หญิง – รฐา โพธิ์งาม สวย เซ็กซี่ กตัญญู สู้ไม่ถอย!
ณ งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ประจำปี 2556
ทันทีที่รถลิมูนซีนคันหรูจอดเทียบสถานที่จัดงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ริมหาดริเวียรา สื่อมวลชนและผู้คนต่างจับจ้องไปที่ทีมงานจากหนังเรื่อง Only God Forgives ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือนักแสดงสาวจากประเทศไทย ที่สามารถเรียกความสนใจจากทุกสายตา รวมทั้งเลนส์กล้องนับสิบนับร้อยให้หันมาทางเธอ
ในวันนั้นตัวแทนประเทศไทยสวยสะดุดตาด้วยชุดจั๊มป์สูทสีขาวของแบรนด์วทานิกา ผลงานของดีไซเนอร์ไทย…แล้วนับจากนั้นชื่อ หญิง – รฐา โพธิ์งาม ก็ประทับในความทรงจำของคนทั่วโลก
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของ น้อย โพธิ์งาม ตลกหญิงชื่อดัง และนักร้องสาวเจ้าของลีลาการเต้นที่ร้อนแรงชนิดหาตัวจับยาก เธอแจ้งเกิดด้วยนิคเนม “ญาญ่าญิ๋ง” และโด่งดังอีกครั้งจากบทบาท คุณบุญเลื่อง ในภาพยนตร์ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดอย่าง จันดารา ซึ่งเธอได้อวดโฉมโนมเนื้อจนเป็นที่ฮือฮากันไปทั่ว ก่อนที่จะได้ขยับไปร่วมงานกับทางฮอลลีวู้ด และล่าสุดก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงของศิลปินระดับโลกอย่าง Wycref Jean ซึ่งกำลังจะมีโปรเจ็กต์พิเศษร่วมกัน
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนฟ้าหลังฝนอันแสนสดใส หลังจากที่เธอถูกมรสุมชีวิตโหมกระหน่ำมาเป็นเวลาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องชีวิตในวงการบันเทิงที่อยู่ในช่วงขาลง งานเริ่มหดหาย ขณะที่คุณแม่ก็มีปัญหาหนี้สินหลักล้าน จนต้องขายทุกสิ่งทุกอย่างแทบหมดตัว แต่แล้ว…ในที่สุดเธอก็สามารถผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างมาได้อย่างงดงาม เคล็ดลับของเธอคืออะไร…ผู้หญิงใจสู้คนนี้มีคำตอบพร้อมอยู่แล้ว
หม่อมน้อยพูดในวันฉายรอบพรีเมี่ยร์ของ จันดารา ว่า “จากวันนี้ชีวิตของใครบางคนกำลังจะเปลี่ยนไป” ถึงตอนนี้คิดว่าอย่างไรครับ
คิดว่าใช่ค่ะ เพราะจากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นอย่างที่หม่อมบอกจริง ๆ คือถ้าเราทำงานโดยที่หวังแต่เงิน เราก็จะได้เงิน แต่ถ้าเราทำงานแล้วเราหวังมากกว่าเงิน หวังบารมี หวังความเก่ง หวังคนรัก เราก็จะได้แบบนั้น ตอนที่หญิงทำงานกับหม่อม ท่านบอกเสมอว่า งานเยอะไม่ได้แปลว่าเราประสบความสำเร็จ แต่อาจเป็นเพียงแค่กระแส ดังนั้นอย่าทำตัวเป็นกระแสหรือตามกระแส
นอกจากนั้นการเป็นนักแสดงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนเกิดมาแล้วทำได้เลย ดังนั้นจึงต้องมีทั้งความรักและมีครู ถ้าคิดจะทำงานในวงการนี้แล้วรักเงินมากกว่ารักครู รักอาชีพ เราอาจทำงานได้เงินเยอะเลย แต่สุดท้ายพอนานวันเข้าคนก็จะลืมเราไป เธอต้องเดินตามรอยเท้ารุ่นพี่อย่าง พี่นก – สินจัย (เปล่งพานิช) ที่ไม่ว่าจะมีชื่อเขาอยู่บนคัตเอ้าต์หนังเรื่องไหนก็มีแต่คนอยากดู ถ้าเธออยากเป็นอย่างนั้น จงเป็นนักแสดงที่มีความรับผิดชอบในเรื่องงานและใช้ชีวิตอย่างมีสติ ก่อนหน้านั้นเงินอาจจะเป็นตัวกำหนดว่า เงินเท่านี้เธอต้องทำเท่านั้น แต่วันหนึ่งเมื่อทำได้ เธอจะกลายเป็นคนกำหนดตัวเงินเอง
