วันนี้เราจะพาไปเที่ยวภาคใต้ ไปกันที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่นี่อาจไม่ใช่ที่แรกที่คนมาเที่ยวใต้จะนึกถึง ที่นี่มีทั้งธรรมชาติ วัดวาอารามมากมายให้ได้เที่ยว รวมถึงความงดงามทางด้านศิลปวัฒนธรรม และวิถีชาวบ้านที่น่าสนใจ ไปค่ะ ไปเที่ยวนครฯ กัน
นครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่ได้หลอมรวมเอา ธรรมะ และธรรมชาติมารวมกันไว้เป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว และสถานที่แรกที่เราจะพาไปเที่ยวกันก็คือตลาดเช้าที่อยู่ริมทางรถไฟมีอายุเก่าแก่นับ 100 ปี ตลาดเก่าริมทางรถไฟคลองจันดีแห่งนี้ เป็นตลาดที่คนไทยเชื้อสายจีนจะนำสินค้าพื้นที่มาวางขายกันที่ริมทางรถไฟ โดยตลาดจะเริ่มเปิดในช่วงเวลาประมาณตี 2 ไปจนถึง 10 โมงเช้า ส่วนสินค้าที่นำมาวางขายนั้นก็มีทั้งของสด ของคาว และของหวาน เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวที่ชอบสินค้าพื้นบ้านและอาหารท้องถิ่นไม่ควรพลาดเลยครับ
ต้องบอกว่าที่ตลาดแห่งนี้นอกจากจะมีขนมอร่อยๆ ให้เราได้ทานแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือร้านกาแฟจันดีโอชา ร้านกาแฟโบราณที่ยังคงความคลาสสิคและคงบรรยากาศเก่าๆ ในวันวานให้เราได้เห็น ทุกอย่างในร้านจะเป็นของเก่าๆ ที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึงบรรยากาศในวัยเด็กจริงๆ เลยครับ
นอกจากได้ชิมกาแฟโบราณกันไปแล้วที่นี่ยังมีอีกหนึ่งร้านค้าซึ่งเก่าแก่เช่นกัน นั่นก็คือร้านหมี่เกี๊ยวจันดี เป็นร้านบะหมี่ที่สืบทอดความอร่อยมาจากประเทศจีนกว่า 100 ปี ซึ่งร้านนี้นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องบะหมี่ที่เหนียวนุ่มแล้ว ยังขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำซุปที่หอมหวานเป็นที่ขึ้นชื่อมากๆ และวัตถุดิบทุกอย่างต้องสดใหม่เสมอ ทำให้ร้านนี้มีลูกค้าเต็มร้านทุกวันเลยครับ
ร้านหมี่เกี๊ยวจันดีนี้จะผลิตเส้นบะหมี่และแผ่นเกี๊ยวเองแบบสดๆ ใหม่ๆวันต่อวัน ใครมาที่นี่นั้นห้ามพลาดแวะมาชิมกันเลย และอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคือ เมนู 3 สหาย ซึ่งก็จะเป็นเมนูเนื้อสัตว์หลากหลายอย่างจัดรวมเอาไว้ในจานเดียวครับ เรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์อีกอย่างของร้านนี้
หลังจากที่เราได้อิ่มท้องกันไปแล้วอีกหนึ่งสถานที่ชื่นใจต่อมาที่เราจะพากันไปนั้นก็คือ วัดธาตุน้อย ซึ่งการเดินทางมานั้นหากเดินทางมาจากสถานีรถไฟคลองจันดีใช้ถนนเส้นขนานทางรถไฟมุ่งหน้าสู่ถนน 4015 จากนั้นตรงมาตามทางรถไฟไปจนพบกับสะพานใหญ่ จากนั้นขับตรงไปอีก 500 เมตร ก็จะถึงวัดธาตุน้อยแล้วครับ
วัดธาตุน้อยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2505 ภายในวัดนั้นมีพระธาตุที่มีลักษณะจำลองมาจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ขออพรกันด้วยครับและในเจดีย์ภายในวัดยังได้บรรจุพระสรีระสังขาลของพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งของคนนครศรีธรรมราชอีกด้วยครับ
อีกหนึ่งสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวกันคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทยบ้านคลองปีกเหนือ ซึ่งการเดินทางมาที่นี่หากเราเริ่มต้นจากวัดธาตุน้อยให้ใช้ถนนหมายเลข 4015 วิ่งตรงมาประมาณ 6 กม. ก็จะเจอศาลาคุณแม่ จากนั้นก็ตรงไปถึงเทศบาลสวนขันเลี้ยวขวา เดินทางต่อไปอีก 4 กม.ก็จะถึงกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทยแล้วครับ
