รู้จัก ยาไมเกรน ตัวที่ใช้อยู่ ให้ดีกว่าที่เคย
คนในยุคนี้เป็นไมเกรนกันเยอะ ทำให้หลายคนมักต้องพก ยาไมเกรน ติดตัว ซึ่งก็มีหลากหลายแบบ หลายข้อบ่งใช้ ซึ่งแต่ละตัวเป็นอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันค่ะ
พาราเซตามอล
เป็นยาแก้ปวดที่เราคุ้นเคยกันดี เหมาะกับอาการปวดไมเกรนแบบไม่รุนแรง
NSAIDs
เป็นยาบรรเทาอาการอักเสบ ที่ไม่ใส่สเตียรอยด์ เช่น naproxen, ibuprofen เป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้เร็ว จึงทำให้กระเพาะอาการระคายเคือง จึงควรกินหลังอาหารทันที หรือกินพร้อมอาหาร นอกจากนั้นยังมีผลต่อตับไต จึงไม่ควรกินเดือนละ 4-10 เม็ด
ยากลุ่มทริปแทน (Triptan)
เช่น eletriptan, sumatriptan มีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาในกลุ่ม NSAIDs ช่วยทำให้หลอดเลือดในสมองหดตัว แต่ก็เป็นยาที่ควรใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์ เว้นระยะกินอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และไม่ควรกินเกินเดือนละ 10 เม็ด และผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดควรใช้อย่างระมัดระวัง
ยากลุ่มเออร์กอต อัลคาลอยด์ (Ergot alkaloids)
เช่น Cafergot เป็นยาที่รักษาได้ดี แต่ก็มีผลข้างเคียงทำให้เส้นเลือดตีบ หรืออาจทำให้ขาและนิ้วดำ จึงไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน
กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า
เป็นยาในกลุ่ม Tricyclic antidepressants เช่น amitriptyline, nortriptyline ลดความถี่ในการเกิดไมเกรน ช่วยให้นอนหลับ นอกจากนั้นยังลดอาการปวดออฟฟิศซินโดรมได้ด้วย
กลุ่มยากันชัก
ยาในกลุ่ม Anticonvulsant เช่น topiramate ช่วยลดความถี่ในการเกิดไมเกรนช่วงที่มีประจำเดือนได้ประมาณ 33% แต่ตัวยาทำให้มีอาการมึนงง เกิดอาการชา
กลุ่มยาลดความดัน
เช่นยา propranolol เป็นยาที่ป้องกันการปวดไมเกรนได้น้อย เพียง 25% เท่านั้น แต่เป็นตัวยาที่ใช้กับผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง
กลุ่มยา anti CGRP
CGRP เป็นสารเคมีในระบบประสาท ที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว จากการวิจัยพบว่าขณะที่เกิดอาการปวดไมเกรนนั้นมักมมีสารตัวนี้หลั่งออกมามาก ยา anti CGRP จะเข้าไปทำหยุดการทำงานของสารเคมีตัวดังกล่าว โดยจะเป็นยาฉีดเข้าใต้ผิวหนัง มักฉีดเดือนละครั้ง สำหรับผู้ป่วยไมเกรนเรื้อรัง และผู้ที่ไม่สามารถกินยาแก้ไมเกรนตัวอื่นๆ ได้
ข้อมูล โรงพยาบาลพระราม 9
ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจ
“ปวดหัวข้างเดียว” บ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณเฉพาะของไมเกรน
Check! หลายโรคของแถมจาก “ไมเกรน”
ปวดไมเกรน ระวังเส้นเลือดสมองให้ดี!