ธรรมะปฏิบัติ หรือการปฏิบัติธรรม แม้เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำ ก็ย่อมเรียนรู้กันได้ เช่นเดียวกับประสบการณ์ของชีวจิตแบรนด์แอมบาสเดอร์คนสวย คุณกาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ ที่เล่าเรื่องนี้ไว้ค่ะ
…
ต่อจากประสบการณ์เยี่ยมฟาร์มออแกนิคจากเรื่องเล่าในตอนที่แล้ว การขึ้นเชียงใหม่ครั้งนี้ทำให้แมร์ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมเล็กๆ น้อยๆ ณ วัดถ้ำผาปล่อง ในอำเภอเชียงดาว ที่ได้ไปรู้มาว่า ดร.สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต ครั้งหนึ่งเคยบวชและมาจำพรรษาอยู่ที่นี่ ทั้งยังมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่เป็นระยะ จนเป็นที่มาของการประดิษฐ์ท่ารำกระบองที่ชื่อว่า ท่าถ้ำผาปล่อง ด้วย
พิสูจน์ตนเองตั้งแต่เริ่มต้น
หากใครเคยมาวัดนี้หรือเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามกันมาบ้าง คงหนีไม่พ้นเรื่องสำนักปฏิบัติธรรมและทางขึ้นวัดที่มีลักษณะเป็นบันไดขึ้นเขากว่า 500 ขั้น ซึ่งพี่แหม่ม เจ้าของสวนบัวชมพูที่แมร์ไปพัก แกชอบปฏิบัติธรรม เลยชวนเรามาลองทำบุญ ทำสมาธิที่นี่ดู
ขณะที่เดินขึ้นนั้น ตอนแรกก็คิดว่าคงเหนื่อยไม่น้อย แต่ด้วยความสร้างสรรค์ของวัด ที่จะติดคำสอนของพระพุทธเจ้า และคำสอนของหลวงปู่สิม (อดีตเจ้าอาวาสวัด) เอาไว้ระหว่างทาง เราจึงสามารถหยุดยืนไตร่ตรองคำสอนเหล่านั้นไปด้วยได้ จึงไม่ใช่การตั้งหน้าตั้งตาเดินเพื่อไปให้ถึง แต่เป็นการเดินเพื่อค้นพบตัวเองไปเรื่อยๆ
เมื่อถึงจุดที่เริ่มมีเหงื่อซึม ทางวัดก็สร้างศาลาไว้ให้แวะพักพอหายเหนื่อย เลยรู้สึกว่าเป็นการขึ้นบันได500 ขั้นที่ไม่ได้สาหัสอะไรเลย รู้สึกเพลิดเพลินเสียด้วยซ้ำ และเมื่อมาถึงจุดหมาย นั่นก็คือถ้ำที่มีองค์พระประธานประดิษฐานอยู่ ก็รู้สึกทึ่ง ว่าสมัยก่อน พระท่านมาเจอถ้ำแห่งนี้ได้อย่างไร เพราะทางขึ้นมาในสมัยนั้นต้องลำบากมากๆ ไม่มีขั้นบันไดอย่างปัจจุบัน
เมื่อไปที่กุฏิหลวงปู่สิม ซึ่งเป็นลักษณะของสำนักสงฆ์ สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งสมาธิได้ มีเจ้าหน้าที่ ญาติโยมขึ้นมาเพื่อคอยทำอาหารเลี้ยงพระและผู้ที่มาปฏิบัติธรรมข้างบนนี้ ส่วนเรื่องของวัตถุดิบ ข้าวสาร หรือเครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ ก็จะมีคนนำมาถวายให้อยู่เรื่อยๆ เรียกได้ว่ามีพร้อมสรรพแล้ว
หลังจากได้นั่งสมาธิพอให้จิตใจสงบ ก็รู้สึกใจเบาสบาย แมร์เองเพิ่งเริ่มปฏิบัติ ยังเป็นมือใหม่ แต่ก็ใช้ธรรมะเป็นตัวช่วยให้ดำเนินชีวิตอย่างราบรื่น และคิดว่าการฝึกสมาธินี้ช่วยให้เรามีสติและรู้เท่าทันสิ่งที่เราคิด เรารู้สึกได้จริงๆ
บุญนั้นอยู่ที่ใจ
สิ่งที่สังเกตได้ในวัดแห่งนี้คือ ความศรัทธาและความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำบุญผ่านวิธีต่างๆ มากมาย เอาตั้งแต่ตีนบันไดก่อนขึ้นวัดเลย ก็จะมีพวกของกินของใช้จำเป็นต่างๆ ที่ญาติโยมซื้อหามาถวายวัดแล้ววางไว้ข้างล่างนั่นแหละ แล้วใครมีจิตศรัทธาที่จะขึ้นไปสักการะพระพุทธรูป ทำบุญ และเยี่ยมชมวัด ก็จะช่วยกันคนละไม้ละมือในการแบกขึ้นไปให้
ทีนี้เราก็จะได้เห็นบรรดาจิตอาสาทั้งหลายแบกลังใส่ปลา กระสอบข้าวสาร และถังแก็สขึ้นวัดให้แม่ครัวข้างบนไปทำอาหารถวายพระในสำนักสงฆ์ ซึ่งแมร์ก็ไปช่วยเขาแบกมาด้วยเหมือนกัน พลังความศรัทธานี่เอาชนะความเหน็ดเหนื่อยและความย่อท้อได้ดีจริงๆ
และนี่ล่ะ ที่ทำให้แมร์ได้เข้าใจถึงการทำบุญ การให้ ที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินทอง ขอแค่มีความตั้งใจก็ทำได้ อย่างในกรณีนี้ ชาวบ้านข้างล่างจ่ายเงินซื้อข้าวของ คนที่มาตัวเปล่า แต่จะไปวัดก็สละแรงนำของเหล่านั้นขึ้นไปให้ บรรดาแม่ครัวก็ใช้ฝีมือนำวัตถุดิบที่ได้มาทำอาหารถวายพระ คนทำได้บุญ คนแบกได้บุญ คนซื้อหาก็ได้บุญ เพราะทุกคนมีจิตคิดช่วยเหลือเหมือนกันนั่นเอง
ถ้าถามว่าหากมีโอกาสจะมาอีกไหม บอกเลยว่ามาแน่นอนค่ะ อำเภอเชียงดาวเป็นอำเภอที่มีความน่ารักอยู่ในตัว มีสถานที่ให้พักกายชิลล์ๆ พักใจให้หายเครียด เหมือนได้ชาร์จพลังชีวิตจนเต็มหลอด พร้อมจะกลับมาตั้งใจทำงานในกรุงเทพฯ
การไปเชียงใหม่คราวนี้ทำให้มีเรื่องมาเล่าเสียหลายปักษ์ ในปักษ์ต่อๆ ไป หากผู้อ่านอยากให้แมร์เล่าเรื่องอะไร หรืออยากรู้เรื่องไหน สามารถส่งความคิดเห็น หรือติชมกันเข้ามาได้ มีให้เลือกหลายช่องทาง ทั้งเฟซบุ๊ค นิตยสารชีวจิต และอิสตาแกรม ACTIVCHEEWAJIT ค่ะ
เรื่องโดย พัชรศรี เบญจมาศ จากคอลัมน์ Brand Ambassador’s Say นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 433
ขอบคุณภาพจาก pixabay