26 DIY กินป้องกันริ้วรอย ต้านแก่อย่างง่าย by ชีวจิต
วิธีง่ายๆ กินป้องกันริ้วรอย ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่พบสาวสองคนนี้ เราไม่เคยเห็นความร่วงโรยในตัวเธอ ตรงกันข้ามกลับดูสดใส กระปรี้กระเปร่า ใบหน้าดูเต่งตึงผิวพรรณผุดผาดขึ้นกว่าเดิม
สาวคนแรกคือ คุณกุลธิกา เขมรัตน์ หรือ คุณอ้อ อายุ 43 ปี ในอดีตเธอเคยล้มหมอนนอนเสื่อด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และลุกลามไปยังสมองในเวลาต่อมา ทำให้เธอต้องปฏิวัติการกินใหม่ให้เป็นวิถีชีวจิตร้อยเปอร์เซ็นต์
สาวคนที่สองคือ คุณกาญจนา สมบัติพิบูลพร หรือ คุณป้อ อายุ 41 ปี ผู้เรียนรู้วิถีการกินอยู่แบบธรรมชาติ และปรับใช้กับครอบครัวอย่างจริงจัง จนทุกคนในบ้านหายจากอาการภูมิแพ้เรื้อรังได้เป็นผลสำเร็จ
ด้วยความใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากเป็นพิเศษนี่เอง ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นที่ปรารถนาของหลายคน…สุขภาพดีและสามารถปกป้องตนเองจากริ้วรอยก่อนวัย คงความอ่อนเยาว์ตราบนานเท่านาน
ชีวจิต จึงซอกแซก อยากรู้ว่าพวกเธอมีวิธีการกินอย่างไร
DIY แบบคุณกุลธิกา เขมรัตน์ สาวชีวจิตหน้าใส อ่อนวัยตลอดกาล
1. กินมื้อเล็กๆ วันละ 4 – 5 มื้อ
Dr. Maoshing Ni ผู้เขียนหนังสือ Secrets of Longevity กล่าวว่า การกินอาหารวันละ 3 มื้อนั้นถือเป็นเรื่องปกติตามวัฒนธรรม แต่ความจริงร่างกายต้องการกินมื้อเล็กๆ วันละ 4 – 5 มื้อ เพื่อป้องกันโรคหัวใจ
สอดคล้องกับ อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ซึ่งแนะนำให้ทำเช่นเดียวกัน เพื่อดำรงระดับน้ำตาลในเลือดและพลังงานของร่างกายช่วยให้ระบบย่อยและระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น
“เมื่อไม่เคยกินจนล้นกระเพาะ ประกอบกับเป็นคนเคี้ยวช้าจึงกินอาหารได้น้อย เลยทำให้หิวบ่อย ทุกวันฉันจะกินอาหารเช้าตอนแปดโมง บางวันทำดีท็อกซ์ พอสิบโมงก็หิวอีกแล้ว บางทีตอนทำดีท็อกซ์อยู่ก็หิวแล้ว?ซึ่งจะกินผลไม้หน่อยหนึ่ง
“เที่ยงก็กินอาหารกลางวันปกติ และกินอีกครั้งตอนบ่ายสาม (ก่อนอาหารเย็น) เป็นของกินจำพวกขนมปังโฮลวีตบ้าง ผลไม้บ้างบางครั้งก็เป็นขนม อย่างเช่น ข้าวโพดต้ม มันต้ม ฟักทองต้มหรือขนมหวานอย่างขนมต้ม ถั่วแปบ ถั่วต้มน้ำตาล ก็จะเลือกแบบที่เขาใส่น้ำตาลไม่ฟอกสี โดยไม่ทำกินเอง เพราะต้องต้มครั้งละมากๆ เปลืองแก๊ส ถ้าต้องเก็บไว้หลายวันขนมอาจเสีย จึงเลือกซื้อจากร้านที่เรามั่นใจได้ว่าขนมของเขาเป็นขนมเพื่อสุขภาพจริงๆ”
2. เลือกพืชผักปลอดสาร
อาจารย์สาทิสกล่าวไว้ในหนังสือชีวจิต: การใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ ว่า “มาถึงเรื่องผักนี่ก็พ่นยาฆ่าแมลง ให้ปุ๋ยเคมีไม่รู้ตั้งเท่าไร ถั่วฝักยาวนี่พ่นเช้าเย็นเอามาขายแล้ว…กินเข้าไปเมื่อไร สารพิษเต็มไปหมด” ดังนั้นคุณอ้อจึงเลือกผักที่ปนเปื้อนสารเคมีน้อยที่สุด เธอเล่าว่า
“โดยหลักๆ เราเลือกซื้อผักปลอดสารก่อนอยู่แล้ว แพงหน่อยไม่เป็นไรบางอย่างแพงกว่าผักปกติเกือบเท่าตัว แต่กินแล้วสบายใจกว่า มีความสุขเยอะกว่า” คุณอ้อเล่า
แม้จะเลือกซื้อพืชผักจากร้านที่บอกว่าเป็นผักปลอดสาร แต่คุณอ้อก็ไม่ค่อยไว้ใจนัก “ก่อนปรุงเราจะล้างเหมือนกันทุกครั้งเลย คือ แช่น้ำธรรมดาพักหนึ่งจากนั้นนำลงล้างในน้ำธรรมดา แล้วแช่ด่างทับทิม 10 – 20 นาที จึงนำออกมาล้างน้ำธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง”
3. ดื่มน้ำเอนไซม์
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของทุกระบบในร่างกาย
เอนไซม์ มีหน้าที่ในการกระตุ้นหรือเริ่มต้นให้วงจรหรือระบบต่างๆ ของชีวิตทำงาน เพื่อจุดประสงค์สองประการ ซึ่งอาจารย์สาทิสอธิบายว่า
- เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ชีวิตนั้น หรือถ้าอันตรายเกิดขึ้นแล้ว ก็ป้องกันไม่ให้อันตรายนั้นลุกลามหรือร้ายแรงยิ่งขึ้น
- เอนไซม์จะส่งเสริมหรือบำรุงให้ระบบต่างๆ ของชีวิตทำงานได้ดีหรือง่ายขึ้น
การดื่มน้ำเอนไซม์คั้นสดจากผักผลไม้จึงให้ประโยชน์โดยตรงต่อระบบร่างกายระบบนั้นๆ คุณอ้อเอง จึงไม่ละเลยที่จะดื่มวันละครั้ง
“เราดื่มน้ำเอนไซม์แครอท ฝรั่ง และแอ๊ปเปิ้ล สลับวันกันเท่านั้น เพราะเคยลองน้ำเอนไซม์เซเลอรี่แล้ว แต่ดื่มไม่ไหวจริงๆ ถามว่าดื่มแล้วรู้สึกอย่างไรสดชื่นขึ้นทันตาเห็น เมื่อรวมกับการดูแลสุขภาพทุกๆ ด้านอย่างที่ทำอยู่ สุขภาพโดยรวมดีขึ้น สามีและลูกซึ่งเคยมีอาการภูมิแพ้อยู่บ้างก็หายเป็นปลิดทิ้ง”