เลือกรองเท้า, รองเท้า, วิธีการเลือกรองเท้า, ไซส์รองเท้า, เลือกรองเท้า เพื่อสุขภาพ

กฎเหล็ก เลือกรองเท้า เพื่อสุขภาพเท้าของคุณ

เมื่อได้ขนาดตามที่วัดแล้ว ก็ไปซื้อรองเท้าคู่เก่งกันค่ะ ต่อไปนี้คือ

ตัวช่วยที่จะทำให้คุณได้รองเท้าที่ถูกใจและใส่สบายเท้าเป็นที่สุด

  1. รองเท้าที่จะซื้อควรต้องพอดีเท้า แม้ในเวลาที่เท้าขยายขนาดใหญ่ที่สุดดังนั้นควรเลือกซื้อรองเท้าในช่วงเวลาเย็น เพราะเท้าจะขยายออกในช่วงเวลาดังกล่าว หรือในช่วงเวลาที่เดินหรือวิ่งมากๆ
  2. อย่าลืมพกถุงเท้าคู่โปรด อุปกรณ์ติดรองเท้า ถุงเท้าที่คุณใส่วิ่งหรือเดินเป็นประจำไปด้วย หรือถ้าคุณใส่อุปกรณ์เสริมใด ๆ สำหรับเท้าก็ควรพกตอนไปซื้อรองเท้าด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้ความรู้สึกเหมือนขณะใช้งานจริง
  3. อย่าเชื่อคำว่า “ใส่ไปเถอะ เดี๋ยวก็พอดีเอง” ไรเกนกล่าวว่า รองเท้าทุกประเภทควรให้ความรู้สึกสบายตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ตอนเลือกซื้อรองเท้าจึงควรลองเดินหรือวิ่งด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าใส่แล้วสบายเท้าจริงๆ
  4. ใช้กฎของนิ้วโป้ง คือควรมีช่องว่างประมาณความกว้างของนิ้วหัวแม่มือ (3-8 – 1-2 นิ้ว) ตรงบริเวณหัวแม่โป้งเท้าและส้นรองเท้า การวัดแบบนี้จะทำให้ส้นเท้าพอดีกับรองเท้าและไม่หลุดออกมาเวลาเดิน รู้สึกสบายนิ้วเท้าและเท้ากระชับรับกับรองเท้าได้ดี สถาบันศึกษาศัลยแพทย์กระดูกและข้อแห่งสหรัฐอเมริกายังระบุว่า เมื่อเราสวมใส่รองเท้า เราควรสามารถขยับนิ้วเท้าทุกนิ้วได้อย่างอิสระ
  5. อย่าซื้อเพราะความสวย รองเท้ารุ่นที่มีอุปกรณ์เสริมแปลกๆ ใหม่ๆ อาจมีจุดประสงค์การใช้ที่ไม่เข้ากับรูปเท้าของเราก็ได้ เช่น นวัตกรรมของรองเท้ากีฬาเพื่อให้รู้สึกเหมือนมีสปริง อาจเหมาะกับคนที่ต้องการลดแรงกระแทกบริเวณข้อเท้า แต่ไม่เหมาะกับคนที่ข้อเท้าหมุนง่ายเวลาวิ่ง
  6. อย่าลงทุนกับรองเท้ามากหรือน้อยเกินไป ถึงแม้ว่ารองเท้าคุณภาพดีจะมีราคาค่อนข้างแพงแต่ก็คุ้มค่า แต่ถ้าคุณซื้อรองเท้าคู่ที่มีราคาแพงเพียงเพราะมันฮิตอยู่ หรือเพราะดาราใส่ละก็ รองเท้าคู่นั้น  อาจจะไม่ได้มีประโยชน์ต่อเท้าคุณขนาดนั้นก็ได้ เมื่อเทียบกับราคาที่คุณเสียไป
  7. รู้เวลาที่ควรเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ คลิฟฟอร์ด เจง ศัลยแพทย์เท้าและข้อเท้าประจำศูนย์การแพทย์เมอร์ซี่แห่งรัฐบัลติมอร์ กล่าวว่า โดยเฉลี่ยแล้วรองเท้าวิ่งควรเปลี่ยนเมื่อใช้วิ่งได้ประมาณ 560 – 650 กิโลเมตร ถ้าเป็นรองเท้าที่ใช้ทุกวัน รูปทรงของรองเท้าและความรู้สึกเวลาใส่ก็สามารถบ่งบอกวันหมดอายุของรองเท้าได้เช่นกัน เมื่อเห็นว่าด้านหลังบริเวณฝ่าเท้าของรองเท้าขาด หรือรู้สึกว่าใส่แล้วไม่สบาย หรือไม่รองรับมากเท่าแต่ก่อน ก็ถึงเวลาแล้วที่ควรทิ้งคู่เก่าและไปเลือกซื้อคู่ใหม่อีกครั้ง
  8. รู้จักรูปทรงเท้าของคุณ เพราะรูปเท้าแต่ละคนก็แตกต่างกันไป การรู้ท่าทางการเดินของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกรองเท้าคู่ที่ใช่ และทางหนึ่งที่จะรู้ได้ก็คือ การทำเว็ตเทสต์ (Wet Test) นั่นคือ การเอาเท้าแช่น้ำแล้วเหยียบลงบนกระดาษสีน้ำตาล จากนั้นสังเกตรูปรอยเท้าของคุณว่าเป็นลักษณะใดดังต่อไปนี้

