10 วิธีดูแลสุขภาพกายและใจ ให้ปกติ เมื่อต้องอยู่ติดบ้านเป็นเวลานานๆ

10 วิธีดูแลสุขภาพกายและใจ ให้ปกติ

เมื่อต้องอยู่ติดบ้านเป็นเวลานานๆ

ช่วงนี้หลายๆ คนอาจจำเป็นต้องอยู่ติดบ้าน ใช้เวลาอยู่ที่บ้านนานขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงโรคภัยต่างๆ ภายนอก จนบางครั้งก็แอบรู้สึกนอยด์ เบื่อ ซึมเศร้า ไม่กระปรี้กระเปร่า เหมือนอย่างที่เคย เพราะฉะนั้น รีบตามมาฟัง วิธีดูแลสุขภาพกายและใจ ให้แข็งแรง เมื่อเราต้องอยู่ติดกับ ‘บ้าน’ เป็นเวลานานๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเกิดอาการหมดไฟ หมดใจ จนไม่อยากจะทำอะไรเลยกันดีกว่า

แม้บ้านจะเป็น Safe Zone ชั้นเยี่ยม แต่ถ้าหากอยู่ติดกับที่นานเกินไปหน่อยคงไม่ไหวแน่ เราอาจจำเป็นต้องมีทิปส์ง่ายๆ เก็บไว้ดูแลตัวเอง เพื่อให้รู้สึกดีกับการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน

1. ตื่นแต่เช้า ออกไปรับแสงแดดภายนอก

ว่ากันว่าแสงแดดจากธรรมชาติในช่วงเวลา 6-8 โมงเช้า มีข้อดีทั้งต่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจของเรามากทีเดียว เนื่องจากแดดในตอนเช้าๆ นั้นมี Vitamin D ที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่สัมพันธ์ต่ออารมณ์และความรู้สึก แสงแดดอาจช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินเพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นอารมณ์ มีสมาธิ และสร้างความใจเย็นได้

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากคุณรู้สึกว่าง และอยากลุกขึ้นมาสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง งั้นมาลองค้นหาคลิปวิดีโอออกกำลังกาย ลดเฉพาะส่วน หรือจะเป็นการคาร์ดิโอ ท่วงท่าต่างๆ ก็สามารถช่วยให้วันทั้งวันของเราสนุกยิ่งขึ้น แต่ขอเตือนเอาไว้นิดนึงนะคะว่า อย่าออกกำลังกายในช่วงก่อนนอนล่ะ เพราะมันอาจทำให้ร่างกายของเราตื่นตัว จนส่งผลต่อการนอนไม่หลับได้เลย

3. งีบหลับในตอนกลางวันบ้าง

โดยเฉพาะการงีบหลับในช่วง 10-20 นาที จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกเฟรชและพร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้างีบหลังหลังอาหารกลางวัน จะช่วยลดความอยากอาหารประเภท Junk Food ลง และยังช่วยลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรงีบหลับเกิน 30 นาที ขึ้นไป เพราะอาจส่งผลให้เรามีอาการมึนหัวเล็กน้อย และอาจมีอาการปวดหัวตามมานั่นเอง

4. อ่านข่าวพอประมาณ อย่าวิตกจนเกินไป

ต้องเปิดรับข้อเท็จจริงรอบด้าน และพิจารณาไตร่ตรองให้ดี อย่าเพิ่งรีบร้อนปักใจเชื่อข่าวที่ส่งต่อๆ กันมาผ่านทางโซเชียล ควรเลือกรับฟังข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ งดเสพข่าวก่อนนอน เพราะอาจทำให้คิดมาก วิตกกังวล จนส่งผลต่อการนอนหลับ

5. ฝึกทำอาหาร

หลายคนเมื่อต้องอยู่บ้านนานๆ ไม่ได้ออกไปไหน อาจรับประทานแต่อาหารเดิมๆ จนทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน เพราะฉะนั้น เรามาลองฝึกทำอาหาร โดยเริ่มต้นจากอาหารง่ายๆ กันดูดีกว่าค่ะ ถือซะว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แถมยังได้ทานอาหารที่ปรุงสดใหม่ ปลอดภัย และมีคุณค่าต่อร่างกายอีกด้วยนะ

6. อย่าขาดการติดต่อจากโลกภายนอก

การติดอยู่กับที่เดิมเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลให้ใครหลายคนเผลอคิดว่าเราใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง จนเกิดอาการหดหู่ ซึมเศร้า ร้องไห้ และคิดลบขึ้นมาได้ ดังนั้น จึงควรใช้โซเชียลให้เกิดประโยชน์ ทักทายเพื่อนฝูง วิดีโอคอล หรืออัปเดตสถานการณ์ซึ่งกันและกันผ่านช่องทางแชท ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีคลายเครียดที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ

7. เสพสื่อที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ

อาทิเช่น ฟัง Podcast อ่านบทความ ดูหนัง หรืออ่านหนังสือเล่มโปรดที่คุณชื่นชอบ ก็มีส่วนช่วยทำให้วันทั้งวันผ่านไปอย่างมีค่า พร้อมทั้งเกิดแรงบันดาลใจดีๆ วางแผนได้ว่า ชีวิตหลังจากผ่านวิกฤติเหล่านี้ไปแล้ว เราจะลุกขึ้นมาทำอะไร เป้าหมายของเราคืออะไรที่ต้องเอาชนะ

8. ค้นหาความชอบและความถนัดของตัวเอง

GoodLife เชื่อว่า ทุกๆ คนล้วนมีความชอบเป็นของตัวเอง แต่ด้วยภาระหน้าที่ในชีวิตหลายอย่าง ส่งผลให้ใครหลายคนไม่มีเวลาที่จะมานั่งค้นหาความชอบ ความต้องการ และความถนัดของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ นี่จึงถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ไตร่ตรองตัวเอง พูดคุยกับตัวเอง แล้วลงมือลงแรงทำมันอย่างสุดความสามารถ

9. ใช้เวลาให้เต็มที่กับครอบครัว ปรับความเข้าใจ

ถ้าใครได้อยู่บ้านกับครอบครัว ก็จงใช้เวลานี้ให้เต็มที่ซะเถอะค่ะ เพราะไม่ใช่ที่ว่าเราจะได้มีโอกาสทำอะไรอย่างนี้บ่อยครั้ง เนื่องจากต่างคนก็ต่างมีภาระหน้าที่ ฉะนั้น เมื่อรู้แล้วว่าชีวิตไม่แน่ไม่นอน ก็จงอย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับคนที่เรารัก และคนที่รักเราให้มากๆ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกเสียดายและเสียใจทีหลัง หากเกิดอะไรขึ้นมา

10. คิดบวก ไม่หลอกตัวเอง ยอมรับความจริง

จงอย่าคิดว่าการใช้ชีวิตมันยาก ก็เลยขอยกธงขาวยอมแพ้มันซะดื้อๆ แต่ควรลองปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองดูเสียใหม่ เพื่อให้หัวใจของเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งขึ้น โดยการมองโลกตามความเป็นจริง ไม่ปรุงแต่ง ไม่หลอกตัวเอง แล้วค่อยๆ หาวิธีแก้ไข และอยู่ร่วมกับมันอย่างมีความสุข