ชาวบ้านที่นี่นั้นมีการรวมกลุ่มกันเลี้ยงผึ้งมานานเป็น 10 ปี โดยเริ่มจากการรวมเงินกันเพื่อซื้อเศษไม้เก่ามาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของผึ้ง โดยจะนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆของสวนผลไม้ และเมื่อสวนผลไม้นั้นไม่มีการใช้สารเคมีทำให้ผึ้งเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งนอกจากชาวสวนจะได้ใช้ประโยชน์จากผึ้งในเรื่องของการผสมเกสรแล้ว ผลผลิตสำคัญที่ได้จากผึ้งนั้นก็คือน้ำผึ้งครับ
และแน่นอนว่ามาเยือนถิ่นน้ำผึ้งแท้ๆ ทั้งทีงานนี้ต้องขอชิมน้ำผึ้งสดๆ จากรังกันหน่อยครับ ต้องบอกว่าน้ำผึ้งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงของไทยของ อ.ช้างกลาง นี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งของดีของจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ
นอกจากเราพาไปดูการเลี้ยงผึ้ง การเก็บรังผึ้งแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ถือเป็นของดีของ อ.ช้างกลาง ที่ใครมาเที่ยวนั้นขอบอกว่าต้องไม่พลาดที่จะแวะมาที่นี่ นั่นก็คือการทำผ้ามัดย้อม และการทำผ้าบาติกจากสีธรรมชาติครับ ซึ่งชาวบ้านที่นี่จะใช้ใบมังคุดแห้ง และใบขัน ที่หาได้จากท้องถิ่นมาผลิตผ้ามัดย้อม ต้องบอกว่าสิ่งนี้ถือเป็นเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะมีสีสันที่สวยงามจากธรรมชาตินั่นเองครับ
นอกจากผ้ามัดย้อมแล้วทางกลุ่มนั้นยังได้มีการทำผ้าบาติกเขียนเทียน ซึ่งลวดลายนั้นสามารถที่จะสั่งทำได้ด้วยครับถ้าใครอยากเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้าบาติกแบบสำเร็จรูปทางกลุ่มก็มีจำหน่ายให้เช่นกันครับ
เช้าวันนี้เราจะพาทุกคนมาต่อกันที่ อ.ลานสกา ครับ ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักนั่นก็คือ สวนน้ำขุนทะเล มาถึงที่นี่จะมีกิจกรรมมากมายให้เราได้ทำ ถ้าใครอยากหาอาหารอร่อยๆ ทาน ที่นี่ก็มีร้านอาหารและแพไว้คอยบริการ สามารถลงไปทานบนแพได้เลย หรือใครอยากพักผ่อนก็มีที่พักเป็นหลังๆ แถมมีเรือแคนู เรือคายัค สามารถล่องไปท่องเที่ยวได้อย่างสบายเลยครับ
หลังจากสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ ที่สวนน้ำขุนทะเลแล้ว เราไปต่อกันที่สถานที่ที่เป็นแหล่งในฝันของใครหลายคน ที่ว่ากันว่าเป็นสถานที่ที่อากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยด้วยครับ ที่นี่ก็คือ คีรีวง จ.นครศรีธรรมราช แหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ต่างๆ ซึ่งนอกจากความสมบูรณ์ของป่าไม้จะนำมาซึ่งอากาศบริสุทธิ์ และทำให้ที่นี่มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีแล้ว ผลผลิตจากธรรมชาติยังถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นของที่ระลึกสำหรับนำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวครับ โดยชาวบ้านนั้นมีการนำเอาลูกไม้ต่างๆ มาออกแบบด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเครื่องประดับจากธรรมชาติครับ
และที่กลุ่มลูกไม้แห่งนี้นะครับ ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ของการมาเที่ยวคีรีวงนั้นก็คือการขึ้นไปชมเทือกเขาหลวงครับ และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทริปนี้นั่นก็คืออาหารกลางวันสูตรพิเศษนั่นก็คือข้าวห่อกาบหมากที่นักท่องเที่ยวจะได้นำติดตัวขึ้นไปทานระหว่างทางด้วยครับ
