7 วิธี หยุดการ มองโลกในแง่ลบ
เพราะมีงานวิจัยที่ศึกษาพบว่า การ มองโลกในแง่ลบ หรือเมื่อคนเราจินตนาการถึงเรื่องร้าย และเป็นคนเจ้าอารมณ์ เกรี้ยวกราดเสมอ หรือซึมเศร้าบ่อยๆ สมองส่วนซีรีบรัมและซี รีเบลลัม รวมถึงสมองซีกซ้าย (ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำและการคิดวิเคราะห์) จะยุบตัวลง
ตรงกันข้าม เมื่อคนเราจินตนาการถึงเรื่องดี ความสุข ความภาคภูมิใจ และเป็นคนอารมณ์ดีใจเย็น รอบคอบ สมองทั้งสามส่วนนั้นก็จะพองตัวขึ้น
คุณหมอเดเนียล จี. เอเมน ผู้เขียนหนังสือ Making a Good Brain Great จึงมีวิธีปรับฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์ในสมอง รวมถึงวิธีคิดของสมอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ซึ่งเราสรรหามาฝากดังนี้
-
อย่าหลงเชื่อความคิดวูบแรก
เมื่อรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสแรกส่งข้อมูลมาถึงสมอง สมองจะเชื่อมโยงสิ่งทั้งหมดเหล่านี้เข้ากับประสบการณ์เดิมที่เคยเกิด เราจึงรู้สึกกับบางสถานการณ์หรือเรื่องราวตรงหน้ามากหรือน้อยเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อความเข้าใจผิดได้ทั้งสิ้น
คุณหมอเอเมนกล่าวว่า ทางที่ดีที่สุด เราควรซักถามหาเหตุผลของสถานการณ์หรือเรื่องราวที่เพิ่งเกิดใหม่หมาด เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลในเชิงเหตุผลที่ถูกต้อง มากกว่าอารมณ์ความรู้สึกในทางลบ
-
เชื่อว่าความคิดของเรามีพลังพิเศษ
เมื่อเราคิดแต่ละครั้ง สมองจะปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมา บางตอนในหนังสือ Making a Good Brain Great บอกว่า ถ้าคิดในทางบวกเป็นเรื่องสุข เป็นความหวัง สมองจะปล่อยสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกดี และระบบการทำงานของสมองก็จะมีประสิทธิภาพ ตรงกันข้าม ถ้าคิดในทางลบเป็นเรื่องผิดหวัง โศกเศร้าเสียใจ สมองจะปล่อยสารเคมีที่ทำให้อารมณ์เราบูดเน่า ย่ำแย่ และระบบการทำงานของสมองก็พานรวน
ฉะนั้น ลองชี้ทิศทางให้สมองขับเคลื่อนไปด้วยพลังงานบวกดีกว่าค่ะ
-
ทันทีที่บังเกิดความคิดลบ ความสุขก็หมดลงโดยพลัน
ผู้คนจำนวนหนึ่งต้องทนทรมานกับความกดดัน กระวนกระวายใจ และวิตกกังวลอย่างหนัก นั่นเป็นเพราะเขาป่วยด้วยอาการ ANTs หรือ Automatic Negative Thoughts คนกลุ่มนี้มักตั้งใจและจดจ่ออยู่กับแง่มุมด้านลบของสถานการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และความคิดแบบนี้มักจะดูดพลังชีวิตไปจากสมอง
ถ้าใครมีอาการแบบนี้ ต้องพยายามพาตัวเองขึ้นมาจากกับดักหลุมดำในจิตใจที่ขุดไว้เอง โดยวิธีง่ายๆ คือ ทันทีที่ความรู้สึกด้านลบบังเกิด รีบจรดดินสอปากกาเขียนสิ่งที่อยู่ในความคิด