ทั้งหมดเป็นคำสอนที่หญิงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งยังทำงานแทบไม่ได้หยุดเลย(ยิ้ม) ถือเป็นเรื่องน่าดีใจที่ยังมีคนอยากทำงานกับเรา มีบทบาทใหม่ ๆ ให้เราได้ลองมากขึ้น รวมทั้งมีคนอยากเห็นผลงานเรื่อย ๆ หญิงคิดว่า ด้วยตัวงานก็คงพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งในเรื่องความเป็นนักแสดงของหญิงว่า ณ วันนี้เรากำลังเดินอยู่ตรงไหน
หลังจากที่ผ่านช่วงที่ยากลำบากของชีวิตมาแล้ว ทุกวันนี้มองช่วงเวลาเหล่านั้นอย่างไรบ้างครับ
หญิงมองเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเหมือนเป็นบุญของเราที่เคยได้เจอปัญหาหนัก ๆ และสามารถผ่านมาได้นะคะ เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดกับหญิงว่า “หญิงเป็นคนโชคดีนะ มีบุญ คนบางคนไม่รู้อะไรเลย บางทีรู้ต่อเมื่อลงโลงแล้วด้วยซ้ำ” ดังนั้นการที่เราได้รู้เร็ว แปลว่าเรามีบุญ เราจึงคิดได้เร็ว เหมือนพระพุทธเจ้าอยากให้เรารู้จักชีวิตเร็วขึ้นว่าการต่อสู้ฝ่าฟันกับความยากลำบากนั้นเราต้องทำยังไง คือหญิงอาจจะโชคดีที่หญิงเคยเจอเรื่องทั้งร้ายและดีมาเยอะ เลยทำให้เราเป็นคนคิดได้ไวกว่าคนที่อายุใกล้กัน ในขณะที่บางคนอายุมากแล้วอาจจะยังคิดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มาคิดได้ก็ตอนจะถอดสายน้ำเกลือ ซึ่งสายเกินไปแล้ว
มีคำแนะนำสำหรับคนที่เพิ่งได้พบกับอุปสรรคหนักหนาในชีวิตอย่างไรบ้างครับ
ไม่ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคที่หนักหนาขนาดไหน ต่อให้เป็นเรื่องที่ลบที่สุดในชีวิต ก็จงมองทุกอย่างเป็นบวก หญิงเชื่อว่า ในที่สุดพลังบวกจะสร้างสิ่งดี ๆ ให้เราได้ค่ะ และต่อให้วันนี้เราพบกับเรื่องที่ไม่ดี แต่นั่นก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ซึ่งจะทำให้พรุ่งนี้เราทำชีวิตให้ดีขึ้นได้ หญิงมองว่าความผิดพลาดต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวหญิงที่มีปัญหามาก่อน เรื่องการทำงาน หรือแม้กระทั้งเรื่องความรักทุกอย่าง ทุกก้าว ทุกคำพูด คือประสบการณ์ทั้งนั้น
นอกจากนั้นในความคิดของหญิง ยิ่งเราใช้ชีวิตก็ย่อมมีปัญหาที่ยากยิ่งกว่ารออยู่เสมอ วันนี้หญิงอาจจะเข้าใจในเรื่องนี้ แต่ในที่สุดก็จะมีอีกหลายเรื่องในชีวิตที่หญิงยังไม่เข้าใจ อย่างเรื่องชีวิตคู่ ตอนนี้เรายังไม่เคยมีประสบการณ์ แต่อนาคตหญิงอาจจะมีชีวิตคู่ที่ล้มเหลวมาก ๆ ก็ได้ ใครจะรู้ (หัวเราะ)
