให้ผลิตน้ำตาลซองขนาด 4 กรัม และขอความร่วมมือโรงแรม สถานที่จัดประชุม ประมาณ 8,000 แห่ง หันมาใช้น้ำตาลซองขนาด 4 กรัมแทน
ทั้งนี้ พบว่าคนไทยรับประทานน้ำตาลสูงมากเฉลี่ยปีละ 30 กิโลกรัมต่อคน หรือวันละ 20 ช้อนชา ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกแนะนำกว่า 3 เท่าตัว ทำให้เกิดปัญหาโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้น ในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปพบถึง 1 ใน 10 หรือ 5.5 ล้านคน ทำให้ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากคนไทยหันมาใช้น้ำตาลซอง 4 กรัม จะลดปริมาณน้ำตาลได้คนละประมาณ 3 กิโลกรัมต่อปี และคาดว่าจะช่วยลดความสูญเสียจากน้ำตาลปีละไม่ต่ำกว่า 174 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักตัว ผ.ศ. (พิเศษ) นายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ แนะนำให้ใช้ความหวานจากธรรมชาติหรือพืชสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ 1.หญ้าหวาน ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 150-300 เท่า และไม่มีผลเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย 2.ชะเอมเทศ มีสารให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 50-100 เท่า โดยใช้รากหรือเนื้อไม้ชะเอมเทศบดใส่ในอาหาร ใส่หรือต้มลงในเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้เกิน 50 กรัมต่อวัน ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ เนื่องจากจะทำให้มีปัญหาน้ำคั่งในร่างกาย เกิดอาการบวมได้ จึงไม่ควรใช้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงหรือมีภาวะโพแทสเซียมต่ำ และ3.น้ำตาลจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลโตนด ซึ่งจะให้พลังงานน้อยกว่าน้ำตาลทราย โดยน้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา ให้พลังงาน 15 กิโลแคลอรี่ ขณะที่น้ำตาลทรายให้พลังงาน 20 กิโลแคลลอรี่
ที่มา: กลุ่มสารนิเทศกระทรวงสาธารณสุข
เครดิตภาพ ddouk/ Pixabay.com