ถ้าคุณกำลังท้อแท้ หดหู่ เศร้าหมอง จนอยากเลือกการฆ่าตัวตายเป็นทางออกของชีวิต ขอบอกว่าโปรดหยุดความคิดนั้นไว ้ และมาทำความรู้จักกับกูรูด้านจิตวิญญาณที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ที่ชื่อ เอคฮาร์ท โทลเลอ ก่อนดีกว่า
เอคฮารท์ โทลเลอ (Eckhart Tolle) มีชื่อเดิมว่า อูลริช โทลเลอ เกิดที่เมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี ในปี ค.ศ. 1948 พ่อและแม่หย่าขาดจากกันตั้งแต่เล็ก เอคฮารท์ จึงใช้ชีวิต 13 ปีแรกที่เยอรมนี ก่อนจะย้ายไปอยู่กับพ่อที่ประเทศสเปน
เอคฮาร์ทเลิกไปโรงเรียนตั้งแต่อายุ 13 หลังจากพ่อถามเขาว่า “ลูกอยากเรียนหนังสือหรือเปล่า” เอคฮาร์ทซึ่งรู้สึกเสมอมาว่าโรงเรียนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศไม่เป็นมิตร จึงตอบไปว่า “ไม่ครับ” และพ่อก็ตามใจเขา
แต่แทนที่เขาจะใช้ชีวิตสนุกสนานไปวันๆ ตามประสาเด็กหนุ่ม เขากลับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองเพื่ออ่านหนังสือ เช่น วรรณกรรม ดาราศาสตร์ ภาษาสเปน ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส และมักจะตั้งคำถามชวนปวดใจ เช่น “ทำอย่างไรจึงจะหายไปจากโลกนี้” หรือ “ฉันควรจะฆ่าตัวตายไหม” อยู่เสมอ ซึ่งแสดงถึงพื้นฐานอารมณ์ซึมเศร้าที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก
เอคฮาร์ททำงานเลี้ยงดูตัวเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เขาเริ่มงานเป็นมัคคุเทศก์เมื่ออายุเพียง 17 ปี แม้ไม่มีใบอนุญาตให้สอนหนังสือ แต่เขาก็ได้งานสอนภาษาเยอรมันและสเปนในโรงเรียนสอนภาษา หลังจากนั้นจึงย้ายไปอยู่อังกฤษตอนอายุ 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เขากลับมาสนใจการศึกษาตามระบบอีกครั้ง
ชายหนุ่มเริ่มเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยลอนดอน โดยเลือกเรียนวรรณคดี และยังพยายามแสวงหาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตโดยลงทะเบียนเรียนวิชาปรัชญาและจิตวิทยาไปด้วย แต่กลับไม่เคยพบคำตอบที่ต้องการ
ในที่สุดเอคฮาร์ทก็เรียนจบด้วยคะแนนสูงสุดและได้ทุนทำวิจัยต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ดูๆ ไปแล้วเขาน่าจะมีความสุขกับอนาคตรุ่งโรจน์ที่รออยู่เบื้องหน้า แต่เปล่าเลย เขามักรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากทุกสิ่ง จนแพทย์วินิจฉัยว่า เขามีอาการซึมเศร้าเรื้อรัง และอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ดี ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับเขาในคืนหนึ่ง เป็นค่ำคืนที่ชายหนุ่มวัย 29 ปีอย่างเขาสัมผัสถึงความรู้สึกอยากฆ่าตัวตายที่เข้มข้นถึงขีดสุด เขาได้ยินเสียงก้องในหัวว่า “ฉันทนอยู่กับตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” ทันใดนั้นเอง เขาก็ตระหนักว่า ”หาก ’ฉัน’ สามารถเกลียด ‘ตัวเอง’ ได้ ก็แสดงว่า ’ฉัน’ ซึ่งเป็นผู้เกลียดตัวเอง และ ‘ตัวเอง’ ซึ่งถูกเกลียดนั้น ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ต้องมีคนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นตัวจริง” หลังจากนั้นเขาก็สลบไป เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ทุกสิ่งที่เห็นและได้ยินช่างสวยงามและไพเราะจับใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เอคฮาร์ทอธิบายภายหลังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ชื่อเสียง เงินทอง ครอบครัว เชื้อชาติ ความสามารถ เชาวน์ปัญญา ศักดิ์ศรี สถานะทางสังคม หรือเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต เป็นส่วนของ ”ตัวตน” หรือ ”อัตตา” (ego) ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญคือ จะขยายใหญ่โตขึ้นจาก ความต้องการครอบครองสิ่งนั้นสิ่งนี้ และถึงแม้ว่าความต้องการหนึ่งจะได้รับการเติมเต็มแล้ว อัตตาก็จะคอยจับจ้องมองหาความต้องการใหม่ต่อไป และเมื่อผิดหวังหรือเกิดการสูญเสีย ความเจ็บปวดและความทุกข์ก็จะเกิดขึ้น เป็นเช่นนี้เรื่อยไปไม่มีวันสิ้นสุด
