จากค่านิยมในอดีตที่สังคมมักจะสนับสนุนให้ผู้หญิง “แต่งงาน” มากกว่าการอยู่เป็น “โสด” และเปลี่ยนบทบาทจากสาวโสดที่มีชีวิตแบบอิสระมาสู่บทบาทของภรรยาและแม่บ้านแบบเต็มตัว รับหน้าที่ดูแลบ้าน ทำกับข้าว เลี้ยงลูก ปรนนิบัติสามี อาจต้องละทิ้งความฝันหรือความทะเยอทะยานในหน้าที่การงาน เพราะนั่นคือสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะได้เป็นแม่บ้านที่ดีตามขนบธรรมเนียมที่ทำต่อๆ กันมา ผู้หญิงหลายๆ คนมองว่าบทบาทแม่และภรรยาที่ดีของลูกๆ และสามีคืออาชีพในฝัน หรือการได้เป็นแม่บ้านเต็มตัวคือรูปแบบชีวิตในอุดมคติ เป็นการฝึกทักษะในการทำงานบ้าน การได้ฝึกทำอาหาร และการจัดการบริหารตารางเวลาชีวิตเพื่อดูแลสมาชิกในบ้านให้ดีที่สุดคือความงดงามของชีวิต
แต่ทว่าสมัยนี้ค่านิยมที่กล่าวมานั้นได้พลิกผันไปแล้วราวหน้ามือกับหลังมือ เพราะคำว่า “อิสระ” นั้น มีความหมายยิ่งใหญ่เกินกว่าคำว่า “แต่งงาน” ไปไกลแล้ว สาวๆ สมัยนี้มีความคิดและเป็นตัวของตัวเอง รวมถึงมีตัวอย่างคู่รักที่ไม่ประสบความสำเร็จในการครองคู่ออกมามากมายเหลือเกิน ยกตัวอย่างการสำรวจคู่แต่งงานในกรุงเทพมหานคร ที่พบว่าทุก 10 คู่ที่จดทะเบียน สมรสกันนั้น จะกลับมาจดทะเบียนหย่าราวๆ 3-4 คู่ ทำให้ปัญหาการเลิกราถูกมองเป็นเรื่องปกติในสังคมไปซะแล้ว ผู้หญิงยุคใหม่จึงไม่ค่อยสนใจกับคำว่าแต่งงานหรือมีคู่มากเท่าใดนัก
แต่คุณสาวๆ คะ เราต้องอย่าลืมว่าธรรมชาติได้สร้างมาให้คนเราควรที่จะมีคู่นะคะ เชื่อสิว่าการมีคู่จะต้องมีอะไรดีแน่ๆ ไม่งั้นคนเราไม่ขวนขวายที่จะหาคู่กันหรอกใช่มั้ยคะ (มันต้องมีอะไรดีๆ อยู่บ้างล่ะ) ถึงแม้จะมีหลายคู่ที่เลิกรา แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่อยู่กันแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเช่นกัน
วันนี้เรามีข้อคิดดีๆ มาฝากสาวๆ กันค่ะ ก่อนตัดสินใจมีคู่ หรือตัดสินใจเลือกเอาใครสักคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั้นควรต้องมีข้อเตือนใจอะไรกันบ้าง อาจเป็นข้อเตือนใจเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากเอามาฝากกัน รู้เอาไว้ก็ไม่เสียหาย บางทีอาจได้ข้อคิดที่จะกลับไปทบทวนการใช้ชีวิตของตัวเองกันว่าก่อนคิดจะเลือกคู่ต้องรู้อะไรกันบ้าง!!
