รู้สาเหตุ + วิธีแก้ปัญหา กลิ่นตัวแรง
ขอพูดถึง กลิ่นตัวแรง แท้ๆ สองอย่างนะครับ คือกลิ่นจากรักแร้และกลิ่นจากขาหนีบหรือจากใต้ร่มผ้า กลิ่นจากสองแห่งนี้ด้านการแพทย์ระบุว่า เกิดจากเหงื่อไคลหมักหมมผสมกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา
กลิ่นตัวเกิดจาก
กลิ่นตัวเป็นปัญหาใหญ่ของหลายคน เฝ้าเพียรหาสิ่งละอันพันละน้อยจากร้านค้ามาใช้ก็ไม่หายขาด อยู่ตามลำพังพอทำเนา แต่อยู่กับเพื่อนฝูงหรือในที่สาธารณะนั้นปวดใจ ทำไมคนจึงผละหนีกันหมด กูรูต้นตำรับชีวจิตจึงขึ้นม้าขาวมาพร้อม Home Remedies หรือสูตรยาที่ทำได้เองในบ้านเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้
กลิ่นเหงื่อไคลเมื่อผสมกับเชื้อโรคเช่นนี้ทำให้เกิดการหมักดอง (FERMENTATION) และทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีขึ้น ผลสุดท้ายก็กลายเป็นกลิ่นประจำตัวเฉพาะของแต่ละคน
ตอนนี้ขออนุญาตเล่าถึงโรคหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับการที่มีเหงื่อไหลออกมาอย่างผิดปกติ คือ EXCESSIVE SWEATING หรือเรียกเป็นภาษาแพทย์อีกอย่างหนึ่งว่า HYPERHIDROSIS
ปกติแล้วคนส่วนมากเมื่ออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนหรือป่วยมีไข้สูง เหงื่อจะออกมากเป็นธรรมดา แต่บุคคลประเภท HYPERHIDROSIS นี้ แม้อยู่ในที่ที่มีอากาศธรรมดาหรืออากาศเย็นก็จะมีเหงื่อออกอยู่ดี
ในวงการแพทย์ เมื่อเจอผู้ป่วยแบบนี้ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจมีอาการป่วยเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ส่วนมากมักเป็นกลุ่มต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (HYPERTHYROIDISM) หรือมิฉะนั้นอาจเป็นพวกกลุ่มน้ำตาลในเลือดต่ำ
และมีอีกโรคหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกยากๆ ว่า PHEOCHROMOCYTOMA (อ่านว่า ฟีโอโครโมไซโตมา) ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมหมวกไต มีเนื้องอกอยู่ที่ต่อมนี้อาการมีหลายอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และแน่นอนจะมีอาการเหงื่อออกมากเป็นประจำอยู่ด้วย
อย่าด่วนตกใจนะครับ พูดถึงเหงื่อออกมากทำให้มีกลิ่นตัวอยู่ดีๆ กลับไปพูดเรื่องโรคต่างๆ ซึ่งมีชื่อน่ากลัว
ไม่ควรตกใจครับ เพราะมีบางส่วนของสมองซึ่งควบคุมการหลั่งของเหงื่อออกมาเมื่อเราตื่นเต้นหรือตกใจ ถ้าคุณเป็นคนมีเหงื่อมากอยู่แล้ว เกิดกังวลเรื่องโรคต่างๆ ที่ระบุชื่อออกมานี้ คุณจะวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น เหงื่อของคุณเลยออกมาก ทีนี้กลิ่นตัวจะฉุนจนไม่น่าอภิรมย์เลยทีเดียวเชียว
เพราะฉะนั้นโรคต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดเหงื่อไหลไคลย้อยจนผิดปกตินี้ เช่น โรคเกี่ยวกับไทรอยด์หรือภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือโรคชื่อยากๆเกี่ยวกับต่อมหมวกไตที่เอ่ยชื่อมาเมื่อครู่นี้
คุณควรไปตรวจต้นตอของโรคต่างๆ เหล่านี้ ถ้าเป็นโรคที่เอ่ยชื่อมานี้แน่นอน คุณต้องรักษาโรคนั้นๆ เสียก่อน แล้วอาการต่างๆเกี่ยวกับเหงื่อออกมากจนเกินไปจะหายไปเอง
ทีนี้มาพูดกันถึง กลิ่นตัวแท้ๆ ถ้าเป็นเพราะรักแร้ขาพับ และอวัยวะอับๆ ในร่มผ้าเกิดบูดขึ้นมา
วิธีแก้แบบเบสิกของแท้แต่โบราณ คือ
1. อาบน้ำถูสบู่ถูตัวให้สะอาด แน่นอนวิธีนี้เป็นวิธีเก่า ใช้กันมาแต่โบราณแล้ว
2. สวมเสื้อผ้าสะอาด คุณอาจจะอาบน้ำ ถูเนื้อ ถูตัวจนขี้ไคลหลุดออกมาเป็นตันๆ ก็ย่อมจะทำได้ แต่กลิ่นตัวของคุณก็ยังบูดอยู่ดี (แล้วแนะนำให้อาบน้ำถูสบู่ถูตัวทำไม-หา)
ก็อย่าลืมสิครับ คุณซักเสื้อผ้าสะอาดดีหรือยังอาบน้ำถูสบู่อย่างดีนั้นถูกต้องแล้ว แต่ใส่เสื้อผ้าค้างมาทั้งปียังไม่ซักเลยจะไหวเรอะ
3. เลือกเสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ ถึงเป็นเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมก็ต้องระวังนะครับ สมัยนี้มีเสื้อผ้าชนิดใหม่ๆ เช่น ผ้าไนลอนบ้าง ผ้าไหมปนอะไรต่ออะไรไม่ทราบ สีซ้วยสวย แต่ไม่มีรูให้ขุมขนระบายอากาศบ้างเลย สวยแต่มันเหม็นง่ายครับ ใช้เสื้อผ้าง่ายๆ ที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าแบบทอเองยิ่งดี อย่าใช้ผ้าประเภทใยสังเคราะห์เคมีเลยครับ
4. ใช้สบู่แบบฆ่าเชื้อโรคก็ดีครับ มีขายตามร้านค้าธรรมดาทั่วไป และร้านขายยาก็มี
5. ยาระงับกลิ่นอย่างเป็นแท่งหรือเป็นน้ำก็พอช่วยได้ครับ แต่ระวังอย่าให้กลิ่นมันหอมหวนทวนลมมากนัก ยิ่งหอมมากยิ่งระเหยเร็ว เกิดผสมกับกลิ่นเหงื่อมากๆ ยิ่งทำให้บูดง่ายมาก บางยี่ห้อทำให้คุณแพ้ผื่นขึ้น ยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นไปอีก
6. ลองใช้ยาของคุณปู่คุณย่าดูไหมครับ ใช้ปูนแดงที่กินกับหมากพลู หามะกรูดผ่าครึ่งซีกแล้วเอาปูนแดงทามะกรูด แล้วเอามะกรูดทารักแร้หรือที่อับในร่มผ้า
7. ใช้สารส้มเป็นก้อนทารักแร้สลับกับมะกรูดปูนแดง สลับกันคนละวัน
8. อย่ากินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มกลิ่นแรงๆ
9. มีอีกตำราหนึ่ง (ตำราฝรั่ง) คั้นน้ำมะเขือเทศข้นๆ แล้วทาบริเวณที่มีกลิ่น
ลองทำดู เขาหายกันมานักต่อนักแล้วครับ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 338