ซานตาคลอสผู้ไม่เปิดเผยตน (Kansas City’s Secret Santa)
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อแลร์รี่ สจ๊วร์ต (Larry Stewart) เขาคือบุคคลซึ่งได้รับสมญานามว่า “ ซานตาคลอสผู้ไม่เปิดเผยตน ” อีกทั้งยังเป็นนักกิจกรรมเพื่อการกุศลที่บริจาคเงินเป็นจำนวนรวมถึง 2 ล้านดอลลาห์สหรัฐตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ โดยไม่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นใคร
ชีวิตของเขาเริ่มต้นจากการก่อตั้งธุรกิจของตัวเองขึ้น แต่ธุรกิจดังกล่าวไปไม่รอด เขาจึงกลายเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา และสุดท้ายก็โดนเลิกจ้างกลายเป็นคนตกงานในที่สุด
แล้วทำไมเขาถึงสามารถบริจาคเงินจำนวนมากได้
ช่วงที่ตกงาน แลร์รี่อยู่ในสภาพจนกรอบ แต่ด้วยความหิวโหย เขาจึงตัดสินใจเข้าไปรับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เมื่อได้สติว่าตัวเองไม่มีเงิน เขาก็เริ่มกลัวจะถูกจับส่งตำรวจ และอาจทำให้ครอบครัวต้องโดนหางเลขไปด้วย เขาจึงอึกอักบอกพนักงานที่เป็นแคชเชียร์ว่า
“ดะ…ดูเหมือนผมจะทำงานตกหาย”
สักพักหนึ่ง พนักงานร้านคนดังกล่าวก็ก้มตัวลง ก่อนยืนขึ้นตามเดิมแล้วพูดว่า “นี่หรือเปล่าครับ” พลางยื่นธนบัตร 20 ดอลลาห์สหรัฐให้แลร์รี่
เหตุการณ์นั้นทำให้แลร์รี่ไม่ถูกส่งตัวให้ตำรวจ
ไม่นานนัก แลร์รี่ก็ได้งานทำแต่ในวันหนึ่งของฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ เขากลับถูกเลิกจ้างอีกรอบเพราะเศรษฐกิจย่ำแย่
ระหว่างที่กำลังเดินเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมายในเมือง เขาก็ผ่านหน้าร้านขายป๊อปคอร์น ไม่รู้อะไรดลใจให้แลร์รี่หยุดเดินเพื่อสั่งป๊อปคอร์น พนักงานผู้หญิงที่แต่งตัวซอมซ่อยื่นป๊อปคอร์นกับเงินทอนให้เขาด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก พอเห็นเช่นนั้น แลร์รี่ก็คิดได้ว่า
“เราลำบากก็จริง แต่เธอคนนี้ดูจะลำบากยิ่งกว่าเราเสียอีก…”
ความคิดนั้นทำให้เขานึกถึงประสบการณ์ในร้านอาหารที่เขาได้ธนบัตร 20 ดอลลาห์สหรัฐมาช่วยชีวิตเอาไว้
“ดีละ” แลร์รี่คิด ก่อนดึงธนบัตร 20 ดอลลาห์ออกจากเงินทอนแล้วส่งให้พนักงานคนนั้นพร้อมกับบอกว่า “รับนี่ไปเถอะครับ ถือว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาส”
นาทีนั้น ใบหน้าที่ขาวซีดของเธอก็เปล่งประกายสดใสขึ้นมาทันที
“การบริจาคเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ ก็สามารถทำให้คนมีความสุขได้เหมือนกันนี่เอง” การได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเธอทำให้แลร์รี่ตัดสินใจครั้งใหญ่
แม้ตัวเองจะใช้ชีวิตอย่างข้นแค้น แต่เขาก็ยังเจียดเงินจากรายได้อันน้อยนิดมาซื้อของขวัญ แล้วเที่ยวเดินแจกให้แก่คนยากไร้โดยแต่งตัวเป็นซานตาคลอส มิหนำซ้ำเขายังนำเงินฝากทั้งหมดที่อยู่ในบัญชีธนาคารแจกให้ผู้อื่น
