เลือกเวลา ฝึกโยคะ ได้ตามนี้ เสริมสุขภาพที่ดีได้อย่างใจแน่นอน
แก่นของการ ฝึกโยคะ (Yoga) เป็นการฝึกจิตให้นิ่ง รวมกายและจิตเข้าด้วยกัน และบริหารจิตให้เข้มแข็งจนถึงขั้นยกระดับจิตให้สูงเป็นลำดับขั้น อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาความสมดุลต่อตัวเองและผู้อื่น รวมทั้งสมดุลต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อม ซึ่งศาสตร์นี้จะฝึกเราในทุก ๆ มิติ ทั้ง กาย จิต อารมณ์ บุคลิกภาพ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นองค์รวมของการพัฒนามนุษย์
แม้จากผลการวิจัยหลายแห่งจะระบุว่า โยคะ จะเป็นการบริหารร่างกาย ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆ อาทิ ข้อมูลจากผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ British Heart Foundation ศาสตราจารย์ เจเรมี เพียร์สัน เปิดเผยว่า “การฝึกโยคะสามารถช่วยควบคุมความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น ความดันโลหิตสูงซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคระบบไหลเวียนโลหิต” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การฝึกโยคะ ก็ควรเลือกเวลาฝึกด้วย เพื่อให้ได้ผลที่ดีต่อสุขภาพที่สุด
ใครที่ฝึก โยคะ ได้
โยคะ สามารถปฏิบัติได้ในทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย มีผลดีช่วยป้องกันปัญหาทางกายภาพได้ เช่น ปัญหาข้อติด เสริมความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อรอบข้อ เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ตลอด มากไปกว่านั้น คือดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต การขยายของหลอดเลือด ระบบฮอร์โมนในร่างกาย ระบบประสาท ระบบหายใจ ทำให้มองโลกในแง่บวก มีสมาธิ จิตสงบ สัมผัสความสุขได้ง่ายขึ้น ตระหนักรู้และบรรลุถึงความต้องการเบื้องลึกภายในตนเอง ร่างกายของคนเราได้รับผลกระทบจากทุกสิ่งที่มีอยู่ภายในและทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราในที่นี้รวมถึงสิ่งที่เรากิน สิ่งที่เราหายใจเข้าไป สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิด และสิ่งที่เรารู้สึก
หลังตื่นนอนตอนเช้า
ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฝึก โยคะ เสมือนเป็นเวลาของการเปิดรับแสงจากดวงอาทิตย์ ที่จะมาช่วยให้ร่างกายจิตใจ และ จิตวิญญาณของผู้ฝึกพร้อมต้อนรับวันใหม่แสนสดใส ที่สำคัญช่วยสร้างสุขภาพที่ดีให้กับสุขภาพในหลายด้านๆ ไม่ว่าจะเป็นความสดชื่น ตื่นตันให้ร่างกายพร้อมทำงานและใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น
ท่าโยคะง่ายๆ ที่เราสามารถเริ่มได้หลังตื่นนอนตอนเช้า เช่นท่ายืนตรง พนมมือ ด้วยการ ยืดลำตัวให้ตรง เหยียดแขนให้ตรง พนมมือเหนือศีรษะ แล้วหงายหน้ามองมือที่พนมด้วย ค้างไว้ 15 วินาที จากนั้นก้มศรีษะลงอย่างช้าๆ เอาแขนลง กำหนดลมหายใจเข้า-ออกช้าๆ และค่อยเหยียดแขนขึ้นพนมมือ และเงยหน้ามองมือที่พนมเหมือนเดิม ค้างไว้อีกประมาณ 15 วินาที
เวลาเช้าและเย็น
อากาศในช่วงเวลาเช้าและเย็น เป็นอีกเวลาที่เหมาะกับการเล่น โยคะ เพราะเมื่ออากาศไม่ร้อน ความดันเลือด ก็จะไม่สูง ทำให้การฝึก โยคะ ได้ประสิทธิภาพ และช่วยกระตุ้นการเต้นของจังหวะหัวใจ ส่งผลดีต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจและระบบหลอดเลือด
ฉะนั้นไม่แนะนำให้เล่นตอนเที่ยง เพราะจะเป็นช่วงที่ blood pressure สูงมากที่สุด เนื่องจากแรงดึงดูดของพระอาทิตย์ต่อโลกจะแรงในตอนกลางวัน สามารถสังเกตได้จากน้ำหนักของตัวเราจะเบา ถ้าเราชั่งน้ำหนักในเวลากลางวัน แต่ถ้าชั่งน้ำหนักตอนเที่ยงคืน น้ำหนักของเราจะหนักที่สุด
หลังอาหาร ไม่เกิน 3 ชั่วโมง
หากจะเลือกเล่น โยคะ หลังอาหาร ควรเล่นหลังจากกินอาหารไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง และไม่ควรกินอิ่มจนเกินไป เนื่องจากเวลาหลังกินอาหาร เป็นเวลาที่ร่างกายต้องใช้พลังงานและออกซิเจนในการย่อยอาหารเป็นหลัก เพราะฉะนั้นถ้าออกกำลังกายหลังอาหารทันที พลังงานเหล่านั้นจะถูกดึงไปใช้กับการเผาผลาญมากขึ้น ทำให้ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารและมีผลที่ไม่ดีสุขภาพร่างกายของเราในระยะยาว
และถ้าเกิดอยากฝึกโยคะ หลังอาหารเช้า ควรเลือกเมนูเบาๆ อย่างเช่น กล้วยหอมครึ่งลูก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี 1 กำมือ หรือผักโขม เป็นต้น เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาล ในเส้นเลือดให้มีแรงพอต่อการใช้พลังงานในการเล่นโยคะ
ก่อน 2 ทุ่ม
ช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตก การฝึกโยคะยังสามารถทำได้อยู่ แต่ไม่ควรเกิน 20.00 น. หรือ 2 ทุ่ม เพราะการออกกำลังกายด้วย โยคะ ทำให้ร่างกายตื่นตัน ถ้าเล่นหลังเวลาดังกล่าวหรือดึกจนเกินไป อาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ร่างกายกระสับกระส่ายได้ เพราะการฝึก โยคะ หรือแม้การออกกำลังกายต่างๆ จะใช้เวลาในการเผาผลาญไขมันประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากเล่นโยคะแล้ว
นอกจากนี้ โยคะยังช่วยในเรื่องของรูปร่างเราได้ด้วย ทั้งเป็นลดน้ำหนักส่วนเกิน เนื่องจากกลไกการเผาผลาญตามธรรมชาติช่วยปรับร่างกายเข้าสู่ภาวะสมดุล ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน เสริมสร้างผิวพรรณให้แลดูอ่อนเยาว์ ชะลอความแก่ชรา และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
- นิตยสารชีวจิต 526
- http://dailym.ai/2Sxd9lM