หญิงมองว่า ถึงแม้ว่าวันนี้เราทำอะไรผิดพลาดไป ก็ขอให้ยอมรับความจริงให้ไว แล้วเราก็จะทุกข์ไม่นานค่ะ ดีกว่าไม่รู้แล้วก็ทุกข์ไปเรื่อย ๆ โดยที่หาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ เสียเวลาชีวิตไปอีกปีสองปี สู้ยอมเจ็บหนัก ๆ ทีเดียว แล้วเราเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องดีกว่า ถ้าหญิงยังไม่รู้จักยอมรับความจริง หญิงคงไม่มีวันนี้ ยอมรับสิว่าเราไม่ใช่สำหรับคนนี้ แต่อาจจะใช่สำหรับคนอื่นก็ได้ ยอมรับสิว่าเราไม่เก่ง อย่าดื้อสิ เพราะถ้าเราไม่เก่งก็จะมีคนมาสอนเราเอง หญิงว่าการยอมรับความจริงคือพื้นฐานของความก้าวหน้าค่ะ
คุณเคยบอกว่า ในชีวิตมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ 2 อย่าง คือ แม่กับธรรมะ ขอพูดถึงธรรมะก่อนว่า ทำไมธรรมะถึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณครับ
จริง ๆ บ้านหญิงนับถือพุทธตั้งแต่รุ่นคุณตามาเลยค่ะ แต่หญิงก็ไม่ได้ถึงขั้นสวดมนต์ได้ทุกบท และไม่ได้เคร่งอะไรขนาดนั้น ทุกวันนี้ก็ยังเปิดหนังสือสวดมนต์สวดอยู่ แต่สำหรับหญิง ศาสนาหรือธรรมะถือเป็นที่พึ่งทางใจที่สำคัญมาก คนเราถ้ามีที่พึ่งทางใจหรือมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจก็จะทำให้จิตของเราสูงขึ้น และไม่ว่าเราจะทำอะไรหรือจะโดนกระทำ ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรเราได้ เพราะว่าเราไม่เอาจิตไปให้เขาทำร้าย หญิงเชื่อว่าพระพุทธองค์สอนให้เราอยู่กับตัวเอง อยู่กับสติ ดังนั้นเมื่อเรามีสติไม่มีอะไรสามารถทำร้ายเราได้ ไม่ว่าวัตถุหรือความรู้สึกก็ตาม หญิงถึงบอกว่า อยู่กับความจริงให้ได้ อยู่กับปัจจุบันให้เป็น นี่คือหลักธรรมะง่าย ๆ ซึ่งหญิงเอามาใช้ได้ในทุกเรื่องของชีวิต
แล้วคุณเคยปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังบ้างไหมครับ
ไม่เลยค่ะ (หัวเราะ) หญิงเคยฝึกวิปัสสนาแค่ครั้งเดียวเอง แล้วก็ไม่เคยมีเวลาไปปฏิบัติธรรมแบบสามวันเจ็ดวันเลย แต่หญิงโชคดีตรงที่มีกัลยาณมิตรอยู่รอบตัว อย่างผู้จัดการส่วนตัวก็ชอบพาเข้าวัด เพื่อน ๆ ในวงการด้วยกันก็ชอบพาไปสวดมนต์ กิจกรรมที่ทำด้วยกันเป็นการทำบุญเป็นส่วนใหญ่ แม้จะไม่ถึงขั้นว่า โอ้โฮ ทำบุญถี่เหลือเกิน แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสเราก็จะทำบุญกัน
หญิงเชื่ออย่างหนึ่งว่า เรื่องของบุญไม่ใช่แค่ว่าเราเข้าวัดบ่อยแค่ไหนหรือสวดมากขนาดไหน แต่บุญนั้นอยู่ที่ความคิด ถ้าเราคิดดีก็มีบุญ หญิงอาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เข้าวัดมากนัก แล้วก็ไม่ใช่คนที่ว่าอยู่ในศีลในธรรม แต่หญิงมั่นใจว่า หลาย ๆ ครั้งที่เกิดปัญหา หญิงสามารถเอาธรรมะเข้ามาข่มอารมณ์ความรู้สึกเชิงลบที่เกิดขึ้นกับเราได้เสมอ หญิงเลยโมโหใครไม่ค่อยเป็น เป็นคนอโหสิกรรมไวมาก ดังนั้นใครที่ทำให้หญิงโมโหได้ คือที่สุดแล้วจริง ๆ (หัวเราะ)
คลิกเลข 3 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป
คำสอนของคุณแม่ที่คุณหญิงยังจดจำและนำมาใช้คือเรื่องอะไรครับ