คุณจะพบความคิดไร้เหตุผลมากมายกำลังจู่โจมทำร้าย จากนั้นก็ใช้ความคิดบวกเข้ามาแทนที่และเยียวยาจิตใจตนเอง
คุณหมอเอเมนกล่าวว่า “จงทำลาย ANTs เปลี่ยนสมองกันเถอะ”
-
ลองหลอกตัวเองบ้าง
ทันทีที่สมองคิดในเชิงคาดหวัง สถานการณ์หรือเรื่องราวก็อาจเกิดขึ้นจริง โดยหากสมองคิดลบ สถานการณ์หรือเรื่องราวในทางลบก็เป็นจริง ตรงกันข้าม หากสมองคิดบวก สถานการณ์หรือเรื่องราว
ในทางบวกก็เกิดขึ้น
กว่าศตวรรษที่จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรู้เรื่องนี้ จึงนำความคาดหวังในทางบวกมาใช้บำบัดเยียวยาอาการเจ็บป่วยสารพัดโรค และเมื่อ 150 ปีที่ผ่านมา ในการบำบัดผู้ป่วย แพทย์ต้องทำตัวเป็นกันเองกับ
คนไข้?และสร้างความคิดหลอก (placebo effect) ขึ้นมา
ความคิดหลอกนี้คือการสร้างความคาดหวังและความหวังขึ้นมาระหว่างที่แพทย์กำลังบำบัดผู้ป่วย คุณหมอ ที. ฟินด์เลย์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ทั้งพิธีกรรม ความศรัทธา และความกระตือ-
รือร้น ล้วนแล้วแต่สร้างพลังชีวิต”
ในทางการแพทย์พบว่า การสร้างความคาดหวังและความหวังคือเครื่องมือสำคัญในการบำบัดผู้ป่วย มีพลังถึงหนึ่งในสี่หรือสองในสามของการใช้มอร์ฟีนบำบัดอาการปวด และมีผู้ป่วยถึงหนึ่งในสามที่ใช้
ความคิดหลอกแล้วได้ผล นั่นเป็นเพราะความคิดหลอกสามารถเปลี่ยนปฏิกิริยาและสารเคมีในร่างกายจากตัวร้ายกลายเป็นตัวดีได้จริง
เมื่อร่างกายสบายขึ้น ระบบการทำงานของสมองก็เปลี่ยนไปในทางดี
-
สั่งสมองปรับนิสัย เพื่อให้สมหวัง
เราใช้สมองส่วนคอร์เท็กซ์เมื่อต้องวางแผนชีวิต โดยสมองส่วนนี้จะทำหน้าที่ในการหาข้อมูลและวิธีการ เพื่อให้แผนที่วางไว้สำเร็จลุล่วงได้ ฉะนั้นการตั้งเป้าหมายในชีวิตแล้วปรับเปลี่ยนนิสัยเพื่อให้ได้มา จึงเป็นเรื่องที่ทำได้จริง
เมื่อสมองคิดอย่างไร สถานการณ์หรือเรื่องราวนั้นก็เกิดขึ้นได้
-
ลิขิตชีวิตตนเอง
คุณหมอเอเมนแนะนำว่า หากเราเขียนสิ่งที่ตนเองต้องการและสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นลงหน้ากระดาษทุกวัน/สัปดาห์ มหัศจรรย์ในชีวิตจะเกิดขึ้น
โดยเขียนแยกเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับคนใกล้ตัว การงาน การเงิน รวมไปถึงเรื่องความต้องการในส่วนลึก เช่น อารมณ์ความรู้สึก ร่างกาย และจิตใจดังนี้
-
เชื่อมหัศจรรย์ชีวิต
สิ่งที่ฉันต้องการและสิ่งที่ฉันกำลังทำให้เกิดขึ้นความสัมพันธ์คู่รัก ลูก เพื่อน พ่อแม่ งาน การเงิน ตัวเองสมอง ร่างกาย ความสนใจ จิตใจ
เมื่อความคิดสามารถกำหนดคุณภาพสมองได้ จึงควรคิดในสิ่งดี ก่ออารมณ์เบิกบาน สดชื่น แจ่มใส แบบที่อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตแนะนำเนืองๆ
เพื่อระบบการทำงานของสมองที่ดี ส่งผลต่อคุณภาพสมองดีตลอดไป