เคล็ดลับอายุยืน
เคล็ดลับอายุยืน ของชาวเกาะโอกินาวา ในประเทศญี่ปุ่น โดยธรรมชาติแล้วเมืองนี้เป็นเมืองที่มีร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมากกว่าที่ไหนๆ ในญี่ปุ่น แต่ก็มีเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ยืดอายุ จนได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่ได้ชื่อว่าอายุยืนที่สุดในโลก ตามไปดูกันเลยค่า
ย้อนไป 2000 ปีก่อน จิ๋นซีฮ่องเต้สั่งขุนนางออกเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะทั่วแผ่นดินจีน เพื่อให้ได้มีชีวิตเป็นอมตะ หาไม่ พวกเขาจะต้องสิ้นชื่อ
ขุนนางเหล่านั้นรู้ดีว่าไม่มีทางทำตามพระประสงค์ จึงออกอุบายขอกำลังหญิงชายระดับหัวกะทิติดตามไปด้วย 2,000 คน ออกล่องเรือไปทางตะวันออก แล้วไม่กลับมาอีกเลย…เนื่องจากพวกเขาขึ้นฝั่งที่เกาะใหญ่กลางทะเลสีครามอันเวิ้งว้าง กลายเป็นบรรพบุรุษของชาวญี่ปุ่น ชนชาติที่ได้ชื่อว่าอายุยืนที่สุดในโลกปัจจุบัน
และหนึ่งในทำเลสุดวิเศษ ที่มีทั้งสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ที่เอื้อต่อการมีอายุยืน คือเกาะโอกินาวา ที่ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น เกาะ(เพื่อความ)อมตะ
และเราได้สืบเสาะ สรรหาข้อมูลจากคนพื้นที่ ว่าทำไมพวกเขาถึงได้มีอายุยืนจนใครๆ ตั้งฉายาให้เกาะนี้ทั้งว่า ว่า เกาะอมตะ มาดูกันว่าเราเจออะไรที่น่าสนใจบ้างค่ะ
กินอาหารเป็นยาตลอดชีวิต
เราขอเก็บข้อมูลจากคุณยายคะมะดะ นะคะซะโตะ อายุ 102 ปี อยู่ที่แหลมมะโตะบุ ผู้มีชีวิตอันแสนวิเศษในวัยกว่าหนึ่งศตวรรษ
เคยมีคนถามคุณยายคะมะดะ ว่าเคยกินแฮมเบอร์เกอร์หรือดื่มโค้กบ้างไหม เพราะโอกินาวาเป็นเมืองที่มีร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมากกว่าที่ไหนๆ ในญี่ปุ่น ทว่าครั้งแรกที่คุณยายเห็นแฮมเบอร์เกอร์คุณยายถามคนที่กำลังจะกินว่า เธอจะทำอะไรกับมันล่ะนั่นน่ะ ซึ่งนี่พอจะเป็นคำตอบได้แน่นอนว่าคุณยายไม่เคยดื่มโค้กเลยในชีวิต
อาหารในแต่ละวันของคุณยายมักประกอบด้วย ซุปปลา มิโสะซุป ผักต้ม หัวไชเท้า และแครอท อาจมีผัดผักกับน้ำมันเล็กน้อย โดยผัดประเดี๋ยวเดียว และอาจกินเต้าหู้บ้าง พร้อมด้วยชาเขียว ชามะลิ ซึ่งท่านกินทุกมื้อแต่กินพออิ่ม
นอกจากนี้ ผักต่างๆ ก็มาจากสวนผักคุณยายคะมะดะเอง โดยทุกวันคุณยายจะเดินเข้าไปในแปลงผักหลังบ้านเพื่อไปเก็บผักและสมุนไพร เพื่อนำมาทำอาหารทั้งเช้า กลางวัน เย็น นี่เองทำให้คุณยายได้กินอาหารเป็นยามาตลอดชีวิต
อาหารสำคัญที่จะขาดไม่ได้ของคนที่นี่คือถั่วเหลือง ทำให้เมื่อเทียบกับชาวอเมริกันในวัยเดียวกันแล้ว พบว่าคนร้อยปีที่โอกินาวามีระดับฮอร์โมนเพศสูงกว่า นั่นเป็นเพราะถั่วเหลืองมีไฟโตเอสโตรเจน และคนโอกินาวากินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเฉลี่ย 3 ออนซ์ต่อวัน
Greg Poltnikoff ผู้อำนวยการแพทย์ Center for Spirituality and Healing ของ University of Minisota หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สมุนไพรโบราณของญี่ปุ่น เล่าว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะกินอาหารจากถั่วเหลืองแบบที่ผ่านการหมัก เช่น นัตโตะ มากกว่าที่ยังไม่ได้หมัก
มีรายงานทางการแพทย์ระบุว่า คุณค่าทางอาหารในถั่วเหลืองที่หมักแล้ว มีมากกว่าที่ยังไม่ได้หมัก
