นอนน้อย ทำงานหนัก ควรดูแลสุขภาพอย่างไรดี นอนน้อย ควรดูแลสุขภาพอย่างไรดี

ชีวิตของคนเรานั้นในแต่ละวันด้วยควาจำเป็น จึงทำให้ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะสร้างรายได้ และหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ในชีวิตประจำวัน หลายๆ คนนอกจากทำงานหนักแล้ว ยังพักผ่อนน้อยอีกต่างหาก จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา หนักหน่อยบางคนไม่สามารถรักษาได้ทันท่วงที เชื่อว่าหลายคนพบอาจเคยเจอ การพักผ่อนน้อยเพื่อที่จะทำงานได้มากๆ นั้น เอาเข้าจริงๆก็เพื่อจะได้มีเงินมารักษาสุขภาพของตัวเอง นั่นคือทำงานหนักเพื่อเอาเงินไว้หาหมอนั่นเอง แต่ทำอย่างไรได้ด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่างทำให้เราไม่สามารถเลี่ยงสถานการณ์เหล่านี้ได้ แต่เราสามารถที่จะหันมาดูแลสุขภาพของเราให้ดีขึ้นได้ ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ สำหรับคนที่ต้องทำงานหนักๆ และนอนน้อยเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีในระหว่างวันและตลอดระยะเวลาในการทำงานมาฝาก จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค๊า!

>> ดื่มคาเฟอีนในปริมาณพอเหมาะ <<

การดื่มกาแฟหรือชาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เกินวันละ 2 แก้ว ก็ช่วยให้เรามีความกระปรี้กระเปร่าในระหว่างการทำงานของคุณได้ดีมากขึ้น ซึ่งการดื่มคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ลดความตึงเครียด ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ทำให้มีความตื่นตัวต่อสิ่งรอบข้างมากยิ่งขึ้น ช่วยให้เราสามารถที่จะเคลื่อนไหวและตอบสนองต่อทุกสิ่งได้ดี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานที่ดีของร่างกาย ถ้าหากคุณไม่ชอบการดื่มกาแฟเพราะว่ากลัวจะนอนไม่หลับ ก็ลองหันมาดื่มชาสมุนไพรร้อนๆ สักแก้วในตอนเช้า และระหว่างทำงานเพื่อช่วยให้เกิดความผ่อนคลายและมีแรงทำงานมากยิ่งขึ้นค่ะ

>> จิบน้ำบ่อยๆ ในระหว่างวัน <<

ช่วงเวลาของการทำงานหนักหรือวันที่คุณพักผ่อนน้อยนั้น ควรที่จะมีขวดน้ำ หรือแก้วน้ำดื่มติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะการจิบน้ำตลอดในระหว่างวันเพื่อที่น้ำจะได้เข้าไปฟื้นฟูระบบต่างๆ ภายใน ให้ความชุ่มชื้นต่อร่างกายได้มากขึ้น และน้ำยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับของเสียที่ไม่ดีออกจากร่างกายด้วย การดื่มน้ำบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อสุขภาพ ร่างกายที่แข็งแรง ถือเป็นการดูแลสุขภาพของคนที่ทำงานหนักได้ดี จากวิธีการง่ายๆ ที่บอกไป ถือว่าทำได้ไม่ยากค่ะ

>> หาเวลาเข้าสปา อบซาวน่า <<

ถ้าหากคุณต้องทำงานหนักและพักผ่อนน้อยมาตลอดทั้งเดือน เชื่อเถอะค่ะว่าร่างกายจะต้องอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด เอาเป็นว่าลองหาวันว่างหรือจะเป็นช่วงเวลาที่คุณเลิกงานแล้วก็ได้ แวะเข้าสปา อบซาวน่า หรือนวดสมุนไพรสักนิด เพื่อที่จะได้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย บำรุงสมอง และความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก ทั้งงนี้การอบซาวน่า หรือเข้าสปา หรือแม้แต่การนวด

สมุนไพรนั้น มีความสามารถในการช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตให้ทำงานได้ดีเพื่อที่จะนำสารอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย บำรุงระบบประสาท และส่วนอื่นๆ ให้ร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในการดูแลผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่นอันเกิดมาจากการนอนน้อย และความโทรมของการทำงานหนัก

>> ยืดเส้นยืดสายระหว่างวัน <<

หากใครที่ไม่มีเวลาที่จะไปออกกำลังกาย เพราะต้องทำงานอยู่ตลอดนั้น แนะนำว่าให้คุณลองยืดเส้นยืดสายสักนิดในระหว่างวันได้ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นลงบันได การเดินออกไปข้างนอกหรือเดินไปมาระหว่างการทำงาน อาจลองหยิบไม้กวาดมากวาดห้องทำงานสักนิด จัดระเบียบโต๊ะทำงานดูสักหน่อย ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง เดินย่อยหลังจากรับประทานอาหารมื้อเที่ยงดูบ้าง ยกของ หยิบนู่นทำนี่ เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวมากที่สุด เป็นการออกกำลังกายเล็กๆ ที่เราสามารถทำได้ในที่ทำงาน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนที่ แถมยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกระดูก และส่วนต่างๆ ได้ดีมากยิ่งงขึ้นด้วยค่ะ