จุดหมายปลายทางของเรานั้นอยู่ที่น้ำตกวังอ้ายยาง แต่ระหว่างการเดินทางนั้นต้องบอกว่าสองข้างทางเต็มไปด้วยสวนผลไม้ของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต้นมังคุดที่ปลูกกันเอาไว้ตลอดทาง และเส้นทางที่ไปก็มีความคดเคี้ยว และชันพอสมควร ดังนั้นจึงต้องให้ชาวบ้านที่เป็นคนท้องถิ่นเป็นผู้พามาครับ
เมื่อขึ้นมาถึงข้างบนจะเห็นน้ำตกวังอ้ายยางจะเห็นน้ำตกที่สวยงาม บรรยากาศเย็นสบาย และถือเป็นอีก 1 จุดที่นักท่องเที่ยวต้องชอบ ซึ่งการมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อผ่านกลุ่มลูกไม้คีรีวง โดยจะต้องทำการติดต่อล่วงหน้าเพื่อที่จะได้จัดเตรียมพาหนะ ไกด์นำทาง และเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ที่สำคัญก็เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเองด้วยครับ
ต้องบอกว่าการท่องเที่ยวในครั้งนี้นอกจากจะได้มาท่องเที่ยวในสถานที่ที่หลากหลาย ได้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม ได้เห็นภูมิปัญญาของคนท้องถิ่นที่สะท้อนออกมาให้เห็นผ่านงานฝีมือและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ได้มารู้จัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งภาระกิจชื่นใจนั่นก็คือการรวบรวมแหล่งท่องเที่ยวระหว่าง 3 อำเภอ นั่นก็คือ อ.ฉวาง อ.ช้างกลาง และ อ.ลานสกา ภายใต้เส้นทางท่องเที่ยวหลักบนถนนสาย 4015 ครับ
จากการพูดคุยกับผู้นำชุมชนต่างๆ และชาวบ้านนั้นทำให้ทราบว่าสิ่งที่อยากได้มากๆ คือป้ายแผนที่ เพราะหลายพื้นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ฉะนั้นถ้าได้ป้ายหรือแผนที่ไว้คอยแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวของถนนสาย 4015 ก็จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวของ 3 อำเภอ เป็นที่รู้จักมากขึ้น
การสร้างแผนที่นั้นจะต้องครอบคลุม 3 อำเภอ โดยมีเส้นทางหลักที่เชื่อมโยงคือ ถนนสาย 4015 ทีมงานของเราที่จะมาช่วยให้ภาระกิจครั้งนี้สำเร็จก็คือ คุณสรร อำนวยมงคลพร Graphic Designer ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานกราฟฟิก ดีไซน์ และที่สำคัญยังเป็นตัวแทนของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่อยากช่วยเหลือชุมชนอีกด้วยครับ
สิ่งแรกที่เราจะเริ่มทำสำหรับแผนที่ชุมชนนั้นก็คือการกำหนดเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยากจะประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้จักครับ โดยชาวบ้านและผู้นำชุมชนก็ได้มารวมตัวกันช่วยคิดและบอกถึงจุดต่างๆ ให้คุณสรรได้ทราบ และได้ร่างแผนที่คร่าวๆ และสรุปออกมาในแผนที่ทุกอย่างถูกรวบรวมเอาไว้จนครบแล้วครับ จากนั้นก็เริ่มร่างแบบจริงกันได้เลย
และหลังจากแผนที่ท่องเที่ยวถูกออกแบบเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลานำป้ายไปติดตามจุดต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้านเป็นอย่างดีครับ และแผนที่นี้จะถูกนำไปติดตั้งในแต่ละจุดของทั้ง 3 อำเภอ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้รู้ว่าจุดที่เรายืนอยู่นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง แถมยังรู้อีกว่าในสองอำเภอใกล้เคียงมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ถือเป็นความร่วมมือของการท่องเที่ยวทั้ง 3 อำเภอ อย่างแท้จริงครับ
ติดต่อเยี่ยมชุมชน
- ร้านหมี่เกี๊ยวจันดี โทร. 089-812-2298
- กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทย โทร. 084-849-8758
- กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสวนขันเกษตรยั่งยืน กิจกรรมผ้ามัดย้อมและผ้าบาติก โทร. 084-843-6491
- สวนน้ำขุนทะเล โทร. 089-723-8866