ตั้งท่าให้ดี แก้อาการเมื่อย เรื้อรัง
จะเอี้ยวตัว หรือเบี่ยงตัวไปทางไหน ก็ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ถ้าคุณมีอาการแบบนี้ หนังสือบุคลิกภาพดีไม่มีโรค สํานักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพระบุว่า อาการนี้หมายถึงการที่โครงสร้างร่างกายคดและเบี่ยงไปจากแนวปกติจนจุดศูนย์ถ่วงเสียสมดุล เนื่องจากร่างกายอยู่ในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสมบ่อยๆ จึงส่งผลให้มีอาการเช่นปวดคอ เมื่อยบ่าไหล่ และข้อเลือดไหลเวียนไม่ดี ก่อนจะเสียศูนย์จนปวดเรื้อรัง รู้แบบนี้แล้วมาปรับแก้ท่าทางที่ใช้ประจําวัน เพื่อ แก้อาการเมื่อย กันดีกว่า
ท่าลุกจากที่นอน
ท่านี้เริ่มตั้งแต่ลุกจากที่นอนด้วยการพลิกตัวนอนตะแคง งอเข่าและสะโพกเล็กน้อย ใช้มือทั้งสองข้างยันตัวให้ลุกขึ้นพร้อมกับค่อยๆ ยกขาทั้งสองห้อยลงข้างเตียงจากนั้นยันตัวลุกขึ้นนั่งตรงแล้วยืนขึ้น อย่าลุกพรวดพราดเพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้
ท่าแปรงฟัน
การแปรงฟันที่ดีต่อสุขภาพ และ แก้อาการเมื่อย ได้ ก็ต้องมีท่าด้วยนะทุกคน ด้วยการยืนตัวตรง ตามองตรงไปยังกระจก หรือด้านหน้าของร่างกาย ไม่ควรก้มหน้าแปรงฟันค้างในอ่างล้างหน้านาน เพราะจะทําให้ปวดต้นคอและหลังในระยะยาว
ท่าอาบน้ําและสระผม
การปรับระดับฝักบัวให้พอดี จะช่วยเลี่ยงการก้มหลังหรือเงยคอมากเกินไป โดยเฉพาะขณะสระผม หากใช้ถังน้ำขนาดเตี้ยควรเติมน้ำให้เต็มเสมอ และย่อเข่าตักน้ำจะได้ไม่ต้องก้มหลัง ไม่เช่นนั้น อาการปวดเมื่อยหลังและคอถามหาแน่นอน
ท่ายืนบนรถเมล์
สำหรับคนที่โดยสารรถเมล์ แล้วบังเอิญต้องยืนระยะไกล แนะนำให้คุณเกาะราวเหนือศีรษะ เพราะทําให้ทรงตัวดีขึ้น เนื่องจากมีแรงยึดทั้งที่เท้าและมือ ทั้งนี้ควรยืนใกล้ราวหันปลายศอกเข้าหาตัว และไม่กางแขนออก แต่ถ้าเกาะราวไม่ถึงควรจับราวตรงเก้าอี้นั่ง จะช่วยคลายปวดเมื่อยแล้วยังช่วยปรับบุคลิกภาพให้สง่างามอีกทาง
ท่าหิ้วกระเป๋า
ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชาย เด็ก หรือผู้ใหญ่ ก็ไม่ควรถือกระเป๋าด้วยมือข้างเดียว เพราะจะทำให้น้ำหนักของในกระเป๋าดึงตัวเราให้เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ฉะนั้นถ้ามีของเยอะ แนะนำให้แบ่งของเป็นสองส่วน เพื่อให้น้ำหนักเท่ากันแล้วถือด้วยมือทั้งสองข้าง หากจําเป็นต้องถือมือเดียว ควรให้กางแขนอีกข้างออกเพื่อถ่วงดุลระดับไหล่ให้อยู่ในแนวปกติ แต่อาจดูประหลาดไปเล็กน้อย ดังนั้นแบ่งถุงเป็นสองข้างจะดีกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติม นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 336
