“ปล่อยวาง” สูตรสำเร็จ ความรักของ โย่ง – ก้อย “คู่รักเด็กแนว”
“ออกจะเกินไปไหม ถ้าฉันจะยืนยันว่าผู้ชายอย่างฉันช่างโชคดี อาจยังมีใครหาคนที่พอดี แต่ในนาทีนี้ฉันเจอแล้ว…” คู่รักเด็กแนว
นี่คือท่อนหนึ่งของเพลง “ผู้ชายที่โชคดี” ที่ คุณโย่ง – อนุสรณ์ มณีเทศ ร้องเพลง ทำเซอร์ไพร้ส์ขอ คุณก้อย – วลัยลักษณ์ มุสิกโปฎก แต่งงานกลางงานคอนเสิร์ตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
“เราเจอกันครั้งแรกในการถ่ายปกนิตยสารเล่มหนึ่งด้วยกันค่ะ จริง ๆ มันก็เหมือนกึ่งรักแรกพบนะ” คุณก้อยเล่าพร้อมรอยยิ้มเมื่อนึกย้อนคิดถึงวันที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อ 13 ปีก่อน ในขณะคุณโย่งเล่าพร้อมเสียงหัวเราะว่า
“ผมชื่นชมผลงานของก้อยมาก่อนแต่พอได้มาเจอ ได้ฟังเขาคุยและให้สัมภาษณ์ก็รู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่มีมุมมองการใช้ชีวิตที่น่ารักดี เลยอยากคุยด้วยต่อ แต่ตอนนั้นเขามีแฟนอยู่แล้วนะครับ ส่วนผมก็อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านพอดี ซึ่งผมคิดว่าเราก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ จึงขอเบอร์ไว้ก่อน”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ห่างหายกันไปสักพัก จนถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมจริง ๆ เมื่อทั้งคู่กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง จึงได้มีโอกาสกลับมาคุยกันแบบจริงจัง และใช้เวลากว่า 10 ปีในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน คุณโย่งจึงตัดสินใจเซอร์ไพร้ส์ขอคุณก้อยแต่งงานในงานคอนเสิร์ตซึ่งแผนนี้เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุก แต่ก็สร้างความประทับใจให้แก่กันอย่างมาก
หลังแต่งงาน ทั้งคู่เล่าว่าชีวิตไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่คบหาดูใจกันเพราะสามถึงสี่ปีแรกที่คบกันเป็นช่วงที่ต้องปรับตัวเข้าหากันมากที่สุด หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างเข้าใจกัน และมั่นใจในกันและกัน
“เรารู้สึกมั่นใจกันจริง ๆ ก็ตอนประมาณปีที่สามปีที่สี่แล้ว ข้อดีคือเวลาที่เราเรียนรู้กันเราเรียนรู้สิ่งไม่ดีของกันและกัน พอสุดท้ายเราก็รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้ เมื่อเรารับเขาได้ทุกอย่าง เราก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรหนักหนาสำหรับเราต่อไป หลังจากนี้มันก็มีแค่ทำทุกวันให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ”
เรื่องไม่เข้าใจกันก็เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณโย่งบอกว่าเป็นเรื่อง “งี่เง่า”มากกว่า
“เรื่องทะเลาะกันแรง ๆ ไม่มีหรอกครับส่วนมากเป็นเรื่องงี่เง่า คือเราเป็นเหมือนเพื่อนกัน จะเถียงกันเรื่องที่ไม่น่าจะเถียงอย่างเรื่องขับรถอ้อมหรือเรื่องสั่งอาหาร แต่สักพักก็ลืม ผมว่าเราไม่มีเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องทะเลาะกันแรง ๆ เพราะเราผ่านเรื่องร้อนใส่กันมามากแล้ว”
ส่วนคุณก้อยมองว่าแค่เพียง “ปล่อยวาง” ก็ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขมากแล้ว
“การที่เราจะทะเลาะกันสักเรื่อง มันต้องเกิดจากความไม่เข้าใจกันก่อน แต่โชคดีที่เราเข้าใจ แล้วก็ปล่อยวาง มันก็ทำให้เรามีความสุข แทนที่เราจะรู้สึกแย่ แต่กลับกลายเป็นว่ามันมีเรื่องที่ทำให้เราคุยกันและเข้าใจกันมากขึ้น”
คุณโย่งยอมรับว่า “เมื่อก่อนผมเคยโมโหร้ายบ้าง ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเหมือนกับขาดสติ หลังจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือรู้สึกอาย ผมก็เลยคิดว่าควรจะปล่อยวาง ซึ่งพอเราเข้าใจกันมากขึ้น เราก็รู้เลยว่าไม่จำเป็นต้องเอาอารมณ์มาทำให้เราทะเลาะกัน”
เมื่อถามถึงหลักธรรมในการใช้ชีวิตคู่ทั้งคู่เห็นตรงกันว่า การที่คนเราจะมาเจอกันต้องมี “ศีล” เสมอกันก่อน หลังจากนั้นต้องอาศัย การให้อภัย เมตตา และซื่อสัตย์ต่อกัน ซึ่งคุณก้อยกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
“การมีศีลเสมอกันอาจทำให้เราชอบในตอนแรก แต่หลังจากนั้นต้องอาศัยทั้งการให้อภัยกัน เมตตาต่อกัน และมีความซื่อสัตย์ เมื่อเรามีสิ่งเหล่านี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวก็ทำให้เรามีสติในการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน”
นั่นเป็นหลักธรรมที่ทั้งคู่เชื่อว่าจะช่วยให้มีชีวิตครอบครัวที่ผาสุกอย่างยั่งยืน
เรื่อง เชิญพร คงมา ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี สไตลิสต์ สุธีร์ รติวัฒน์บุญญา
บทความน่าสนใจ
Secret ข้อคิดเตือนใจ ส่งให้คนที่คุณรัก ในทุก ๆ วัน
ไขข้อข้องใจ หากคู่รัก ปฏิบัติธรรม ชีวิตคู่มักจะไปไม่รอดจริงหรือ
ความรักไม่เคยทำร้ายใคร แต่สิ่งนี้ต่างหากที่กำลังทำร้ายตัวเราเอง
ทิ้งทั้งหมดได้ทั้งหมด เคล็ดลับสำหรับคู่รัก ที่แม่ชีศันสนีย์แนะนำ
Dhamma Daily: เมื่อคนรักเปลี่ยนไป ยังฝังใจ ยากจะลืม
3 ดารา ที่มีหัวใจรักสิ่งแวดล้อม
“ปล่อยวาง” สูตรสำเร็จความรักของ “คู่รักเด็กแนว”
ความรักไม่เคยทำร้ายใคร แต่สิ่งนี้ต่างหากที่กำลังทำร้ายตัวเราเอง
อีกด้านหนึ่งของความรัก ที่ในบางครั้งก็มักจะชอบเล่นตลกกับชีวิต
7 เรื่องที่คู่รักควรทำความเข้าใจ ก่อนที่อะไรมันอาจจะสายเกิน
แง่มุมดีๆ ที่ทำไม “ความรัก” ถึงยังมีความจำเป็นกับชีวิต❤
9 สาเหตุ ที่ทำให้ยังไม่เจอกับความรักสักที