โรคมะเร็งเต้านม … แบบฝึกหัดหัวใจแกร่ง
คุณจุรีรัตน์ หิรัณยการ หรือคุณเนี้ยว(อายุ 47 ปี) ประจักษ์ถึงความจริงข้อนั้นได้เป็นอย่างดีจากการโอบอุ้มเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยเป็นออทิสติก ซ้ำร้ายยังต้องเผชิญกับ โรคมะเร็งเต้านม ระยะสุดท้ายที่แม้จะทรมานแสนสาหัส แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ก็ก้าวผ่านมาได้ ด้วยหัวใจที่แกร่งไม่แพ้ชายใด!
ด้วยเหตุและผลของธรรมชาติแล้ว เราต่างก็ตระหนักว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชาย ทั้งร่างกายที่บอบบาง รักสวยรักงาม และจิตใจที่อ่อนไหวง่าย แต่ขณะเดียวกัน ผู้หญิงก็ถูกยกย่องให้เป็นเพศที่มีความอดทนและแข็งแกร่งที่สุด …เมื่อได้รับบทบาทการเป็น “แม่คน”

แม่…คนธรรมดา ลูกจ๋า…เด็กพิเศษ
จะว่าไปแล้วชีวิตในวัยสาวสะพรั่งของคุณเนี้ยวก็ไม่ผิดแผกไปจากผู้หญิงโลกสวยทั่วไปนัก ที่ฝันว่าครั้งหนึ่งจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ตนเองรัก มีครอบครัวที่แสนอบอุ่น และครองคู่กันไปตราบจนวันตาย
แต่เพราะชีวิตอาจไม่ได้สวยงามเสมอไป ความฝันที่เคยวาดไว้จึงพังทลายไม่เป็นท่า ลูกชายคนแรกของเธอป่วยเป็นออทิสติก ส่วนชีวิตคู่ที่เคยหอมหวาน ก็ถูกปิดฉากลงด้วยการหย่าร้าง!
คลิกเลข 2 เพื่ออ่านหน้าถัดไป
“การมีลูกคนแรกเป็นเด็กออทิสติก คือความไม่สมหวังแรกที่ฉันต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ ฉันอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับการบำบัดดูแลเขา เปลี่ยนแปลงบทบาทความเป็นแม่ทั้งหมดมาเป็นเด็กเล็กๆ เป็นเพื่อนเล่น เป็นครูฝึกพัฒนาการของลูก
“ฉันไม่เคยดูแลตัวเอง มีเวลาแค่เข้าห้องน้ำ แบกรับความเครียดไว้ตลอดเวลา จนจำไม่ได้ว่าเรามีความสุข ได้ยิ้ม ได้หัวเราะเหมือนคนอื่นเขาบ้างหรือเปล่า ส่วนชีวิตคู่ก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบกับสามี ทัศนคติความคิดสวนทางกัน จนนำมาสู่การแยกเตียง แยกบ้าน และจดทะเบียนหย่าในที่สุด”
มะเร็งเต้านม เปิดฉากความหฤโหด
อานุภาพแห่งความทุกข์ความผิดหวังในชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าค่อยๆ กัดกร่อนหัวใจดวงน้อยๆ ของคุณเนี้ยว จนกระทั่งเธอเสพติดความเครียดโดยไม่รู้ตัว หนักเข้าเจ้าความเครียดที่ว่าก็กลายร่างเป็นโรคร้ายที่รอวันฉุดกระชากลมหายใจไปจากเธอ
“จู่ๆ ฉันก็รู้สึกปวดตุ้บๆ ที่หน้าอกข้างซ้าย เวลานั้นไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรร้ายแรง อาจจะเป็นแค่ซีสต์ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาล

“คุณหมอจับบริเวณเต้านมปุ๊บ สีหน้าเปลี่ยนเลยทันที บอกว่าท่าทางไม่ค่อยดีนะ ให้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ และอีก 7 วันมาฟังผล พอถึงกำหนด คุณหมอก็แจ้งว่าฉันเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 เกือบจะ 3 แล้ว เพราะก้อนเนื้อมีขนาดถึง 4.5 เซนติเมตรและเชื้อกำลังแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง
“วินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน แต่ฉันก็รีบตั้งสติแล้วบอกกับตัวเองว่า ฉันจะไม่ร้องไห้ ฉันจะเข้มแข็ง เพราะถ้ามัวแต่อ่อนแอ เราจะต้องตายแน่ๆ ตายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลองสู้เลยสักตั้ง”
คลิกเลข 3 เพื่ออ่านหน้าถัดไป
เมื่อแรงใจมีเต็มพิกัด คุณหมอจึงเริ่มกระบวนการรักษาทางกาย ด้วยการให้เคมีบำบัดเพื่อให้ก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลง ก่อนที่จะผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกมา และใช้เนื้อบริเวณกล้ามเนื้อหลังมาเสริมสร้างเต้านมแทน เพื่อให้เธอยังมีเต้านมครบทั้ง 2 ข้าง และไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของหญิงสาว ที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 38 ปี
ผ่านไปไม่นานนัก คุณหมอจึงเริ่มวางแผนการรักษาสุดหฤโหด นั่นคือให้เคมีบำบัด และฉายแสงอีกถึง 30 แสง!
“ผลของการฉายแสงครั้งนั้น ทำให้หน้าอกของฉันไหม้เกรียมไปทั้งแถบ มันทำให้ฉันรู้ว่าความน่ากลัวของมะเร็งไม่ใช่ความเจ็บปวดทรมานจากโรค แต่เราจะสามารถทนทานต่อขั้นตอนการรักษาต่างๆ ได้หรือเปล่าต่างหากล่ะ” คุณเนี้ยวเล่าด้วยสีหน้าเรียบเฉย นั่นอาจเป็นเพราะโรคร้ายที่ต้องเผชิญได้สอนให้เธอชินชากับความทุกข์ทรมานไปเสียแล้ว
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ มะเร็งเต้านม
10 % ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมาพบหมอด้วยอาการปวดเต้านม ต่างจากผู้ป่วยมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่ที่ไม่มีอาการเจ็บหรือปวด แต่จะคลำพบก้อนแข็งและขรุขระที่เต้านม ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต
บทสรุปแล้วเรื่องราวของคุณเนี้ยวจะเป็นเช่นไร สามารถติดตามต่อได้ที่
http://www.cheewajit.com/42351/healthy-body/teacher-breast-cancer-end/
ขอบคุณสถานที่
ร้านมังคุด คาเฟ่
94/87 ถนนราชพฤกษ์ (ปากซอยราชพฤกษ์ 34) ตลิ่งชัน กรุงเทพ 10170
โทร.0-2432-0968