ในอดีต แอร์ – ภัณฑิลา ฟูกลิ่น เคยเป็นคนใจร้อน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่เธอต้องการ จนเมื่อได้ศึกษาธรรมะและลองปฏิบัติธรรม เธอเปลี่ยนเป็นเข้าใจชีวิตและมีความสุขมากกว่าเดิม
“คุณแม่ของแอร์ชอบทำบุญแบบให้ทาน และมักสอน แอร์เสมอว่าให้คนอื่นเอาเปรียบบ้างก็ได้ อย่างเวลาแอร์ไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วต้องหารกัน แอร์มักเป็นคนออกเงินเยอะที่สุด เพราะเพื่อนบอกว่าแอร์ทำงานแล้ว ต้องออกเยอะกว่า เราก็มักเกิดคำถามว่า ทำไมต้องเป็นเรา เราหาเงินมาเพื่อจ่ายให้คนอื่นหรือ แต่พอไประบายให้คุณแม่ฟัง ท่านก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก เราโชคดีที่หาเงินได้เร็วกว่าคนอื่น เรื่องแค่นี้นิด ๆ หน่อย ๆ ลูก วันหนึ่งสิ่งที่เราทำไปมันก็จะกลับมาหาเราเอง ตอนนี้เราแค่เรียนรู้แล้วก็ปล่อยวาง แอร์จึงกลับไปคิดใหม่ว่า ไม่เป็นไร บางครั้งเรายังให้เงินคนอื่นเลย ให้เพื่อนบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเพื่อนก็รักเรา และอยู่เคียงข้างเราเสมอ พอเปลี่ยนวิธีคิดก็ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น
“แอร์ชอบอ่านหนังสือ ใฝ่รู้ ชอบวิทยาศาสตร์ สิ่งที่พิสูจน์ได้ ยิ่งได้อ่านหนังสือธรรมะก็ยิ่งชอบ เพราะพุทธศาสนาคือวิทยาศาสตร์ สอนความเป็นธรรมชาติ ความเป็นกลาง เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ ซึ่งถูกจริตแอร์มาก”
นอกจากนั้นเธอยังชอบนั่งสมาธิอีกด้วย
“ครั้งแรกแอร์ไปปฏิบัติธรรมกับพี่กิ๊ก มยุริญ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ครั้งที่สองไปที่สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต จังหวัดสระบุรี ต้องตื่นตี 2 มาเดินจงกรม จากนั้นก็นั่งสมาธิ ช่วงแรกที่นั่งมีบ้างที่ปวดขา เมื่อย แต่พอหลุดช่วงนั้นมาได้ จะนิ่งขึ้น ไม่รู้สึกทรมาน ไม่รู้สึกว่าเมื่อไรจะได้ลืมตา รู้สึกนิ่ง สบาย แต่ยังรู้สึกตัวตลอดเวลา พอต้องลืมตาก็เห็นว่าพระอาทิตย์กำลังขึ้น ตอนนั้นรู้สึกว่าการนั่งสมาธิไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรา
“จากนั้นมา ถ้ามีเวลาแอร์มักนั่งสมาธิที่บ้าน เพราะการนั่งสมาธิให้อะไรดี ๆ กับตัวเอง เป็นการเติมพลังให้ตัวเอง เมื่อก่อนแอร์เป็นคนทำอะไรเร็วมาก จนเห็นทุกคนทำอะไรช้าไปหมด แ้วก็จะสงสัย ทำไมคนอื่นถึงทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้
“พอได้นั่งสมาธิ ทำให้มีสติมากขึ้น ตามจิตตัวเองทัน พอหลุดไปคิดเรื่องอื่น เราก็จะใช้สติตามตัวเองกลับมา และมองทุกสิ่งด้วยความเข้าใจมากขึ้น เช่น ขณะขับรถ เจอคนขับปาดหน้า เราก็จะหยุดคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ บีบแตรใส่ดีไหม แต่ทำไปแล้วได้อะไร ท้ายที่สุดก็เลยไม่ได้ทำอะไรเขา”
เธอเชื่อว่าสามารถนำธรรมะมาใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต
“ธรรมะนำมาใช้ได้กับทุกเรื่อง เรื่องที่แอร์ใช้มากคือ ‘สติ’ เพราะแอร์เป็นคนใจร้อน ปรี๊ดง่าย ต้องมีสติรู้ทันตัวเอง เช่น เวลาหงุดหงิดที่ผู้ช่วยทำงานไม่ได้ดั่งใจ แอร์จะหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดกับเขาดี ๆ มองเขาด้วยความเมตตา ผลสุดท้ายเขาก็ทำงานดีขึ้น เหมือนเราเอาเขามาฝึกจิตตัวเอง
“งานในวงการบันเทิงก็เช่นกัน เวลาที่รับงานไว้แล้วงานนั้นเลิกไม่ตรงเวลา วูบแรกเรามักไม่พอใจ เพราะคิดว่าทำไมพูดไม่เป็นคำพูด บอกจะเสร็จตอนเที่ยงทำไมไม่เสร็จ แต่พอเรามี ‘สติ’ เตือนตัวเอง ก็จะคิดได้ว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดความผิดพลาด แล้วก็คุยกับทีมงานดี ๆ ว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวแอร์จะลองเลื่อนอีกงานหนึ่งดูว่าได้หรือไม่ ถ้าเลื่อนได้ ตรงนี้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลื่อนไม่ได้ เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันว่าจะเอาอย่างไรต่อไป สำหรับแอร์การทำงานกับคนยิ่งเยอะยิ่งได้ฝึกจิตตัวเองมาก”
ธรรมะสำหรับเธอจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว
“บางคนบอกว่า ธรรมะเป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือไม่ก็มองว่าธรรมะคือ การเข้าวัดทำบุญ เดินเวียนเทียนใน วันสำคัญทางพุทธศาสนาแค่นั้น แต่ถ้าศึกษาธรรมะจริง ๆ จะรู้ว่าธรรมะไม่ใช่แค่การเอาเงินไปหย่อนใส่กล่องบริจาคตามวัด แต่ธรรมะทำให้เราเป็นคนดีได้มากกว่านั้น แค่เราได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ มีเมตตากับเพื่อนร่วมงาน คิดดีกับคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา นอกจากเขาจะมีความสุข ตัวเราก็มีความสุข แล้วเราก็เห็นคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้นด้วย
“การรู้จักธรรมะก็เหมือนได้เจอกุญแจดอกสำคัญ ที่นำพาชีวิตคุณให้ไปพบความสุขนั่นเอง”
ที่มา : นิตยสาร Secret
เรื่อง : อุรัขษฎา ขุนขำ
ภาพ : วรวุฒิ วชิาธร, พีรพันธุ์ วิจิตรไกรวิน
บทความน่าสนใจ
