ซาโยเต้
C H A Y O T E
ซาโยเต้ Chayote ยอดมะระหวาน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ฟักแม้ว” เป็นพืชผักที่นิยมปลูกมากในภาคเหนือ ยอดอ่อน ผลอ่อน และรากสามารถใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะผลอ่อน และยอดอ่อนที่มีความกรอบ หวาน อร่อย สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลายเมนู แต่นอกจากความอร่อยแล้ว! ยังมีประโยชน์ดีๆแฝงอีกเพียบ! ถ้าอยากรู้แล้วตามมาเลยค่ะ…
มาทำความรู้จักกับเจ้า…ซาโยเต้ กันเสียก่อน!
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของ ประเทศเม็กซิโก และแถบ อเมริกากลาง เพาะปลูกอยู่ทั่วโลก ว่ากันว่านำเข้ามาปลูกในไทยโดยหมอสอนศาสนา และให้ชาวบ้านปลูกครั้งแรกที่ จ.แพร่ ปัจจุบันปลูกกันมากใน จ.เลย เพชรบูรณ์ และจังหวัดทางภาคเหนืออย่างเชียงราย
ผักชนิดนี้มีฉายาว่า…ผักหลายชื่อ?
มีชื่อท้องถิ่นว่า มะระแม้ว มะเขือเครือ มะเขือฝรั่ง มะระญี่ปุ่น ฟักญี่ปุ่น บ่าเขือเครือ ฟักม้ง แตงกะเหรี่ยง
ซาโยเต้…ในการปรุงอาหาร
ยอดของผักชนิดนี้จะให้ความหวาน และกรอบเป็นพิเศษ ทั้งในภัตตาคารและคนส่วนใหญ่นิยมนำมาผัดน้ำมันหอยกันมาก มีผลผลิตตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝนจะแทงยอดน้อย มักจะใช้ยอดอ่อน โดยเด็ดยอดอ่อนปริมาณตามใจชอบ ล้างน้ำให้สะอาด ถ้าตามหลักโภชนาการแล้วควรล้างยอดระมะหวานก่อนค่อยเด็ด จะช่วยให้วิตามินยังคงเหลืออยู่มาก…
ประโยชน์ของซาโยเต้…
1.ช่วยชะลอวัย ต้านมะเร็ง
ฟักแม้วเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
2.เป็นแหล่ง วิตามิน และ แร่ธาตุ
ซาโยเต้…อุดมไปทั้งโปรตีน วิตามิน เอ บี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โพแทสเซียม อยู่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยา และมีส่วนช่วยในการชะลอการแข็งตัวของเส้นเลือด ทำให้ผิวพรรณสวยงาม
3.ทางเลือกสำหรับคนลดน้ำนัก
เป็นแหล่งอาหารอีกทางหนึ่งของคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะในปริมาณของฟักแม้วใน 100 กรัม จะให้พลังงานเพียง 13 กิโลแคเลอรี่เท่านั้น อีกทั้งยังมียังมีเส้นใยอาหาร 0.6 กรัม ที่เป็นส่วนช่วยในการขับถ่าย และมีฟอสฟอรัสที่มีความสำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายอยู่ 12 มิลลิกรัม รวมถึงมีวิตามินซี โฟเลต แคลเซียม และโพแทสเซียมด้วย
4.กินง่าย มีประโยชน์ทั้งผลและใบ
เนื้อมีรสหวาน รสชาติคล้ายมันฝรั่งปนแตงกวา สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก นำมาตำส้มตำแทนมะละกอได้ เพราะมีเนื้อหวานกรอบ และนำไปผัดกับไข่ ต้ม จืด แกงส้ม ลวก หรือต้มจิ้มกับน้ำพริก แต่ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาผัดกับน้ำมันหอย
5.ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
ยอดอ่อนและผลอ่อนสามารถใช้รับประทานได้ แถมยังประกอบไปด้วยวิตามินและกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น แคลเซียมที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
6.ดีต่อทารกในครรภ์
ในผลฟักแม้วมีโฟเลตสูง ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับทารกในครรภ์ เพราะช่วยป้องกันการพิการของทารกแต่กำเนิด และพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
7.ดีต่อผู้ป่วยไต
น้ำต้มฟักแม้ว หรือน้ำต้มมะระหวาน ใช้ในการรักษาอาการเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยลดความดันโลหิต และสลายนิ่วในไตได้
8.ช่วยบำรุงหัวใจ และหลอดเลือดให้แข็งแรง
มีงานวิจัย พบว่า สารสกัดใน ซาโยเต้หรือฟักแม้วนั้น ช่วยสลายไขมันในหลอดเลือด ส่งผลให้ลดความเสี่ยงของโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด ทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจ และหลอดเลือดให้แข็งแรง
9.ใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น!
ปกติแล้วจะนิยมใช้ส่วนของผล ใบและรากประกอบอาหารได้เช่นกัน ทว่า ลำต้นและเมล็ดก็กินได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่เป็นที่นิยม อีกทั้งรากฟักแม้วจะประกอบด้วยแป้ง สามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
สรรพคุณทางยาโบราณ…
ผลและใบ
1.บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ขับปัสสาวะ แก้อักเสบ ด้วยการใช้ผลและใบมาดองเป็นยาไว้กิน
2.อาการเส้นเลือดแข็งตัว ด้วยการต้มใบและผลนำมาใช้ในการรักษา
3.โรคความดันโลหิตสูง ด้วยการดื่มน้ำที่ต้มจากผลและใบ
4.ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
5.นำใบและผลมาต้มน้ำดื่ม ช่วยสลายนิ่วในไต
6.ยอด สรรพคุณช่วยในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวกขึ้นจึงป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวัง!
ยอดฟักแม้วมีฤทธิ์หนาว จึงไม่เหมาะกับคนที่ร่างกายกลัวหนาว ท้องร่วงง่าย และกระเพาะลำไส้ม้ามทำงานอ่อนแอ ย่อยไม่ดี อีกทั้งมะระหวานเป็นผักกินยอด ผักทอดยอด ที่ล้วนแล้วแต่เป็นข้อห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์ และยูริคในเลือดสูง
คุณค่าทางโภชนาการของผลฟักแม้ว ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 19 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 4.51 กรัม
- เส้นใย 1.7 กรัม
- ไขมัน 0.13 กรัม
- โปรตีน 0.82 กรัม
- วิตามินบี 1 0.025 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 2 0.029 มิลลิกรัม. 2%
- วิตามินบี3 0.47 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี5 0.249 มิลลิกรัม 5%
- วิตามินบี6 0.076 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี9 93 ไมโครกรัม 23%
- วิตามินซี 7.7 มิลลิกรัม 9%
- วิตามินอี 0.12 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินเค 4.1 ไมโครกรัม 4%
- ธาตุแคลเซียม 17 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุเหล็ก 0.34 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโพแทสเซียม 125 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุสังกะสี 0.74 มิลลิกรัม 8%
- % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่
- (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
ขอบคุณข้อมูลจาก