ในชีวิตคนเราที่ต้องอยู่ร่วมกับใครสักคน ต้องมีสักครั้งที่บางทีความใกล้ชิดและความสัมพันธ์ทำให้เกิดการกระทบกระทั่ง หรือ ถูกใครอีกคนก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของเราบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน ความชื่นชอบ หรือเรื่องใหญ่ๆ อย่างไลฟ์สไตล์ ยิ่งถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่มีความผูกพันกับเราทางสายเลือดโดยตรงปัญหาเหล่านี้อาจจะยิ่งทวีความวายป่วงมากกว่าเก่าเป็นเท่าตัว
ไม่ว่าจะเพราะความเป็นห่วงจนเกินเหตุ หรือความอยากแกล้งอยากกวนเพราะสนิทกันมากจนแทบไม่มีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้กันและกันสักเท่าไร บางคนอาจโต้กลับได้แต่อีกฝ่ายยังไม่เลิกพฤติกรรมนั้น หรือบางคนอาจเก็บไว้ในใจเงียบๆ ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้าก้มตาอยู่ร่วมกันต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าเจอแบบนี้หนักเข้า ก็ชักจะทนไม่ไหวขึ้นมาเหมือนกัน !
ความจริงแล้วปัญหาการถูกบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวโดยคนใกล้ตัวแบบนี้ มีวิธีแก้ไขง่ายๆ นิดเดียวแต่เรา (ผู้ถูกกระทำ) อาจจะต้องเป็นฝ่ายเปิดเกมก่อนเท่านั้น
::ส่งสัญญาณเตือน ::
อาจเริ่มด้วยการสะกิดเบาๆ เช่น ขมวดคิ้ว ทำหน้านิ่งใส่ไป สำหรับคนใกล้ตัวประเภทที่ความรู้สึกไวสักหน่อย เขาอาจจะเริ่มรู้ตัวว่าเขากำลังก้าวขาเข้ามาในเขตส่วนตัวเรามากไปแล้วนะ และหยุดพฤติกรรมเหล่านั้นไปเอง แต่สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ ยังดันทุรังยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเราต่อไปก็ส่งสัญญาณตรงๆ ด้วยคำพูด ณ จุดเกิดเหตุไปเลยว่าขอให้เขาหยุดทำเรื่องเหล่านี้ซะ เขาอาจจะตกใจกับท่าทางของเราบ้าง แต่เรื่องแบบนี้เราเองก็ไม่ควรเก็บเอาไว้หนักอก ยิ่งเคลียร์กันเร็วเท่าไร ยิ่งดีต่อความสัมพันธ์ในระยะยาวของเราและเขา
::ตั้งกฏการอยู่ร่วมกัน ::
ไม่ต้องจริงจังถึงขั้นร่างสัญญา แต่ในเมื่อต้องอยู่ร่วมบ้านกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ควรมีกฏกติกาและมารยาทบ้าง คุณอาจหาวันว่างๆ โอกาสดีๆ ตอนเช้าที่อารมณ์ของคุณและเขายังแจ่มใสพร้อมเปิดรับและรับฟังอยู่ นั่ง list กฏเป็นข้อๆ ให้เขาฟัง พร้อมบอกเหตุผลในใจไปด้วยว่าทำไมต้องตั้งกฏแบบนี้ แย็บเสริมไปอีกคำก็ดี ว่าถ้าเขาเป็นฝ่ายมาโดนแบบคุณบ้าง เขาจะโอเคมั้ย ? ในเมื่อคุณและเขาสนิทกันมาก กฏเล็กๆ น้อยๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขแค่นี้ทำไมเขาจะทำร่วมกับคุณไม่ได้
::ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ::
จากเดิมที่เคยเป็นฝ่ายยอม เป็นฝ่ายเงียบ จะด้วยความเกรงใจ ความปลงหรืออะไรก็แล้วแต่ คุณจะยอมให้เขาทำแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะสุดท้ายมันจะกลายเป็นความเคยชิน และญาติสนิทของเราคนนี้อาจหลงคิดไปว่า สิ่งที่เขาทำมันเป็นเรื่องปกติ มันดีอยู่แล้ว เปล่าเลย อย่าปล่อยให้เขาหลงผิดอีกต่อไป ! คุณต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติ เริ่มด้วยเลิกยอม เลิกเงียบ เอาให้เขารู้ไปเลยว่าคุณไม่พอใจกับพฤติกรรมของเขาอยู่ เริ่มต้นละลายพฤติกรรมล้ำเส้นของเขาด้วยการปรับพฤติกรรมของเราให้เขารู้ซะเลย
::เปิดอกนั่งคุยกัน::
แน่นอนในเมื่อเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกล แถมยังชอบเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเราทุกที่ทุกเวลาที่มีโอกาสก็จับมานั่งคุยเปิดอกกันไปเลยดีกว่า คุณมีสิทธิ์จะบอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวในชีวิตคุณอยู่ และคุณไม่สบายใจเลยที่ต้องเจอแบบนี้บ่อยๆ ตอนที่พูดแนะนำให้ทำหน้าจริงจังที่สุดในชีวิตด้วย เขาจะได้ไม่คิดว่าคุณกำลังเล่นๆ อยู่ สนิทใกล้ชิดกันแค่ไหนก็ควรมีลิมิตบ้าง จริงมั้ย ?
:: ยึดคติใจเขาใจเรา ::
ในเมื่อเป็นญาติพี่น้อง เป็นคนใกล้ชิดที่ต้องอยู่ร่วมกันไปอีกนาน คุณต้องงัดคตินี้ขึ้นมาใช้กับเขาแต่เนิ่นๆ ก่อนที่ปัญหานี้จะลุกลามต่อเนื่องจนถึงขั้นแตกหักกันในอนาคต คุณไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่มั้ย แน่นอนว่าเขาก็คงไม่อยาก คุณควรเริ่มด้วยการพูดถึงสิ่งที่เขาทำ อธิบายว่ามันส่งผลเสียต่อชีวิตของคุณอย่างไร แล้วลองยกตัวอย่างกรณีของเขา โดยสลับเหตุการณ์ให้เขาเป็นฝ่ายโดนกระทำเองบ้าง แบบนี้เขารับได้มั้ย ?
เอาใจเขามาใส่ใจเรากันดีกว่า เพื่อความสงบและสันติสุขระหว่างกันและกัน