ปัญหาธรรมประจำวันนี้ : จะทำอย่างไร หากต้องประกอบ อาชีพที่ผิดศีลธรรม
ถาม : พระอาจารย์คะ ทำไมพระพุทธเจ้าถึงไม่ทรงแนะนำให้ค้าอาวุธ-มนุษย์-สัตว์-น้ำเมา-ยาพิษล่ะคะ
พระอาจารย์ไพโรจน์ ญาณกุสโลตอบปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพที่ ผิดศีลธรรม ไว้ว่า
ตอบ : เขาเรียกว่ามิจฉาอาชีวะ คือ การทำมาหาเลี้ยงชีพที่มีการเบียดเบียนหรือกระทบกระทั่งคนอื่น พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่าไม่ควรกระทำ เพราะมีความเสี่ยงที่จะได้ผลดีไม่คุ้มกับผลเสีย และได้บาปมากกว่าบุญจัดว่าเป็นกายและวจีทุจริตกรรม เป็นการกระทำทางกายและวาจาที่ไม่ดี หรือเป็นเหตุให้คนอื่นต้องมาเป็นทุกข์หรือเดือดร้อนไม่เป็นสุขเพราะการกระทำของเรา
ถาม : แต่ถ้าเราเลือกไม่ได้และมีเหตุจำเป็นให้ต้องทำอาชีพเหล่านี้ เช่น ขายตัว หรือขายปู ขายปลาเป็น ๆ แบบนี้เราควรจะทำอย่างไรไม่ให้ผิดศีลผิดธรรมล่ะคะพระอาจารย์
ตอบ : จริงอยู่ที่ทุกคนจำต้องทำมาหาเลี้ยงชีพเพื่อปากท้องของตน แต่ทำทั้งที ทำไมต้องให้เป็นการกระทำที่ไปกระทบกระทั่งคนอื่น ๆ ทำไมเราไม่คิดบ้างว่า หากเราอยู่ในฐานะที่ถูกกระทำบ้าง จะรู้สึกอย่างไร
อย่างอาชีพขายตัว ถ้าไม่กระทบใคร ๆคือไม่เป็นการกระทำที่เป็นเหตุให้พ่อแม่ต้องเสียอกเสียใจ อับอายขายหน้า เพราะการกระทำของเรา หรือถ้าเขาเห็นดีด้วยอนุญาตให้เราทำ แบบนี้ถือว่าไม่ผิด แต่หากเป็นการฆ่าหรือสนับสนุนให้มีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้อื่น เช่น เปิดร้านอาหารทะเลที่ต้องมีการฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็น ๆ และการฆ่านั้นเรามีส่วนสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวกในการฆ่า อย่างนี้ถือว่าเข้าข่ายมิจฉาอาชีวะ
แต่การขายปลาขายปูเป็น ๆ นั้นบางครั้งก็ไม่แน่ว่าเขาซื้อไปทำอะไร ถ้าเขาเอาไปฆ่าแกง มีการทำลายชีวิตกัน แบบนี้ก็ถือว่าเรามีส่วนอำนวยความสะดวกในการฆ่าแต่ถ้าเขาซื้อแล้วเอาไปเลี้ยงต่อหรือเอาไปปล่อย อย่างนี้นอกจากเราจะไม่เป็นบาปยังอาจมีส่วนได้บุญอีกด้วย ฉะนั้นการขายปลาขายปูเป็น ๆ จึงไม่จัดเป็นมิจฉาอาชีวะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป
ถาม : หากต้องเกี่ยวข้องกับอาชีพเหล่านี้ทางอ้อม เช่น เป็นสาวเชียร์เบียร์ คนคุมผับ เด็กเสิร์ฟในร้านขายอาหารทะเลทำบัญชีให้บริษัทกำจัดปลวก ฯลฯ แบบนี้ถือว่าเราผิดศีลด้วยหรือไม่คะ
ตอบ : ถ้ามันเป็นงานที่เรามีส่วนร่วมด้วยหรือมีส่วนอำนวยความสะดวกให้ด้วย ก็จัดเข้าข่ายที่ไม่ดี เป็นงานที่ไม่ควรกระทำเช่นกัน ขอแนะนำว่าหลีกเลี่ยงได้ ดีที่สุดเพราะเป็นงานที่สุ่มเสี่ยง
ถาม : หากเราทำอาชีพที่เสี่ยงต่อการผิดศีล จะต้องรับผลกรรมอย่างไรคะพระอาจารย์
ตอบ : ตั้งใจทำไว้อย่างไร ก็ย่อมจะต้องได้รับผลของการตั้งใจทำนั้น ๆ ผลกรรมขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง
ถ้าไม่อยากรับกรรม ก็มีทางเดียวคืออย่าทำกรรมนั้น เพราะถ้าได้ลงมือทำไปแล้วในอนาคตย่อมต้องได้รับผลของการกระทำนั้นอย่างแน่นอน เพราะทุกการกระทำมีผลเสมอ ผลของกรรมไม่เข้าใครออกใคร และเป็นสิ่งที่ไม่มีใครจะห้ามได้
ถ้าผลกรรมเขาพูดได้ อาตมาคิดว่าเขาคงอยากจะพูดว่า “กูมาตามคำสั่งมึงไง!…มึงไม่ใช่หรือที่อยากเจอกู ตอนทำ เห็นมึงตั้งใจทำเหลือเกินนี่หน่า ตอนนี้เป็นไงไม่อยากเจอ ไม่อยากได้ ไม่อยากรับแล้วสิช้าไปแล้ว ถ้าไม่อยากรับ ต้องไม่ทำเสียตั้งแต่ทีแรกโน่น…”
ถาม : เคยได้ยินหลาย ๆ คนบอกว่าอยากเลิกทำอาชีพที่กำลังทำอยู่ แต่เลิกไม่ได้ เพราะจะไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัวบางคนขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ หรือไม่ก็เป็นอาชีพที่ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้วสืบทอดมายังรุ่นลูกรุ่นหลานแบบนี้ควรทำใจอย่างไรคะ
ตอบ : ลักษณะเช่นนี้ ถ้าจะให้ดีควรทำด้วยการตั้งเจตนาในขณะที่ทำหรือทำใจให้ได้ว่า เราทำไปเพียงเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรือเราทำไปเพราะโดนบังคับให้ทำ และขณะที่ทำอยู่ก็ดี หลังจากทำไปแล้วก็ดี ควรแผ่เมตตาให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ่อย ๆ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้นคือ อย่าทำเลย เพราะทุกการกระทำย่อมมีผล…ทำอย่างไรก็ต้องได้รับผลเช่นนั้นอย่างแน่นอน
Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/