ความท้าทายของชีวิตในช่วงที่อายุแตะเลข 4 คือความพยายามยืดความเยาว์ให้อยู่กับตัวให้ได้นานที่สุด โดยเฉพาะปราการด่านแรกอย่างผิวพรรณ ที่มาพร้อมสัญญาณแจ้งเตือนว่ากำลังร่วงโรยไปตามวัย ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนยาน จุดด่างดำ รวมถึงปัญหาผิวแห้ง
แม้การย้อนเวลาให้ผิวกลับไปเรียบตึงดังเดิม 100% คงเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเลือกปรับพฤติกรรมบางอย่าง ก็สามารถหยุดสัญญานความร่วงโรยแห่งวัยได้ โดย ดร. ณิชมน สมันตรัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ธรรมชาติบำบัด(Naturopathic Doctor)** คนแรกของประเทศไทย จากมหาวิทยาลัยเฉพาะทางธรรมชาติบำบัดระดับโลก ประเทศสหรัฐอเมริกา, ผู้ก่อตั้ง NICHE Natural Health ศูนย์การรักษาแบบธรรมชาติบำบัดครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย เผย 8 วิธีในการดูแลสุขภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้ ดังนี้
- บอกลาความเครียด
ความเครียดคือตัวการทำลายผิวอย่างรุนแรง งานวิจัยที่ผ่านมาได้ชี้ชัดว่า ระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาทของเรามีการสื่อสารระหว่างกันอยู่ตลอด เมื่อเรามีความเครียดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ภูมิคุ้มกันของเราทำงานได้ลดลง ส่งผลให้ระบบต้านอนุมูลอิสระในเซลล์มีประสิทธิภาพลดลง เซลล์จึงถูกทำร้ายได้ง่ายขึ้น อันเป็นต้นตอสำคัญของความร่วงโรยทั้งบนผิวและภายในร่างกาย
** การแพทย์เนเชอโรพาธิค (Naturopathic Medicine) คือการค้นหาสาเหตุของอาการป่วยให้เจอด้วยการตรวจอย่างละเอียด และใช้การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เลี่ยงการใช้ยาเคมีและการผ่าตัดที่ไม่จำเป็น เพื่อลดผลข้างเคียงในระยะยาว เธอราปีที่ใช้มีตั้งแต่การปรับไลฟ์สไตล์ อาหารที่ช่วยบำบัดโรค การออกกำลังกายเพื่อบำบัดอาการบาดเจ็บเรื้อรัง การใช้สารอาหารและสารสกัดจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ การให้สารอาหารทางหลอดเลือด (IV Drip Therapy) การบำบัดด้านอารมณ์และจิตใจ เป็นต้น
จะลดสภาวะความเครียดที่เกิดจากจิตใจ (psychological stress) ได้อย่างไร?
- ฝึกความคิดเชิงบวกและการปล่อยวาง
- นั่งสมาธิ
- ออกกำลังกาย
- มีปฏิสัมพันธ์ (interaction) กับผู้คนรอบตัว เช่น การพบปะเพื่อนฝูง
- การทำกิจกรรมเชิงความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานศิลปะ
- ทำทรีตเมนต์และนวดผ่อนคลาย
- ใช้กลิ่นบำบัด (aromatherapy) อาทิ กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือเบอร์กามอท
กลิ่นช่วยให้ระบบประสาทของเราเข้าสู่โหมดสงบ (parasympathetic) ซึ่งนอกจากจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้แล้ว ยังเป็นโหมดที่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งงานวิจัยชี้ชัดไปในทางเดียวกันว่ากลิ่นบำบัดนั้น สามารถลดความรู้สึกเครียด ความคิดเชิงลบ ความวิตกกังวล และอาการเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี เมื่อวัดผลไปถึงการตอบสนองของร่างกาย พบว่าฮอร์โมนคอติซอล (cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด ชีพจร และ ความดันโลหิตก็ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญด้วยเช่นกัน ทั้งในกลุ่มผู้ใหญ่และเด็กวัยรุ่น
- กินผัก ผลไม้หลากสี
ผักและผลไม้หลากหลายสีสัน นอกจากจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ แล้ว ยังมีสารอาหารที่สำคัญ อย่าง ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrient) หรือ สารพฤกษเคมี สารสีที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น นอกจากมีประโยชน์นานับประการ แต่ที่สำคัญ คือ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
- สีเขียว
ผักใบเขียวทุกชนิด หน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด บรอกโคลี เซเลอรี่ แตงกวา ถั่วสีเขียว ชาเขียว ฝรั่ง และแอ๊ปเปิ้ลเขียว
- สีขาวหรือสีน้ำตาล
ขิง ข่า กระเทียม หัวไชเท้า ดอกกะหล่ำ ถั่วงอก ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดคินัว ข้าวกล้อง งาขาว มันฝรั่ง หัวหอมใหญ่ กล้วย สาลี่ และแห้ว
- สีฟ้า / สีม่วง
มะเขือม่วง กะหล่ำปลีสีม่วง มันเทศสีม่วง หอมแดง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ องุ่นม่วง แบล็คเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และดอกอัญชัน
- สีแดง
แอ๊ปเปิ้ล บีตรู้ต เชอร์รี่ ถั่วแดง ทับทิม องุ่นแดง สตรอว์เบอร์รี่ และมะเขือเทศ
- สีส้ม
ส้ม มะละกอ แครอต และแคนตาลูป
- สีเหลือง
ฟักทอง พริกหวานสีเหลือง ข้าวโพด ลูกแพร
- ทำทรีทเม้นท์
การทำทรีทเม้นท์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถยืดอายุความเต่งตึงของผิวได้ อาทิ การขัดผิว สามารถกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เผยผิวใหม่ที่ดูเปล่งปลั่งสดใสกว่าเดิม โดยเฉพาะการทรีตเม้นท์ ด้วยการนวดหน้านั้น นอกจากเป็นการทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึกแล้ว ขั้นตอนการนวดยังช่วย
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และต่อมน้ำเหลือง ทำให้ผิวดูสุขภาพดี มีออร่าจากภายใน