จนกระทั่งวันขึ้นปีใหม่ โชคใหญ่ก็มาเยือนแลร์รี่ เพราะเพื่อนที่รู้จักกันชักชวนให้เขาช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อตั้งบริษัทโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าหลังจากนั้นแลร์รี่ยังคงบริจาคอย่างสม่ำเสมอ ต่อมาเขาได้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ตอนนั้นเองที่เขามีโอกาสได้พบพนักงานในร้านอาหารที่เคยเก็บเงินส่งให้เขา เมื่อแลร์รี่เอ่ยย้อนความว่า “ตอนนั้นถ้าไม่ได้เงิน 20 ดอลลาห์ที่บังเอิญตกอยู่ข้างๆ ตัวและคุณเก็บขึ้นมาให้นั้นช่วยไว้ ผมคงแย่ไปแล้วครับ” แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่า
“เงินนั้นไม่ใช่เงินที่มีคนทำตกหรอกครับ แต่ผมเห็นท่าทางคุณกำลังลำบาก ก็เลยให้เงินนั้นกับคุณ”
แลร์รี่ทั้งช็อก ทั้งปลาบปลื้มใจ เขาจึงปฏิญาณกับตัวเองว่า “เรามีวันนี้ได้เพราะความเมตตาจากคนอื่นแท้ๆ ดีละ ต่อจากนี้เราจะขอเป็นซานตาคลอสผู้ไม่เปิดเผยตนไปตลอดชีวิต”
เพียงไม่นาน ซานตาคลอสผู้ซึ่งไม่มีใครรู้จักตัวจริง ก็กลายเป็นฮีโร่ของคนอเมริกันไปโดยปริยาย
แต่โชคชะตาช่างเล่นตลก แลร์รี่มารู้ตัวว่าเป็นมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่อีกได้เพียงไม่นานตอนอายุราว 50 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งงานและกิจกรรมการกุศลกำลังเฟื่องฟู
แม้ปณิธานจะแรงกล้า แต่เวลาในชีวิตเหลือน้อยเต็มที นั่นเป็นจุดหักเหที่ทำให้เขาออกมาประกาศผ่านโทรทัศน์ว่า ตัวเองคือซานตาคลอสผู้ไม่เปิดเผยตน อีกทั้งบอกเล่าให้ทุกคนรับรู้ถึงความเมตตาที่เขาเคยได้รับ การบริจาคเงินเพียงเล็กน้อยช่วยเสริมสร้างความกล้าให้เราได้มากเพียงใด และทุกคนสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้ได้เหมือนๆ กัน
“การช่วยเหลือผู้อื่นนี่แหละเป็นเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของพวกเรา”
การออกมาประกาศตัวครั้งนั้นทำให้มีจดหมายและอีเมลจากทั่วสหรัฐอเมริกาส่งมาถึงเขาหลายพันฉบับ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เขียนว่า “ผมเองก็จะเป็นซานตาคลอสที่ไม่เปิดเผยตนเหมือนกัน”
หนึ่งเดือนให้หลังแลร์รี่ก็เสียชีวิตอย่างสงบท่ามกลางความรักของผู้คนมากมาย
ถึงแลร์รี่จะจากโลกนี้ไป 10 กว่าปีแล้ว แต่ทุกวันนี้กิจกรรมของซานตาคลอสผู้ไม่เปิดเผยตนยังคงดำเนินอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมากที่สืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากแลร์รี่ ที่สำคัญคือ แนวคิดของเขาได้ส่งอิทธิพลอย่างมากแก่บรรดาผู้ประสบความสำเร็จหลายต่อหลายคน
“นิสัยรักการให้” นั้นไม่ว่าใครก็สามารถฝึกได้ และสิ่งนี้เองที่จะนำความสุขอย่างแท้จริงมาสู่ชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก
นิสัยเศรษฐี คนมีดีไม่ได้มีแค่เงิน สำนักพิมพ์อมรินทร์
ภาพจาก kansascity.com
บทความที่น่าสนใจ
ชาวอินเดียใจบุญ ขอบริจาคยาแจกคนยากจน
เพราะชีวิตสมดุลได้ด้วยการให้ทาน บทความธรรมะจาก พระไพศาล วิสาโล