ถ้าเป็นคำพูด คำที่หญิงจำได้แม่นสุด ๆ เลยก็คือ “คนโง่เอาใจไว้ที่ปาก คนฉลาดเอาปากไว้ที่ใจ” แม่บอกเสมอว่าให้คิดก่อนพูด เพราะบางทีคำพูดแค่ไม่กี่คำก็อาจทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปได้ทั้งชีวิต คนที่รักกัน แค่คำพูดบางคำก็ทำให้เขาเกลียดเราได้เลยทันที ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร คิดก่อนพูด คำนี้ก็ถือเป็นธรรมะนะ ในแง่ที่ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับสติ
เคล็ดลับที่ทำให้คุณมีวันนี้ได้คืออะไรครับ
เคล็ดลับก็คือ การอยู่กับความเป็นจริงนี่ละค่ะ คือถึงทุกอย่างจะเริ่มจากความฝัน แต่ก็อย่าอยู่กับความฝันมากเกินไปจนมองไม่เห็นว่าความจริงคืออะไร มีความเป็นไปได้แค่ไหน อย่างการโกอินเตอร์หรือการร่วมงานกับนักแสดงหรือผู้กำกับเมืองนอกนั้น ถือเป็นความฝันของหลาย ๆ คน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสนั้น หญิงเองก็ฝันแบบนั้นมาตลอด แต่ก็คิดถึงแนวโน้มความเป็นไปได้อยู่ตลอดเวลา และตั้งเป้าเอาไว้ชัดเจนว่า หญิงจะให้โอกาสกับความฝันตรงนี้แค่ 5 ปี ทำให้เต็มที่ ถ้าทำไม่ได้ก็ยอมรับความจริงซะว่าเราทำไม่ได้ เรามาได้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ถือว่าเรามีโอกาสได้ทำมากกว่าหลาย ๆ คน ค่อยไปสู้เรื่องอื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนั้นหม่อมน้อยเคยสอนว่า ถึงรู้ก็ต้องไม่รู้ บางทีสิ่งที่เรารู้อาจจะไม่ใช่รู้เดียวกันกับที่เขารู้ก้ได้ ส่วนไอ้ที่เขารู้ก็อาจจะมาช่วยสอนเราก็ได้ ดังนั้นจงทำตัวเป็นแก้วใส น้ำต้องไม่เต็มแก้วมากนัก แล้วก็ไม่ต้องรู้มาก เพราะคนที่รู้มากสุดท้ายก็ไม่รู้อะไรเลย หญิงจึงเป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้และอยากที่จะรู้อยู่ตลอดเวลา
ถ้าพูดถึงคำว่า “ภูมิใจ” เหตุการณ์ไหนในชีวิตที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจมาก ๆ ครับ
ความภูมิใจแรกก็คงเป็นเรื่องที่ได้ร่วมงานกับคนที่เราอยากร่วมงานมาก ๆ อย่าง Ryan Gosling การที่เราได้ไปทำงานและได้ไปเดินบนพรมแดงที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ในฐานะคนไทย ใส่ชุดไทย นี่คือความภูมิใจครั้งที่หนึ่ง เรื่องนี้คงเป็นเรื่องเล่าขานในบ้านหญิงอีกนานไปจนถึงลูกถึงหลาน…ว่าฉันได้ทำสิ่งนี้แล้วนะ ภูมิใจที่สองคงเป็นภูมิใจในเรื่องที่เราได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงที่หญิงรักมากที่สุด ได้เล่นละคร ได้เล่นภาพยนตร์ รวมถึงละครเวที หญิงจึงภูมิใจมากที่ชีวิตหนึ่งเราได้ทำเกือบจะทุกอย่างที่รักมาหมดแล้ว
ส่วนภูมิใจอันสุดท้ายคือ ภูมิใจที่ได้ดูแลครอบครัว ได้เห็นแม่อยู่สบาย มีอาหารอร่อย ๆ กิน และมีเวลานั่งตัดต้นไม้อย่างที่แม่ชอบ
ทั้งหมดเป็นสามสิ่งที่หญิงภูมิใจกับชีวิต ณ ปัจจุบัน ส่วนวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป ความทุ่มเทของเราจะเป็นตัวบอกอนาคตเองค่ะ
ส่วนหนึ่งจากคอลัมน์ Idol Secrets ::: รฐา โพธิ์งาม สวย…เซ็กซี่…กตัญญู…สู้ไม่ถอย!
เรื่อง พีรภัทร โพธิสารัตนะ ภาพ วรวุฒิ วิชาธร
นิตยสาร Secret ฉบับวันที่ 10 มีนาคม 2557
Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/