ทั้งที่จริงๆ แล้ว อัตตาไม่ใช่ธาตุแท้ของความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ ”เขา” ไม่ใช่ ”คุณ” ไม่ใช่ ”ฉัน” เลยสักนิด เพราะถ้าใช้สติพิจารณาก็จะรู้ว่า ถ้าเราสลัด ตัวตน ออกไปแล้ว เราก็ยังมี ชีวิต อยู่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเอคฮารท์ ในคืนนั้นก็คือ เขารู้สึกทุกข์และต่อต้านอัตตามากจนถึงขั้นที่ว่า “ฉัน” กับ ”ตัวตน” ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป
เมื่อไม่มี ”ตัวตน” ก็เท่ากับว่า ไม่เหลือความผูกพันใดๆ หลงเหลืออยู่ระหว่างตัวเขากับโลก
นับแต่นั้นเป็นเวลา 2 ปี เอคฮาร์ท โทลเลอ จึงเลิกทำงาน เลิกติดต่อผู้คน เลิกใช้ชีวิตตามบริบทของสังคมโดยสิ้นเชิง แล้วหันมาใช้ชีวิตกินนอนอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เพื่อสังเกตและเรียนรู้โลกในมุมมองใหม่โดยปราศจาก ”อัตตา” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเลนส์ที่คอยสร้างภาพอันเต็มไปด้วยอคติ
ที่แปลกก็คือ ทั้งๆ ที่เขาใช้ชีวิตอย่างคนจรจัด แต่กลับมีผู้คนจำนวนมากสังเกตเห็นว่าเขามีความสุขอย่างยิ่ง และหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาทักทายเขาทำนองว่า
”ฉันอยากมีสิ่งที่คุณมี มอบให้ฉันได้ไหม หรือไม่ก็บอกฉันหน่อยว่า คุณทำอย่างไร”
”คุณมีสิ่งนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ในหัวของคุณมีเสียงต่างๆ มากเกินไป” เขาตอบ แล้วก็เริ่มอธิบายถึงสิ่งที่เขาเป็น
เมื่อมีผู้คนมารวมตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อฟังสิ่งที่เอคฮาร์ทพูด ทำให้เขาเริ่มมีตัวตนขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ตัวตนใหม่ของเอคฮาร์ทในครั้งนี้หาใช่ตัวตนอันจะนำมาซึ่งความทุกข์อย่างในอดีต หากแต่จะทำหน้าที่ในทางตรงกันข้าม ด้วยการช่วยกำจัดตัวตนให้หลายๆ คนในโลก
ปัจจุบันเอคฮารท์ โทลเลอ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะ ”กูรูด้านจิตวิญญาณ” เจ้าของผลงาน The Power of Now (1999), Practicing the Power of Now (2001), Stillness Speaks (2003) และ A New Earth (2005) หนังสือด้านจิตวิญญาณที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องจากโอปราห์ วินฟรีย์ ว่า เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าที่สุดในโลก
ณ วันนี้ เอคฮาร์ท โทลเลอ คือครูผู้มอบชีวิตใหม่ให้ผู้คนนับล้าน แต่สำหรับตัวเขาเอง ครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ ”ชีวิต” เพราะทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายในคืนนั้น
Secret Box
เคล็ดลับจากเอคฮาร์ท โทลเลอ
• สิ่งสำคัญที่เราควรใช้ในการดำเนินชีวิตไม่ใช่ ความคิด แต่เป็นสติ เพราะความคิดจะหล่อเลี้ยงให้อัตตาเติบโตขึ้น
• เวลาเดียวที่มนุษย์ทุกคนมีคือ ปัจจุบัน เท่านั้น ถ้าเราอยู่กับปัจจุบันขณะได้อย่างแท้จริง เราจะรู้สึกสงบสุข ตรงกันข้าม อารมณ์ด้านลบหรือความทุกข์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคิดถึงอดีตหรืออนาคต
• เราสามารถฝึกให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบันได้ง่ายๆ ด้วยการสังเกตการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยไม่คิด ไม่ตัดสิน แต่วางตนเป็นเพียง ผู้ดูอยู่ห่างๆ แล้วจะพบว่า แท้จริงแล้วปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเรานั้นล้วนเกิดขึ้นเพราะอัตตาทั้งสิ้น
• ความลับของชีวิตคือ การตายก่อนที่จะตายจริงๆ ด้วยการฆ่าอัตตาให้ตาย แล้วชีวิตจะปราศจากความเจ็บปวด
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง Violet
ภาพ msg.com, eckharttolle.com, inner-growth.info