อะไรคือ Flexitarian หรือ มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น
การกินอาหารเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดีแบบที่เรียกว่า การกิน มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น ( Flexitarian ) เป็นหนึ่งในประเภทของการกินมังสวิรัติที่คนไทยหลายคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ใครที่อยากกินมังสวิรัติหรือกินเจ แต่ยังตัดขาดเนื้อสัตว์ไปร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ น่าจะชอบวิธีไดเอตแนวนี้แน่นอน เพราะเป็นการกินเนื้อสัตว์ประเภทปลาได้บ้าง และยังคงได้กินผักผลไม้ตามที่ตั้งใจอีกด้วย มาดูรายละเอียดกันค่ะ
กินเพื่อลดน้ำหนัก
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ มหาวิทยาลัยด้านการวิจัยชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย พบว่า คนที่กินผักส่วนใหญ่ได้รับแคลอรีน้อยกว่า น้ำหนักน้อยกว่า และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่าคนที่กินเนื้อสัตว์ ทั้งนี้เพราะผักและผลไม้บางชนิดมีแคลอรีต่ำและเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มไวขึ้น น้ำหนักจึงมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับการกินรูปแบบอื่นๆ
ทั้งนี้การลดน้ำหนักด้วยวิธีมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องมีการออกกำลังกายในระดับปานกลางอย่างน้อย 30 นาทีต่อสัปดาห์ ถ้าเลือกที่จะออกกำลังกายแบบเข้มข้น ก็ควรจะออกอย่างน้อย 20 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรเพิ่มการยกน้ำหนักหรือเวตเทรนนิ่ง ควบคู่ด้วยอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์
มือใหม่กิน Flexitarian เริ่มยังไงดี
สำหรับใครที่สนใจอยากเปลี่ยนมากินมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นก็เริ่มต้นได้ไม่ยาก เพราะไม่มีกฎตายตัว แค่ยึดหลักง่ายๆ คือ กินเนื้อสัตว์ประเภทปลาให้น้อยเข้าไว้ โดยกินไม่เกิน 3 มื้อต่อสัปดาห์ และสามารถเลือกกินอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารแบบสมดุล ดังนี้
- กินอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวฮาง ข้าวกล้องงอก
- กินอาหารที่ให้เกลือแร่และวิตามิน ได้แก่ ผัก โดยเฉพาะผักใบเขียว ผักที่มีสีเหลือง และผลไม้ต่างๆ
- กินอาหารที่ให้โปรตีน เช่น ถั่วประเภทต่างๆและในบางมื้ออาจมีถั่วเปลือกแข็งด้วยเพื่อเพิ่มโปรตีนและไขมันดี
- เสริมโปรตีนจากสัตว์บางมื้อ โดยเน้นปลา และโยเกิร์ต
นอกจากจุดประสงค์ในการกินมังสวิรัติที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแล้ว แนวคิดในการกินมังสวิรัติก็ปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ กลายเป็นวิถีการดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารแบบองค์รวมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพร่างกาย แถมยังเป็นการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมไปในตัว
น่ารู้
รายงานผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ปี 2018 ชี้ว่า การกินมังสวิรัติเป็นหนึ่งในวิธีลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด เนื่องจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญในการปล่อยก๊าซมีเทน (Methane) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน เพราะทุกวันนี้อุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั่วโลกมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกราว 14% หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซของภาคคมนาคมขนส่ง
ดังนั้น ถ้าเรากินเนื้อสัตว์น้อยลงตั้งแต่วันนี้ ก็จะช่วยลดการขยายทุ่งเลี้ยงสัตว์และการเพิ่มพื้นที่ปลูกพืชที่เป็นอาหารสัตว์เพื่อรองรับประชากรโลกด้วย
(ข้อมูลจาก : คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 509)
ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจ
พริกแดง อาหารมาแรง ต้านมะเร็ง ต้านโรคหัวใจ ลดไขมันในเลือด ปี 2021
5 สูตรสุดง่าย สมุนไพร ช่วยลดน้ำหนัก
อดอาหาร งดแป้ง นับแคล สิ่งเหล่านี้ช่วยผอมได้จริงหรือ