รักษาไข้ด้วยใจ “ กรุณา ” เรื่องเล่าจาก นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล
ป้าสมบูรณ์ไม่เคยยิ้มอีกเลย กรุณา
ตามปกติเท่าที่ผมจำได้ ป้ามักนำขนมเค้กหรือขนมไทยชนิดต่าง ๆ ที่ทำเองมาขายผู้ป่วยและญาติ รวมถึงหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลเป็นประจำทุกวัน ผมยังรู้สึกแย่ไม่หาย เพราะรอยยิ้มของเธอจางหายไปหลังจากได้รับแจ้งข่าวร้ายจากผมว่าเธอป่วยเป็น “มะเร็งปอด” นั่นเอง
สามเดือนก่อน ป้าสมบูรณ์มาหาผมและปรึกษาว่า เธอมีอาการไอ มีเสมหะบางครั้งก็มีเลือดปนออกมา และรู้สึกเหนื่อยง่ายมากกว่าปกติ เธอพยายามซื้อยาตามร้านขายยามารักษาตัวเองอยู่นาน แต่ไม่หายสักที ผมให้เธอทำเอกซเรย์ปอด ปรากฏว่าพบก้อนเนื้อขนาดประมาณ 5 เซนติเมตรอยู่ในปอดข้างซ้าย ผมลังเลใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจแจ้งผลนี้ แต่ผมก็มีทางเลือกไม่มากนัก เนื่องจากคุณป้าเองอยู่ตัวคนเดียว เพราะสามีและลูกได้จากเธอไปเป็นเวลานานแล้ว คุณป้ามักน้ำตาคลอเสมอเมื่อมีใครถามว่าเธอมีญาติหรือคนดูแลหรือไม่
ช่วงแรกคุณป้าปฏิเสธการรักษาทั้งหมด เธอยอมรับไม่ได้และหงุดหงิดบ่อยจนต้องให้ยาคลายเครียด หลังจากผมและพยาบาลช่วยกันอธิบายอยู่นานถึงข้อดีและข้อเสียของการรักษา เธอจึงยอมรักษาด้วยยาเคมีบำบัด แต่ถึงกระนั้นทุก ๆ ครั้งที่พบกัน ผมมักจะได้ยินเสียงบ่นหรือตัดพ้อด้วยความโศกเศร้าในโชคชะตาของตัวเธอเองอยู่เสมอ
“หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง คงไร้ความกรุณาต่อป้ามาก ๆ นะหมอ”
นี่คือประโยคลากลับบ้านที่คุณป้ามักพูดกับผม
เด่น เด็กชายตัวน้อยวัย 12 ปี พ่อแม่ทิ้งเขาให้อยู่กับตาตั้งแต่เด็ก ๆ เด่นป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกชนิดรุนแรง (Osteosarcoma) และถูกตัดขาไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อน เขาแทบจะใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากคุณตาที่เลี้ยงดูต้องทำงานอย่างหนัก หาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อเพื่อเก็บเงินไว้รักษาเด่น อีกทั้งสุขภาพที่ไม่ค่อยดีของตา ทำให้พวกเราอดเห็นใจและสงสารไม่ได้ จึงยอมให้เด่นพักอยู่โรงพยาบาลนานกว่าผู้ป่วยคนอื่นอยู่บ่อย ๆ เด่นเองเป็นเด็กน่ารัก ความฝันที่อยากให้เป็นจริงมากที่สุดคืออยากได้ “ขาเทียม” จะได้กลับไปช่วยคุณตาทำงาน
ป้าสมบูรณ์พบเด่นกลางดึกวันหนึ่ง เป็นวันที่เธอมานอนโรงพยาบาลเพื่อรับยาเคมีบำบัดตามนัด วันนั้นคุณตาของเด่นไม่สบาย จึงไม่ได้มาเยี่ยม เด็กน้อยตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความหิว ป้าสมบูรณ์เล่าให้ฟังภายหลังว่า เธอเห็นเด่นนั่งดื่มน้ำเปล่าจากเครื่องกรองน้ำแก้วแล้วแก้วเล่า จึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเด่นกระหายน้ำอะไรมากขนาดนั้น แต่เด่นตอบเธอว่าเขาหิวมาก แต่ไม่มีอาหารเหลือไว้เพราะวันนี้ตาไม่มาหา จึงดื่มน้ำเปล่าบรรเทาความหิวไปก่อน หลังจากป้าสมบูรณ์ถามถึงอาการเจ็บป่วยและเรื่องราวครอบครัวของเด่นก็อดเวทนาไม่ได้ จึงรีบนำขนมที่ขายไม่หมดมาให้เด็กน้อยรับประทาน ตั้งแต่นั้นพวกเราก็เห็นภาพของสองป้าหลานนั่งเล่นและรับประทานขนมด้วยกันอยู่เสมอ “รอยยิ้ม” ปรากฏขึ้นใหม่พร้อมกับการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดที่ดีมากของคุณป้าสมบูรณ์
ป้าสมบูรณ์บอกผมว่า “ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ความกรุณาต่อป้าหรอกหมอ ป้ารู้แล้วว่าเป็นเพราะป้าเองต่างหากที่ไร้ความกรุณา ป้าต้องสร้างความกรุณาขึ้นเองเสียก่อน ท่านจึงจะกรุณาป้านะ” เธอพูดพร้อมกับมองไปที่เด่น ความกรุณาเกิดขึ้นในใจ แม้ยามป่วยไข้ เราก็จะไม่ครุ่นคิดถึงแต่ตนเอง เราจะมองกว้างออกไปถึงเพื่อนมนุษย์ เห็นความทุกขเวทนาและความยากลำบากอย่างมากของผู้อื่น เกิดเป็นความกรุณาที่อยากจะช่วยให้เขาพ้นจากความทุกข์และความลำบากนั้น เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้ว ความเจ็บป่วยจะเบาบางลงหรือบางทีก็ไม่รู้สึกทุกข์จากมันอีกเลย
เรียกได้ว่าความเจ็บป่วยแทบจะหมดความหมายเพราะ “ความกรุณา” ย้อนกลับมาช่วยรักษาเราให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มา นิตยสาร Secret