วิตามิน + แร่ธาตุ ” บำบัดฝี “
ชีวจิตมีวิธี บำบัดฝี มาบอกต่อ เพราะคนไม่เคยเป็น ‘ฝี’ จะไม่รู้ว่าตุ่มหนองเล็กๆ นี้ทรมานขนาดไหน ทั้งเจ็บ ทั้งปวดรวดร้าววววว นอกจากทรมานกายแล้ว ถ้าเป็นบ่อยๆ หรือเรื้อรังก็ทรมานใจไปด้วยฉบับนี้กูรูต้นตำรับชีวจิตแนะวิธีรักษา พร้อมวิตามินและเกลือแร่ช่วยเสริม
เรื่องฝีที่มันไม่หายสักทีนั้น ก็เพราะมันมีเชื้อดื้อด้านที่เข้าไปอยู่ในตัวเรา หรืออยู่ในฝีอยู่ตัวหนึ่ง เชื้อตัวนี้เรียกเป็นภาษาแพทย์ว่า STAPHY LOCOCCUS หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า เชื้อ STAPH ก็ได้
เชื้อ “สตาฟ” ตัวนี้เป็นแบคทีเรียที่ดื้อด้านมากครับ เมื่อมันเข้ามาอยู่ในตัวเราแล้วเวลาฝีมันแตก ถึงแม้หนองจะไหลออกมากและบางทีมีหัวอย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า“หัวฝี” มันออกมาแล้ว ซึ่งเราจะหายปวดเป็นปลิดทิ้ง
แต่เชื้อมันก็ยังไม่หมดครับ เพราะเชื้อซึ่งเป็นหนองนั้นจะหลบเข้าไปอยู่ภายในร่างกาย มันจะหาที่อยู่ อาศัยในร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่ซึ่งเปียกชื้นอย่างในบริเวณทรวงอกเป็นต้น
ถ้าร่างกายเราแข็งแรงมันก็จะอยู่อย่างสงบในตัวเรา ถ้าเราอ่อนแอเมื่อไหร่มันก็ออกมาอาละวาดในรูปฝี หรือในรูปของการอักเสบแบบต่างๆ ได้ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นฝีของที่เป็นๆ หายๆ ไม่มีวันหายขาดสักที น้ำมันเหลืองอีกร้อยขวด
มีเชื้อบางตัวในตระกูล “สตาฟ” นี้สามารถจะเข้าไปทำลายเยื่อหุ้มหัวใจได้ ลองเปรียบเทียบดูซิครับว่า ฝีที่ขาหนีบอย่างนั้นก็ร้ายพอแล้ว แต่ถ้ามันเข้าไปโจมตีถึงหัวใจเราได้ มันจะวุ่นวายและอันตรายร้ายแรงเพียงไหน
ถ้าเป็นฝีบริเวณขาหนีบนั้น คงจะเป็นตรงกับที่ต่อมน้ำเหลืองต่อมหนึ่งต่อมใดก็ได้จะปวดมากทีเดียวแหละครับ ทั้งปวดทั้งร้อนราวกับไฟรุมที่ฝีทีเดียวแหละ
ถ้าไปหาหมอและปรากฏว่าฝีมันอักเสบแดงบวมจนเหมือนจะสุกจวนแตกแล้วละก็แพทย์เขาก็จะเอามีดสะกิดหัวฝีให้มันแตกแล้วก็จะคว้านเอาหัวฝีออก
แต่อีตอนทำแผลนี่สิครับคงจะเจ็บมากเพราะเขาต้อง DRAIN แล้วเอาผ้าก๊อซใส่เพื่อซับหนองและไม่ให้แผลเป็นโพรง
และคุณหมอคงให้กินยาหรือฉีดยาประเภทแอนตี้ไปโอติคหรือยาปฏิชีวนะด้วยหรือถ้าเขาให้กินยาก็คงจะต้องกินเสียอย่างน้อยก็สิบวัน แผลก็คงจะหาย แต่มันไม่หายขาดครับ อีกสักไม่เกินปีมันก็จะเป็นฝีกลัดหนองขึ้นมาอีก
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเชื้อมันดื้อด้านอย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ มีเศษของหนองหรือเชื้ออยู่นิดเดียว มันก็หลบเข้าไปในตัวรอเวลาทำตัวเองให้แข็งแรงแล้วออกมาอาละวาดอีก
ถ้าคนไข้เป็นฝีหลายครั้งแล้ว คุณหมอคงจะต้องให้ยาปฏิชีวนะชนิดแรงขึ้น และถ้าผ่าฝีก็คงจะต้องคว้านเอาหนองและเนื้อเน่าออกให้หมด
ยาก็คงจะต้องแรงและกินนานมากกว่าเดิมคนไข้ต้องไปหาหมอครับอย่าอายหมอเลย
และเมื่อผ่าตัด (เล็ก) แล้ว กินยาครบแล้ว ก็ต้องกินยาบำรุงควบกันไปด้วย
ยาบำรุงในที่นี้ ขอแนะนำวิตามินและแร่ธาตุดังนี้ครับ
- วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด 2 มื้อเช้า เย็น
- วิตามินบีคอมเพล็กซ์ 100 มิลลิกรัม 1 มื้อ
- วิตามินอี 400 IU. ครั้งละ 1 เม็ด 2 มื้อ เช้า เย็น
- แคลเซียมและแมกนีเซียม ชนิดรวมกันเม็ดเดียว 200 มิลลิกรัม 1 มื้อ
- วิตามินเอ 1 เม็ด 10,000 IU. 1 มื้อ
นอกไปจากนั้น เมื่อฝีหายดีและค่อยยังชั่วแล้ว น่าจะบำรุงร่างกายด้วยอาหารสูตรชีวจิตน่าจะดีครับ
ขอให้กินอาหารสูตรชีวจิตตลอดไปเถิดครับรับรองว่าจะแข็งแรง – ปลอดจากการเป็นฝีบ่อยๆ ได้แน่นอน ต่อไปนี้เป็นของแถมแบบความรู้รอบตัวหรือแบบยากลางบ้าน แต่เป็นยากลางบ้านของฝรั่ง นัยว่าใช้แบบตำราเก่าๆ ของปู่ย่า ตา ยายนานมาแล้ว อยู่ในหนังสือของนายแพทย์โรเจอร์ วิลเลียม ในหนังสือคู่มือยารักษาแบบออโทโมเล็คคูว่า ตีพิมพ์ เมื่อปี 1977
ตำราบอกไว้ว่า ถ้าอยู่ไกลหมอไปมาลำบากให้ใช้ยากลางบ้าน ต้มน้ำให้เดือด แล้วนำหัวหอมสับ (หอมหัวใหญ่) สัก 1-2 หัว ใส่ลงไปในน้ำ แล้วทำเป็นยาพอกก่อนจะพอกต้องรอให้หัวหอมใหญ่สับเย็นลงพอร้อนอุ่นๆ ก่อนจะพอกบนฝี ให้ใส่น้ำตาลแดงลงไป หนึ่งช้อนโต๊ะแล้วพอกยงลงบนฝี ปล่อยยาพอกไว้บนฝีตลอดคืน
ทำสักสองครั้งฝีจะแตก หายปวด ได้พิจารณาดูแล้วเห็นว่าไม่มีอันตราย ใครอยู่ไกลหมอจะลองวิธีนี้ก่อนก็ได้
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 315
