หาเรื่องใส่ตัว

เรากำลังเครียดเพราะ หาเรื่องใส่ตัว กันอยู่รึเปล่า?

เรากำลังเครียดเพราะ หาเรื่องใส่ตัว กันอยู่รึเปล่า?

ความเครียดมักตามติดเราไปทุกที่ตั้งแต่ตอนอยู่บ้านกับครอบครัว ตามไปที่ทำงาน ห้องน้ำ หรือแม้แต่ช่วงที่เฝ้ารอวันเงินเดือนออก เป็นเรื่องปกติในสังคม หากคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ก็ย่อมมีเรื่องให้ต้องกระทบกระทั่งกับคนรอบข้างบ้าง แต่ความจริงแล้วความเครียดส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการ หาเรื่องใส่ตัว ของเราเองแท้ๆ อย่างที่นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ บอกไว้ใน บำบัดเครียด ว่า

ตัวอย่างคนที่ชอบหาเรื่องใส่ตัว เช่น เพื่อนๆ ชวนกันไปเที่ยวเราอยากไป แต่เขาไม่ชวนก็เอากลับมาเครียด แทนที่จะเดินเข้าไปบอกเขาตรงๆ ว่าขอไปด้วย เขาให้ไปก็ได้ไป เขาไม่ให้ไปหรือแสดงท่าทีว่าไม่ให้ไปก็ต้องยอมรับความจริง แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย มัวแต่ลองใจพวกเขาว่าจะมาชวนเราหรือเปล่า เช่นนี้เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัว

คู่รักที่ชอบลองใจกันเช่นนี้ก็เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัว คู่แต่งงานหลายปีแล้วยังชอบลองใจกันว่าจำวันเกิดได้ไหม จำวันครบรอบแต่งงานกันได้ไหม เช่นนี้เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัว

การก่อหนี้ที่ไม่สามารถจ่ายได้ก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัว เป็นเรื่องเดียวกับอยากมี อยากได้ แต่ประเมินตัวเองผิด อยากได้รถใหม่ซื้อเงินผ่อน แต่สุดท้ายผ่อนต่อไม่ได้ก็เครียด เช่นนี้เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวแต่แรก

การแสดงความรักลูกผิดวิธี ซื้อของใช้ราคาแพงให้จนถึงระดับเลี้ยงลูกด้วยเงิน สุดท้ายลูกก็เสียคน ก็เป็นกรณีหาเรื่องใส่ตัว

การร่วมทุนกับเพื่อนแล้วเพื่อนทิ้งกลางคัน เป็นกรณีที่พบบ่อยมากๆ ทำให้คนกลายเป็นคนป่วยจิตเวชเสมอๆ อย่างไรก็เป็นกรณีหาเรื่องใส่ตัว คือไว้ใจเพื่อนที่ไม่ควรไว้ใจแต่แรก

จะเห็นว่าความอยากมีอยากได้เป็นบ่อเกิดของความเครียดเสมอ อันที่จริงไม่ผิดอะไรที่คนเราจะอยากได้รถใหม่หรือลงทุนการค้าสักอย่างให้สำเร็จ ประเด็นคือต้องไม่เล็งผลเลิศ เพราะการเล็งผลเลิศมักเกิดจากกลไกทางจิตประเภท rationalization คืออ้างนั่นอ้างนี่

ให้เหตุผลนี่นั่นว่าซื้อรถใหม่แล้วจะดีอย่างไร ให้เหตุผลกับตัวเองว่าเพื่อนรักน่าไว้วางใจมากเพียงใด แต่เหตุผลเหล่านี้ผิด นั่นแปลว่าเราเข้าข้างตัวเอง

เวลาที่คนเรากำลังอยากได้อะไรใหม่ๆ มักหน้ามืดตามัวเสมอ ยกสารพัดเหตุผลมาหลอกตัวเองให้เชื่อ ในเวลานั้นๆ เป็นการยากที่เราจะรู้ตัว และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะถอดร่างมายืนดูตัวเองแล้วตระหนักว่า “ฉันฝันเฟื่อง” เล็งผลเลิศ หลงตัวเอง ประเมินกำลังตนเองผิดพลาดอย่างไร และกำลังเริ่มต้นกระบวนการหาเรื่องใส่ตัวโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นที่ทำได้คือการ “ประวิงเวลา” แน่นอนว่าไม่ได้ประวิงเวลาไปจนถึงระดับไม่ทำอะไรอีกเช่นกัน เพียงแต่อะไรรอได้ก็ให้รอไว้ก่อน

อะไรที่ว่ามักเกี่ยวพันกับประเด็นความอยากได้นั่นได้นี่ ให้ประวิงไว้สักพัก แล้วสติมักคืนมาว่า อยากได้จริงหรือเปล่า และถ้าอยากได้จริง คำถามต่อมาคือ สามารถหามาได้จริงหรือเปล่า

คนเราเดินห้างสรรพสินค้าย่อมอยากได้เสื้อใหม่ กระเป๋าใหม่ รองเท้าใหม่ทุกวัน ซึ่งไม่แปลกเพราะเราเป็นคนธรรมดา แต่เราไม่สามารถปล่อยให้ความอยากครอบงำได้ทุกวัน คนดีไม่หาเรื่องใส่ตัวต้องรู้จักถ่วงเวลาของความอยากเอาไว้ก่อน สักสัปดาห์ก็ยังดี

ถ้าอยากจริงมีเงินแน่ก็ไปซื้อ แน่นอนว่าซื้อเสร็จไม่มีสตางค์เหลือกินข้าวก็ต้องยอมรับ ไม่ตีโพยตีพาย


บทความที่น่าสนใจ

5 Super food กินคลายเครียด

4 วิธีแก้ความเครียด ทำตามง่าย ได้ผลจริง

13 โรคร้ายจาก ความเครียด

Posted in NEWS
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.