1) ถ้าเห็นรอยเท้ามีช่วงโค้งมนตรงกลางเท้าเพียงเล็กน้อย นั่นคือมีลักษณะของคนเท้าแบน (Flat Arch) เท้าประเภทนี้จะมีการหมุนเข้าของข้อเท้าจากด้านนอกมากเกินไป และอาจทำให้เกิดอาการปวดบริเวณกลางฝ่าเท้าเวลาเดิน ดังนั้น คุณต้องการรองเท้าที่มีวัสดุเสริมด้านในรองเท้ามากเป็นพิเศษ เช่น รองเท้าที่เพิ่มพื้นให้นิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้เส้นเอ็นพยุงอุ้งเท้าหรือเป็นรองเท้าที่หุ้มด้านข้างและหลังเท้า เพื่อพยุงไม่ให้ส้นเท้ามีการบิดหรือทำให้เท้าล้มเข้าด้านใน และเพื่อลดการสึกหรอของบริเวณส้นเท้าด้านนอกและเท้าส่วนหน้า และช่วยให้เท้าหยุดหมุนในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น รองเท้าประเภทโมชั่นคอนโทรล (Motion Control)

2) ถ้ารอยเท้าที่เห็นมีแค่จมูกเท้าและส้นเท้า แทบไม่มีรอยตรงกลางเท้าเลย แสดงว่าคุณมีอุ้งเท้าโก่ง เท้าประเภทนี้จะมีการหมุนเท้าเข้าข้างในน้อยเกินไป ทำให้มักจะปวดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า ถ้าเดินหรือวิ่งเป็นเวลานาน รองเท้าสุขภาพที่เลือกซื้อ ควรมีส่วนที่เสริมอุ้งเท้าส่วนกลางที่ยกนูนช่วงกลางฝ่าเท้า เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักจากฝ่าเท้าหรือส้นเท้ามาที่อุ้งเท้า รองเท้าที่คุณต้องการต้องมีความยืดหยุ่นและต้องรองรับแรงกระแทกได้มากกว่าปกติ เช่น รองเท้าประเภทคุชชั่น (Cushion) ซึ่งมีพื้นตรงกลางที่นิ่มและสามารถลดแรงกระแทกบริเวณส้นเท้าด้านนอกและนิ้วเท้าได้ดี

3) ถ้ารูปทรงเท้าปกติ รอยเท้าจะมีเส้นโค้งได้รูปอย่างเห็นได้ชัด และถือว่าเป็นลักษณะเท้าแบบธรรมชาติที่สุด รองเท้าที่ใช้วิ่งควรเป็นประเภทสเตบิลิตี้ (Stability) ซึ่งมีส่วนประกอบทั้งแบบคุชชั่นและแบบมีวัสดุเสริมด้านในรองเท้าที่ลงตัว

เลือกรองเท้า, การเลือกรองเท้า, รองเท้า, รองเท้าเพื่อสุขภาพ, วิธีการเลือกรองเท้า
ควรเลือกซื้อรองเท้าในช่วงเวลาเย็น เพราะเท้าจะขยายออก

ปัจจุบันนี้คนเราเริ่มมีอาการปวดส้นเท้ากันมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการเลือกรองเท้าไม่เหมาะกับเท้าตัวเองหรือเลือกรองเท้าที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลให้พังผืดบริเวณส้นเท้าอักเสบและมีอาการปวดเท้าหลังตื่นนอน เพราะฉะนั้นการเลือกรองเท้าสุขภาพที่เหมาะกับผู้ที่ปวดส้นเท้าบ่อยๆ ควรมีพื้นนิ่มและมีส้นเล็กน้อยเพื่อให้เกิดการถ่ายน้ำหนักไปยังเท้าส่วนหน้าหน้ากระดาษหมดอีกแล้ว เชื่อว่าคงได้เคล็ดลับดี ๆ ไปเลือกรองเท้าใส่เพื่อสุขภาพดีกันถ้วนหน้านะคะ

 

จาก คอลัมน์ ACTIV STORY นิตยสารชีวจิต ฉบับ 468


บทความน่าสนใจอื่นๆ

เลือกรองเท้าวิ่ง ที่ใช่ แบบนี้สิ

วิธีเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพ กันเถอะ

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.