การเดินที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายนั้น ต้องเป็นการเดินที่ต่อเนื่องกันนานประมาณ 20–30 นาทีขึ้นไป โดยความถี่ของการออกกำลังกายคือ 3–5 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นอย่างน้อย และกระทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น ดูได้จากชีพจร หรือการเต้นของหัวใจต่อนาทีนั้นลดลงกว่าเมื่อก่อนที่ไม่เคยออกกำลังกาย เหนื่อยน้อยลงในการเดินระยะทางที่เท่ากัน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ ที่มักมีปัญหากระดูกบาง
นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก อาจใช้การเดินช่วยลดน้ำหนักตัวได้ โดยเดินวันละประมาณ 1 ชั่วโมง จะทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้น น้ำหนักตัวจึงลดลง ก็จะเป็นผลพลอยได้เพิ่มเติม
เมื่อทราบถึงประโยชน์ของการเดินที่มีมากมายหลายประการแล้ว มากล่าวถึงเทคนิควิธีการเดินที่ถูกต้องกันดีกว่า ขอแนะนำว่า ควรเดินเร็วๆ ก้าวเท้าถี่ๆ แกว่งแขนแรงๆ จะทำให้รู้สึกเหนื่อย เป็นการกระตุ้นร่างกายโดยเฉพาะระบบหัวใจและหลอดเลือด ให้ทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่าภาวะปกติในชีวิตประจำวัน เป็นเสมือนการฝึกให้หัวใจทำงานเพิ่มขึ้นนั่นเอง

Tip เดินแบบสว.
สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรเริ่มเดินโดยใช้ความเร็วปกติ อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที เพื่อช่วยบริหารข้อต่อและฝึกความอดทนของกล้ามเนื้อและหัวใจ แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาเป็น 45-60 นาที
บทความอื่นที่น่าสนใจ
มาเลือก อุปกรณ์ช่วยเดิน เพื่อคุณตาคุณยายกันเถอะ
5 อาการบาดเจ็บ ที่มักเกิดกับนักวิ่ง
ปั่นจักรยาน ลดไขมัน กระชับต้นขา สะโพก และหน้าท้อง