เชื้อไวรัสซิกา ยังคงแพร่ระบาด ในสิงคโปรอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า พบผู้ติด เชื้อไวรัสซิกา ที่ประเทศสิงคโปรเพิ่มสูงขึ้น เป็น 115 ราย จากเดิมพบผู้ติดเชื้อเพียงแค่ 41ราย นอกจากนี้ยังพบว่า หนึ่งในผู้ติดเชื้อคือหญิงตั้งครรภ์
หญิงตั้งครรภ์รายนี้ อาศัยอยู่ย่านซิมไดร์ฟ หรืออัลจูนีด และคลุกคลีอยู่ในครอบครัวที่มีผู้ติดเชื้อ ซึ่งตัวเธอเองแสดงอาการป่วยเช่นกัน จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ทีมแพทย์ ได้ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด และคอยดูเรื่องพัฒนาการ ของเด็กเป็นที่เรียบร้อย
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แนะนำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ทุกคน ที่มีอาการป่วยคล้ายไวรัสซิกา เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ถึงแม้จะไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ ที่มีการระบาด และผู้หญิงที่มีสามีติดเชื้อไวรัสซิกา ควรไปตรวจเชื้อโดยด่วนที่สุด
ผู้ติดเชื้อส่วนมาก เป็นบรรดาแรงงานต่างชาติ ที่เป็นชาวเอเชีย ซึ่งทำงานอยู่ตามสถานที่ก่อนสร้าง และในส่วนของการเดินเรือทะเลของสิงคโปร์
ขณะนี้ไวรัสซิกาแพร่ระบาดใน 67 ประเทศ ซึ่งบราซิลเองเป็นประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสนี้หนักที่สุด แม้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการ ไม่รุนแรงเท่าไร แต่เชื้อไวรัสนี้จะส่งผล โดยตรงต่อหญิงตั้งครรภ์ และลูกในครรภ์โดยตรง
นักวิจัย มหาวิทยาลัยแพทย์เท็กซัส วิทยาเขตกัลเวสตัน สหรัฐฯ เผยผลการศึกษา พฤติกรรมยุงลายตัวเมีย ที่เป็นพาหะของ ไวรัสซิกาว่า มันสามารถส่งผ่านเชื้อไปยัง ไข่ยุงได้โดยตรง เพราะฉะนั้นเราควรหาทางกำจัดต้นตอของพาหะ ตั้งแต่ระยะเริ่มฟักตัวของไข่ยุง แทนที่จะใช้วิธีฉีดยาฆ่า
ทางด้านสหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย ไต้หวัน และนานาชาติ ออกคำเตือน ถึงการเดินทางไปสิงคโปร์ หญิงตั้งครรภ์หากไม่จำเป็นควร หลีกเลี่ยงการเดินทางอย่างเด็ดขาด จนกว่าผู้ติดเชื้อจะลดลง หรือหมดไป
สำหรับ ประเทศไทย ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อเหลือเพียงแค่ 4 จังหวัด ที่ยังต้องเฝ้าระวังอีกประมาณ 2 สัปดาห์ คือ 1. เชียงใหม่ 2. จันทบุรี 3. เพชรบูรณ์ 4. บึงกาฬ หากไม่พบเชื้อ จะถือว่าพ้นระยะเฝ้าระวัง
สำหรับมาตรการเฝ้าระวัง โรคซิกาของประเทศไทย มี 4 ด้าน คือ 1. การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา 2. การเฝ้าระวังทางกีฏวิทยา 3. เฝ้าระวังทารกแรกเกิด ที่มีความพิการศีรษะเล็กแต่กำเนิด และ 4. เฝ้าระวังกลุ่มอาการ ทางระบบประสาท
รักษาสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงเดินทาง ไปในประเทศกลุ่มเสี่ยงกันด้วยนะคะ
ขอบคุณภาพจาก : reuters.com
ข้อมูลเรื่อง “ยอดคนติดเชื้อ ไวรัสซิกาพุ่งสูง หนึ่งในนั้นมี หญิงตั้งครรภ์ร่วมด้วย” โดย ดวงพร เจียรสุธรรมพร เผยแพร่ใน www.cheewajit.com