นอกจากนี้เต้าหู้ของชาวโอกินาวาก็มีความเข้มข้นของโปรตีนและไขมันมากกว่าที่ของที่อื่นๆ ในญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งของจีนซึ่งเป็นเต้าหู้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ชาวโอกินาวาจะขาดมันเทศไม่ได้ ซึ่งเป็นอาหารชั้นเยี่ยมเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย มีใยอาหารสูง แถมปรุงง่าย
Greg Poltnikoff สรุปลักษณะการกินของคุณยายคะมะดะ ว่าเป็นการกินที่ดีต่อระบบร่างกายเรา โดยเฉพาะกับแบคทีเรียที่เป็นมิตร ซึ่งดีต่อกับระบบภูมิชีวิตด้วย
ใช้พลังสมุนไพร
นอกจากอาหารสดๆ จากธรรมชาติที่กินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้ว คุณยายยังรู้จักใช้สมุนไพรมาปรุงอาหารด้วย
“ยายใช้โกศจุฬาลัมพาเพื่อเพิ่มรสชาติให้ข้าว หรือไม่ก็ใช้ขมิ้นเพิ่มรสชาติให้ซุป”
โกศจุฬาลัมพาที่ขึ้นอยู่มากในโอกินาวาเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ Artemisia ซึ่งมีสารธรรมชาติที่ช่วยต้านเชื้อมาลาเรียได้ แก้อาการไข้ ส่วนขมิ้นก็เป็นสมุนไพรที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์พลังสูง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต้านมะเร็ง
ฮะหระ ฮะชิ บุ กินให้แข็งแรงแบบขงจื๊อ
ก่อนกินคุณยายคะมะดะจะพูดว่า “ฮะหระ ฮะชิ บุ”
“ฮะหระ ฮะชิ บุ” เป็นภาษิตขงจื๊อ ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ของที่นี่จะกล่าวก่อนกินอาหาร ซึ่งมีความหมายว่า กินให้อิ่มประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของกระเพาะอาหารเท่านั้น
ชาวโอกินาวาอาจเป็นที่เดียวในโลกที่มีเป้าหมายว่า จะควบคุมแคลอรี่ของอาหารที่กินเข้าไป เพราะพวกเขาเตือนตัวเองด้วยการหยุดกินเมื่อรู้สึกว่าอิ่มแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่ว่ากว่ากระเพาะอาหารจะส่งสัญญาณไปถึงสมองว่าอิ่มแล้ว ใช้เวลาราว 20 นาที การหยุดกินก่อนรู้สึกอิ่มแปล้จึงดีต่อสุขภาพ
ให้ความสำคัญกับพลังใจและจิตวิญญาณ
“เมื่อก่อนยายสวยมากนะ เคยผมยาวถึงเอวแต่ยายก็ใช้เวลานานมาก กว่าจะตระหนักว่า จริงๆ แล้วความงามทีแท้จริงนั้นมาจากข้างใน ซึ่งมาจากความไม่กังวลกับปัญหามากเกินไป”
คุณยายคะมะดะเล่าด้วยความเชื่อมั่นในพลังจากภายใน ที่มหัศจรรย์กว่านั้นคุณยายยังมีตำแหน่งเป็นโนะโระซึ่งเหมือนนักบวชหญิงที่สื่อสารระหว่างชาวโอกินาวากับเทพเจ้า และบรรพบุรุษนอกจากนี้ยังให้คำแนะนำด้านจิตวิญญาณกับชาวเมืองการเป็นโนะโระ สืบทอดกันในครอบครัวนี้มา 400ปี แล้ว
ด้วยเหตุนี้คุณยายจึงเชื่อมั่นว่าสุขภาพของคนทั้งหมู่บ้านขึ้นอยู่กับความตั้งใจในการสวดมนต์ของเธอที่สวดอ้อนวอนต่อดวงดาว ดวงจันทร์ และวิญญาณบรรพบุรุษแม้ตอนนี้จะอายุเกินร้อยปีแล้วการสวดมนต์อ้อนวอนก็ยังเป็นกิจกรรมที่ทำอย่างตั้งใจอย่างยิ่งเป็นประจำทุกวัน คุณยายเชื่อว่า
“บางครั้งเราก็สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการดูแลคนอื่น หลังจากอาหารมื้อเช้า ยายจะสวดมนต์ให้ชาวบ้านสุขภาพดีและขอบคุณเทพเจ้าทั้งหลายที่ปกป้องเรา”
บ่ายคล้อย คุณยายจะไปพบเพื่อนๆ เพื่อพูดคุยสังสรรค์กัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับการทำสมาธิและคลายเครียดเพื่อการมีอายุยืน