วิธีฝึกตื่นเช้า เคล็ดลับปรับชีวิตสำหรับมนุษย์ทำงาน
ใครรู้ตัวว่า กดปุ่ม Snooze เลื่อนเวลาปลุกในมือถือบ่อยยิ่งกว่ากดโทร.เข้า โทร.ออก สงสัยต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันซักหน่อยแล้วละค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้นิสัย “ขอต่อเวลานอน” เรื้อรังอยู่แบบนี้ ต่อไปเวลามีงานสำคัญตอนเช้า จะพานผิดนัดเอาได้ง่ายๆ หรือไม่ก็ต้องทำงานไปกระดกกาแฟไป…จะไหวเหร๊อ มาค่ะ ลองมาเปลี่ยนตัวเองด้วย วิธีฝึกตื่นเช้า ที่ คุณหมออีชีฮยอง แพทย์จิตเวชชาวเกาหลี แนะนำกันดีกว่า
วิธีฝึกตื่นเช้า
1.ตื่นเช้ากว่าเวลาตื่นปกติ 10 นาที ทำต่อเนื่องไปสามวัน เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง
2.ตื่นเช้าขึ้นอีก 10 นาที จากเวลาเดิม ทำต่อเนื่องอีกสามวัน เมื่อทำซ้ำๆ จะช่วยให้เข้าใกล้เวลาตื่นที่เราตั้งเป้าหมายไว้
3.วันแรกกับวันที่สองให้เปิดไฟทิ้งไว้ พอวันที่สามให้มุ่งมั่นบอกกับตัวเองว่า “พรุ่งนี้ฉันจะตื่นเวลา…!” แล้วเข้านอน ไม่ต้องเปิดไฟก็ตื่นเองได้แน่
4.ถ้ากำหนดดีเดย์ไว้ตรงกับช่วงต้นฤดูร้อนจะตื่นง่ายขึ้นรับเช้าวันใหม่ที่สดใส
5.ถ้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ให้ปล่อยไปก่อนสักพัก สภาพร่างกายคนเราแต่ละวันไม่เหมือนกัน วันไหนตื่นไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่ต้องฝืน ลืมมันไปเสีย
6.แผนการนี้ไม่มีคำว่าล้มเหลว มีแต่สำเร็จ เพราะความล้มเหลวถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินตามแผน
7.ทันทีที่ตื่นให้ถีบตัวลุกจากที่นอน กล้ามเนื้อเมื่อเคลื่อนไหวจะช่วยกระตุ้นการตื่นนอนไปสู่สมอง
8.หลังตื่นนอน เตรียมหาสิ่งที่ชอบทำ ถ้าตื่นแล้วไม่มีอะไรดีๆ ทำจะตื่นไปทำไมล่ะ
ข้อควรจำ
1.ไม่ว่าจะนอนกี่โมง ต้องรักษาเวลาตื่นให้ตรง เมื่อตื่นตรงเวลาจะส่งผลย้อนสู่เวลานอนให้ตรงตาม
2.เข้านอนดึกสุดไม่เกินห้าทุ่ม ไม่ว่ากรณีใดๆ พยายามอย่าให้เกินเที่ยงคืน
3.หากได้นอนตอนกลางคืนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงเต็ม จะไม่เกิดปัญหาใดๆ ต่อสุขภาพ
4.จำไว้ว่า เวลานอน 2 ชั่วโมงตอนเช้ามืด เป็นเหมือนแค่เครื่องประดับ ถึงจะขาดไปก็มิได้ส่งผลเสียต่อการพักผ่อน
5.ไม่ว่าจะเป็นการนอน 6 ชั่วโมง หรือ 9 ชั่วโมง ต่างคล้ายคลึงในแง่ว่า เป็นเวลาที่ได้พักผ่อนให้ร่างกายได้ทำงานต่างๆ ที่จำเป็น
6.ความยาวนานของเวลานอนหลับถือเป็นนิสัยส่วนตัว
7.ถ้ารู้สึกว่านอนไม่พอ ให้นอนกลางวันหลังมื้อเที่ยง นานสัก 15-20 นาที
8.การใช้นาฬิกาปลุกลดประสิทธิภาพการนอนหลับพักผ่อนลงร้อยละ 20
การนอนตื่นเช้านอกจากจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นไปทั้งวันแล้ว ยังทำให้มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้นด้วย…ถ้าอยากลองปรับชีวิตให้ดีขึ้น ต้องลองค่ะ
ขอบคุณเคล็ดลับดีๆ จากคุณหมอชีฮยอง จากหนังสือ “สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย”
มาปฏิรูปการทำงานแบบใหม่ที่เปี่ยมด้วยกำลังวังชาและไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย ด้วยเคล็ดลับดีๆ จากหนังสือ “สมองหายล้า ชีวิตก็หายเหนื่อย” เขียนโดย ชีฮยอง (แพทย์จิตเวช) แปลโดย ตรองสิริ ทองคำใส สำนักพิมพ์ Shortcut สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ได้ที่ naiin.com
บทความน่าสนใจ
13 สิ่งผิดพลาด ที่คนส่วนใหญ่ชอบทำตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน
มารู้จัก นาฬิกาชีวภาพ ในร่างกายของเรากันดีกว่า