พริกแดง อาหารมาแรง ต้านมะเร็ง ต้านโรคหัวใจ ลดไขมันในเลือด ปี 2021

พริกแดง ต้านมะเร็ง ต้านโรคหัวใจ ลดไขมันในเลือด

จับตาดู ปีหน้า (2021) มาแน่!!! พริกแดง 🌶 จะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบคู่ครัวที่ตอบโจทย์สุขภาพเรามากที่สุด สรรพคุณมาเต็ม ทั้งช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านมะเร็งได้ด้วย สรุปคือครบเลย ต้านมะเร็ง ต้านโรคหัวใจ ลดไขมันในเลือด งานนี้ใครไม่ทานเผ็ดคงอยากจะลองทานดูบ้างแล้วค่ะ

🌶ต้านโรคหัวใจและมะเร็ง

– จากงานวิจัยของthe Cleveland Clinic’s Heart, Vascular & Thoracic Institute ในเคลฟแลนด์ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า พริกแดงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคมะเร็งได้ด้วย เนื่องจากพริงแดง มีสารต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย ซึ่งเจ้าสารสำคัญที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประกันนั่นก็คือ แคปไซซิน สารที่ทำให้พริกแดงมีรสเผ็ดร้อนนั่นเอง

🌶เสริมภูมิคุ้มกันเต็มพิกัด

-พริกแดงอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยเรื่องสุขภาพดวงตาอีกด้วย และอย่างที่ “ผู้อ่านชีวจิต” รู้ๆ กัน พริกแดงนั้นมีปริมาณวิตามินซีสูงมาก ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี แค่ 2 สารอาหารนี้ก็แทบจะทำให้พริกแดงโดดเด้งออกมาจากที่เป็นแค่เครื่องปรุงในครัวแล้วค่ะ

🌶ต้านอนุมูลอิสระดีเยี่ยม

-วิตามินเอที่พบมากในพริกแดง เป็นหนึ่งในแอนติออกซิแดนท์ที่ทรงพลัง อย่างสารฟลาโวนอยด์ที่รู้จักกันในชื่อ เบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนธิน และคริปโตแซนธิน ที่รวมตัวกันอยู่ในพริกแดง จะช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ (Free Radical) ช่วยปรับสมดุล ลดความเครียดและต้านอาการป่วย ปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย

🌶ลดไขมันเลวได้ดี

-ไขมันเลว (LDL) เป็นหนึ่งในไขมันที่ไม่มีใครอยากให้ร่างกายมีมากเกินไป และพริกแดงช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดทั้ง LDL และไตรกลีเซอไรด์ได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ทำให้สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้ รวมไปถึงโรคหลอดเลือดในสมองด้วย มีการศึกษาในกลุ่มประชากร ตีพิมพ์ลงใน PLoS One ปี 2017 ว่าพริกแดง ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 13 เปอร์เซ็นต์

🌶กระตุ้นระบบเผาผลาญ

– หัวข้อนี้ถูกใจคนลดน้ำหนักอย่างแน่นอน เพราะพริกแดงมีสารแคปไซซินที่ทำให้รู้สึกเผ็ดร้อน สารนี้ไปกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น มากขึ้น ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น กำจัดไขมันในร่างกายได้เพิ่มขึ้นด้วย