- ช่วยลดริ้วรอย ซึ่งความสม่ำเสมอในการทรีทเม้นท์นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า รวมถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอย
แนะนำอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือมากกว่านั้นตามความต้องการของสภาพผิวหน้าและอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์แย่ๆ
ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง จะเป็นตัวการทำร้ายผิวและทำให้ผิวดูร่วงโรยหนักกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น
- การอาบน้ำร้อนเป็นเวลานาน ๆ
- การใช้สบู่ที่มีฤทธิ์แรง อาจทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันที่ทำหน้าที่ปกป้องผิว ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนมาใช้สบู่หรือเคลนเซอร์ชนิดอ่อนโยน ปราศจากสารซักล้าง (SLS)
- การสูบบุหรี่ เพราะสารพิษในบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดเกิดการตีบตัน จนไม่สามารถลำเลียงวิตามินและสารบำรุงต่าง ๆ ไปเลี้ยงผิวได้อย่างสะดวก แถมบุหรี่ยังเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ได้
- แอลกอฮอล์ก็เป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่เร่งริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด นอกจากอนุมูลอิสระแล้ว ยังทำให้ตับของเราทำงานหนัก และทำให้ขับของเสียอื่น ๆ ในร่างกายช้าลงตามไปด้วย
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว
ควรใช้เคลนเซอร์ที่ออกแบบมาสำหรับแต่ละสภาพผิว ที่สำคัญไม่ควรมีสารซักล้าง (SLS)
- ผิวแห้งควรเลือกใช้เคลนเซอร์ที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากดอกส้มที่ช่วยเติมความชุ่มชื่น
- ผิวธรรมดาหรือผิวผสมควรเลือกใช้เคลนเซอร์ชนิดที่ปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน อย่างผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกลีบกุหลาบ
- ผิวมันควรเลือกใช้เคลนเซอร์ที่ช่วยชำระล้างน้ำมันส่วนเกินบนผิวออกไปโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง อาทิ เคลนเซอร์ที่มีสารสกัดจากพาลมาโรซา หรือ โฮโฮบาซึ่งจะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี
- เติมความชุ่มชื่นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์
มอยส์เจอไรเซอร์คือเพื่อนที่ดีที่สุด เพราะผิวของผู้หญิงในวัยนี้มักจะเกิดอาการแห้งได้ง่าย ควรใช้เช้าและเย็นอย่างสม่ำเสมอ
ตอนเช้าเลือกโลชั่นเนื้อสัมผัสบางเบา
กลางคืนเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ รวมทั้งช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบและเปล่งประกายสดใส
หรือถ้าชอบแบบออยล์บำรุงผิว ควรเลือกออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันอาร์แกนหรือโรสฮิป เพราะน้ำมันทั้งสองชนิดจะช่วยคืนความยืดหยุ่นให้กับผิวของผู้หญิงในวัยนี้ได้เป็นอย่างดี
- อยู่ให้ไกลแสงแดด
แสงแดดจะทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ก่อให้เกิดจุดด่างดำ และทำให้เซลล์ผิวเกิดการเจริญเติบโตแบบผิดปกติ แดดแรงเป็นต้นเหตุของรอยเหี่ยวย่น กระ และผิวหยาบกร้าน นอกจากนี้ยังมีภัยร้ายแอบแฝงที่อาจเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งผิวหนัง ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงต้องอยู่ให้ไกลแสงแดด โดยเฉพาะแดดระหว่าง 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่ยูวีในแสงแดดมีพลังในการทำลายล้างสูงสุด
- ซีรั่มเริ่ดๆ ต้องออร์แกนิคเท่านั้น
40 ช่วงวัยที่เหมาะสมในการใช้ซีรั่ม เพราะซีรั่มจะมีส่วนผสมหรือเทคโนโลยีที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยหรือยกกระชับผิว ชนิดที่จะไม่พบในเคลนเซอร์ มอยส์เจอไรเซอร์ หรือออยล์บำรุงผิวหน้า ควรมองหาซีรั่มที่มีส่วนผสมของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น
- “แฟรงค์คินเซนส์” ที่เลื่องชื่อมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ ที่นอกจากจะช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์แล้ว ยังช่วยให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้ด้วย
- กรดไฮยาลูรอนิค ที่ช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างเต็มเปี่ยม
- น้ำตาลไรโบส สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส
ที่สำคัญควรเลือกซีรั่มแบบออร์แกนิคเท่านั้นที่จะช่วยให้คงความอ่อนเยาว์ได้อย่างยั่งยืน
มองหาผลิตภัณฑ์ พร้อมร่วมสนับสนุนและรณรงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากส่วนผสมช่วยคืนสมดุลให้กับผิวธรรมชาติที่ได้รับการเพาะปลูกแบบออร์แกนิคอันบริสุทธิ์ปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณและสิ่งแวดล้อมได้แล้วที่เคาน์เตอร์นีลส์ ยาร์ด เรมมิดีส์ (Neal’s Yard Remedies) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคตัวจริงเสียงจริงจากประเทศอังกฤษ การันตีกว่า 50 รางวัลจากสถาบันต่างๆ ชั้นเอ็ม บิวตี้ฮอลล์ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
สามารถอัพเดตข้อมูลข่าวสารได้ที่
www.facebook.com/NealsYardRemediesThailand
#ProofOrganicWorks #NealsYardRemediesTH #PremiumOrganic#GlobalLeader