>> อย่าแต่งงานกับผู้ชายที่มีเงินอู้ฟู่เกินไป<<
ใครๆ ก็อยากมีชีวิตที่สุขสบาย กินดี มีบ้านหรู มีเงินใช้สอยไม่ขาดมือด้วยกันทั้งนั้น ถือเป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ ค่อนโลกเลยก็ว่าได้ แต่รู้มั้ยคะว่าหนุ่มๆ ที่มีฐานะร่ำรวยมากๆ นั้น เค้าต้องใช้เงินในการเข้าสังคม และสังสรรค์ไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งเป็นคนมีฐานะมีหน้ามีตาในสังคมด้วยยิ่งแล้วใหญ่เลยล่ะค่ะ แต่งงานกับหนุ่มประเภทนี้เหมือนแต่งกับทีวีเลยเชียวล่ะ ชีวิตเหมือนอยู่กับความหรูหรา สุขสบาย แต่จริงๆ แล้วความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ในใจใครจะรู้ จะเลือกทั้งทีก็เอาที่ฐานะ พอมีพอกินก็พอค่ะ รวยมากไปทำตัวลำบากนะคะ
>> อย่าแต่งงานกับหนุ่มหล่อมาก อาจทำให้ชีวิตไม่เป็นสุข <<
สาวๆ รู้หรือไม่คะว่าหนุ่มหล่อน่าตาดีมากๆ นั้น แม้ว่าเค้าจะรักคุณมากสักเพียใด แต่เค้าก็เป็นที่หมายปองของสาวๆ มากหน้าหลายตาด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าหนุ่มคนนั้นมีอัธยาศัยดีด้วยแล้วยิ่งต้องระวังเลยล่ะคะ เพราะจะมีผู้หญิงวิ่งเข้ามาหาคนของคุณเองไม่น้อยแน่ๆ แหม! ก็เพราะใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้คนน่าตาดี แถมเป็นกันเองอีกด้วย เอาแค่พอไปวัดไปวาได้จะดีกว่าค่ะ หล่อมากไป น่าตาดีมากไป ก็น่าเป็นห่วงน๊า
>> อย่าแต่งงานกับผู้ชายที่มีให้แค่เวลา <<
ความคาดหวังของสาวๆ อีกอย่างในการเลือกคู่ครองก็คือ การที่ได้ผู้ชายที่มีเวลาให้ครอบครัว มีเวลาอยู่ทำกับข้าว อยู่ทานข้าวด้วยกัน มีเวลาไปเดินห้างกับเรา ตกเย็นก็มีเวลาสอนหนังสือลูกๆ นั่นเองค่ะ คู่ครองแบบนี้เป็นคู่ครองในอุดมคติเลยก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้การมีเวลาให้เขาก็ต้องมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมาให้คุณด้วยเช่นกัน นั่นหมายถึง ต้องพอมีให้ทั้งฐานะและมีเวลาให้ด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ ไม่ใช่ว่ามีเวลาแล้วไม่มีเงืนให้ อันนี่ก็ไม่ไหวน๊า
>> อย่าแต่งกับหนุ่มช่างเอาใจ และปากหวานเกินไป <<
ชายหนุ่มประเภทนี้มักจะปากหวาน วาดวิมานให้คุณเพ้อฝันไปวันๆ แค่คุณเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนสไตล์เสื้อผ้า เค้าจะเห็นเป็นคนแรกๆ และมักจะเข้ามาชื่นชมด้วยคำหวานหู แต่ทว่าหนุ่มประเภทนี้ก็มิได้ช่างเอาใจเฉพาะคุณเพียงคนเดียวหรอกนะ กับคนอื่นๆ เค้าก็อาจจะไปชื่นชมด้วยเหมือนกัน เพราะเค้าปากหวานยังไงล่ะคะ แต่หากคุณเป็นผู้หญิงที่มี่ค่อยคิดอะไรมากก็อาจจะไม่ทุกข์ก็ได้ แต่หากว่าคุณเป็นคนคิดมากแล้วล่ะก็ไม่ดีแน่ๆ เลยใช่มั้ยคะ!
>> อย่าแต่งกับหนุ่มที่สมถะเรียบง่ายเกินไป <<
การที่คนรักของคุณมีความซื่อสัตย์และไม่แบ่งใจไปให้ใครอื่นนั้นเป็นสิ่งดีค่ะ แต่หากว่าความสมถะเรียบง่ายของเค้ามีมากเกินไปมันอาจกลายเป็นความซื่อ และดูน่าเบื่อใช่มั้ยคะ อย่างเช่นเมื่อคุณซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาใส่เป็นอาทิตย์เขายังไม่รู้และไม่ทันสังเกตเลยด้วยซ้ำ ซึ่งตัวคุณเองนั่นแหละที่จะเป็นคนรู้สึกว่าเค้าไม่ไรแมนติกเอาซะเลย ไม่รู้จักพูดคำหวาน และน่ากลัวว่าอาจมีสักวันหนึ่ง ที่คุณจะรู้สึกอิจฉาเพื่อนที่มีสามีช่างเอาอกเอาใจแน่ๆ เลยล่ะค่ะ!
คุณสาวๆ คะ เมื่ออ่านบทความนี้จบลง คุณอาจคิดในใจว่า แล้วในโลกใบนี้จะมีหนุ่มคนไหนที่มีให้ทั้งเงินและเวลา แล้วจะมีหนุ่มคนไหนที่ช่างเอาใจแต่ไม่เจ้าชู้ ต่อให้มีก็เชื่อแน่ว่าคงไม่รอดมาถึงมือพวกเราแน่ๆ เลยใช่มั้ยคะ เอาเป็นว่าค่อยๆ ดูไปละกันค่ะ เจอแล้วดีค่อยตกลง แต่ถ้ายังไม่ดี (พอ) ก็ไม่ต้องรีบนะ สวยๆ แบบเรา ต้องเลือกนิดนึง และหากถามสาวๆ สมัยนี้ว่าความฝันในตอนนี้คืออะไร คำตอบน่าจะเป็นการได้ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ ที่เธอรัก และวางแผนเก็บเงินไว้สำหรับใช้ในอนาคตมากกว่าการมานั่งหาคู่แน่ๆ เลย อันนี้เรื่องจริงใช่หรือไม่คะคุณสาวๆ ^^
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