วัณโรค โรคระบบทางเดินหายใจ ภัยระดับประเทศ
วัณโรค อาการไอหรือจาม มีไข้สูง เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยร่างกาย ฯลฯอาจนำไปสู่อีกหนึ่งโรคระบบทางเดินหายใจ ที่มีทั้งความรุนแรงและความเสียหายต่อสังคมและเศรษฐกิจได้น่ากลัวกว่าที่คิดนั่น
ที่สุดของอันตรายโรคระบบทางเดินหายใจ
หลังข่าวการตายด้วยวัณโรคของลูกสาวคนเล็ก ของร้านขายอาหารตามสั่งเจ้าอร่อยที่เปิดขายมานานนับสิบปีในตำบล วันนี้ลูกค้าขาประจำเริ่มร่อยหรอ มีเพียงขาจรเท่านั้นที่จอดรถพักรับประทานอาหาร ซึ่งทุกครั้งจะมีเสียงซุบซิบจากบ้านใกล้เรือนเคียงว่า “คนที่อื่นเขาไม่รู้ เดี๋ยวก็ติดวัณโรคตายกันพอดี”
ต่อมา ผู้เป็นแม่เริ่มซูบผอมผิดรูปผิดร่าง ร้านอาหารจึงต้องปิดกิจการถาวร?ด้วยความรู้สึกบีบคั้นจากภาวะสังคมรังเกียจและจำนวนลูกค้าที่มีไม่ถึงสิบรายในแต่ละวัน ลูกสาวคนโตที่เคยทำงานกับที่บ้านจึงจำต้องออกไปทำงานต่างถิ่น เพื่อส่งเงินมาดูแลแม่ที่ได้รับเชื้อจากลูกสาวคนเล็ก และกำลังถูกวัณโรคคุกคามอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลง เมื่อทั้งบ้านเหลือเพียงแม่ซึ่งป่วยหนักทั้งที่อายุมากแล้ว แถมยังต้องคอยเลี้ยงดูหลานๆ ในวัยเรียนอีกส่งผลให้แม่กินยารักษาวัณโรคไม่ต่อเนื่อง จึงเกิดอาการดื้อยาจนยากจะรักษา เพียงไม่กี่ปีให้หลัง แม่จึงตายจากไปในที่สุด
คุณหมอยุทธิชัย ภาคีชีพ และคุณหมอศรีประพา เนตรนิยม วิเคราะห์ปัญหาวัณโรคที่ปลิดชีวิตคนในครอบครัวนี้ถึงสองรุ่นให้ฟังว่า
“สาเหตุคือการกินยาไม่ต่อเนื่อง ทำให้การรักษาไม่ได้ผล คนใกล้ชิดจึงติดเชื้อวัณโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การไอจามรดกัน หากเป็นคนในครอบครัวเดียวกันอาจไม่ทันระวัง จึงไม่ปิดปาก เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ก่อปัญหาสุขภาพ เมื่ออยู่ในที่สาธารณะสามารถทำให้เกิดการแพร่ระบาดของวัณโรคได้ บางครั้งคนรอบข้างไม่กล้าบอก เพราะเกรงใจกัน
“คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน ห้อง หรือนอนห้องเดียวกันยิ่งมีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยที่ลืมกินยาในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะการไอหนึ่งครั้งของเขาจะปล่อยละอองเสมหะมากกว่า 3,000 ละอองฝอย หนึ่งละอองเสมหะมีเชื้อวัณโรค 2 – 4 ตัวที่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง และภายในหนึ่งปี ผู้ป่วยวัณโรคหนึ่งคนสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นป่วยเป็นวัณโรคได้อีก 10 – 15 คน
“ยิ่งหากมี รูปร่างผอมและน้ำหนักตัวน้อย ร่างกายจะขาดสารอาหาร ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันยิ่งอ่อนแอจนกักกันเชื้อวัณโรคไว้ไม่อยู่ เชื้อสามารถขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนจนทำให้ป่วยเป็นวัณโรคได้”
นอกจากนี้ ยังเล่าถึงสาเหตุการเกิดวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงาน เพิ่มเติมว่า
“ปัจจุบันผู้ป่วยวัณโรคเป็นคนวัยทำงานมากขึ้น เพราะตัวโรคตลอดจนพฤติกรรมบางอย่างเป็นปัจจัยเอื้อให้ป่วยเป็นวัณโรค เช่น การทำงานในห้องเดียวกันหรือต้องนั่งรถคันเดียวกัน กับผู้ป่วยวัณโรคที่ยังไม่ได้กินยารักษาวัณโรค หรือกินยาไม่สม่ำเสมอทำให้มีโอกาสสูดหายใจเอาละอองเสมหะที่มีเชื้อวัณโรคเข้าสู่ปอดจนติดเชื้อได้
“การอยู่อย่างแออัดในที่อับอากาศ เช่น โรงภาพยนตร์ห้องร้องคาราโอเกะ รถแท็กซี่ที่มีผู้ป่วยวัณโรคเข้าไปใช้บริการก่อน
“สำหรับคนทำงานที่ ติดบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้ถุงลมโป่งพอง ส่งผลให้ทางเดินหายใจไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคที่มากับฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การดื่มเหล้าเป็นประจำ เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยง เพราะตับเป็นอวัยวะสำคัญในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย เหล้าทำลายตับ ภูมิคุ้มกันจึงอ่อนแอลงจนกักกันเชื้อวัณโรคที่หลบซ่อนอยู่ในร่างกายไม่อยู่ ทำให้ป่วยเป็นวัณโรคได้ง่าย
“นอกจากนี้ การป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น เอดส์ มะเร็งเบาหวาน โรคตับ ไต หรือเอสแอลอี ผู้ป่วยโรคเรื้อรังดังกล่าวต้องกินยากดภูมิ ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือได้รับยาเคมีบำบัดทำให้ภูมิชีวิตอ่อนแอจนกักกันเชื้อวัณโรคไว้ไม่อยู่ เชื้อสามารถขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนจนทำให้ป่วยเป็นวัณโรคได้”
นี่คือผลกระทบจากโรคระบบทางเดินหายใจ ที่ทำให้เสียทั้งสุขภาพ ประสิทธิภาพการทำงาน เงินทอง และเวลา หากยังปล่อยให้ปัญหาดำเนินต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกพื้นที่ในบ้านเราเต็มไปด้วยผู้ป่วยเหล่านี้