>> กินอาหารที่มีโคลีน และกาบ้า <<

อาหารที่มีโคลีน (Choline) จำพวก เต้าหู้ เนื้อปลา ไก่ ไข่ขาว ไข่แดง และถั่วเหลือง ถือเป็นตัวช่วยสร้างเคมีสมอง สารอาหารจำเป็นสำหรับคนนอนดึก เพราะจะช่วยให้สมองที่เหนื่อยล้าจากการนอนไม่พอได้รับสารอาหารไปบำรุง ทดแทนเคมีสมองธรรมชาติที่ร่างกายไม่มีโอกาสสร้างขึ้นมาเองเพราะเราอดนอน ทำให้สมองเกิดความตื่นตัวแม้จะไม่ได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอมาก่อน นอกจากนี้ อาหารที่มีกาบ้า (GABA) อย่างข้าวกล้องงอกและธัญพืช คือสิ่งที่ร่างกายต้องการ โดยกาบ้าจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งวิตามินบีที่มีอยู่ในอาหารเหล่านี้ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองให้ตื่นตัวอีกด้วย ลองหามากินค่ะ รับรองว่าช่วยได้เยอะแน่นอน

>> เลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต <<

เรารู้แล้วว่าอาหารอะไรที่ควรหามารับประทาน ในช่วงที่ร่างกายอ่อนเพลีย จากการที่ต้องทำงานหนักและนอนน้อย ทีนี้ลองมาดูอาหารที่อยากให้เลี่ยงกันค่ะ อย่างเช่น อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตหนัก ๆ และของหวานทุกชนิด เพราะน้ำตาลจากอาหารเหล่านี้จะยิ่งทำให้เรารู้สึกง่วง อ่อนเพลีย จนไม่อยากลุกไปทำอะไรเพิ่มขึ้นไปอีก พูดง่ายๆ คือ ยิ่งกินยิ่งเพลียนั่นเองค่ะ เลี่ยงได้ควรเลี่ยงนะคะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็กินให้น้อยๆ ก็จะดีกว่า

>> หาอาหารประเภทผัก ผลไม้ ทานเยอะๆ <<

ใครก็รู้ดีว่าอาหารประเภทผัก และผลไม้นั้นมีประโยชน์สูง เพราะมีวิตามินซีและวิตามินบีอยู่จำนวนมาก ซึ่งมีผลต่อการทำงานของต่อมไพเนียล (Pineal Gland) เพราะหากเมื่อเรานอนไม่พอขึ้นมาเมื่อไร เจ้าต่อมไพเนียลก็จะออกอาการงอแงไม่อยากจะทำหน้าที่จนเรารู้สึกงัวเงียตามไปด้วย ดังนั้นหากอยากปลุกความสดชื่น ผักสดและน้ำผลไม้คั้นสด ๆ นี่แหละตัวช่วยที่ดีเลยล่ะค่ะ

>> ฝึกการนอนที่ถูกสุขลักษณะ <<

วิธีสุดท้ายที่จะแนะนำสำหรับคนนอนน้อย ทำงานหนัก ร่างกายทรุดโทรม ถ้าหากมีโอกาสที่จะได้นอนขึ้นมาควรจัดห้องนอนให้ดี สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เพื่อที่จะห้เรานอนได้นานขึ้นไม่ควรนำสิ่งของที่รบกวนการพักผ่อน เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดแสง สี เสียง หรือเตียงนอนและผ้าปูที่นอนที่ไม่เอื้อต่อการพักผ่อนมาไว้ในห้องนอน สภาพ

แวดล้อมของห้องนอนควรใช้สีโทนเย็น ให้ความรู้สึกสงบ เป็นระเบียบ การทำแบบนี้ถือเนการฝึกการนอนที่ถูกสุขลักษณะ วิธีนี้จะช่วยให้นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฝึกพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการนอนให้เป็นนิสัย เช่น หลีกเลี่ยงการดูโทรทัศน์หรือใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเข้านอน ไม่ควรเข้านอนทั้งที่ยังรู้สึกกังวลหรือเครียดเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

เราต้องไม่ลืมนะคะว่า “การนอนน้อย” ที่เกิดจากการทำงานหนักนั้นไม่ได้ส่งผลต่อสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ลงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาวะอารมณ์และประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย เราจะรู้สึกเหนื่อยและง่วงซึมตลอดวัน ไม่สดชื่น หรือหนักถึงขั้นประสบภาวะวูบหรือหลับในช่วงเวลาสั้น ๆ ใครที่รู้ตัวว่ากำลังมีพฤติกรรมอย่างที่ได้บอกไปหมายความว่าคุณทำงานหนักจนไม่มีเวลานอน หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ลองเอาวิธีที่เราแนะนำไปลองทำดูนะคะ ถึงช่วยไม่ได้มากก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย สงสารร่างกายบ้างก็ดี เพราะไม่มีใครดูแลตัวเราได้ดีเท่าตัวเราเองค่ะ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