วิธี กินขิง ให้ปลอดภัย ได้ประโยชน์เยอะ ที่แพทย์จีนแนะนำ

กินขิง อย่างไรให้ปลอดภัย

ขิง หนึ่งในพืชสมุนไพรคู่บ้านที่มักไปอยู่ในเมนูอาหารต่าง ๆ ได้ทั้งคาวหวาน ขิงนั้นมีสรรพคุณทางยามากมาย แต่การกินขิงก็มีข้อควรรู้ควรระวังเล็กน้อย มาดูกันว่า ตามหลักศาสตร์จีน จะแนะนำไว้ว่าอย่างไร

สรรพคุณของขิงและการกินขิง

ขิง มีฤทธิ์เผ็ด อุ่น สรรพคุณที่โดดเด่น ได้แก่ ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน เมารถ เมาเหล้า เวียนหัว ปวดหัวไมเกรน ช่วยขับลม อุ่นกระเพาะอาหาร บำรุงม้าม เป็นต้น
การใช้ประโยชน์จากขิงอาจทำได้โดยนำไปเป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น ปลานึ่งขิงชีอิ๊ว ปลาผัดขิง เป็นต้น โดยผ่านเป็นแผ่นบาง ๆ หรือหั่นเป็นฝอย โดยไม่ต้องปอกเปลือกออก มิเช่นนั้นจะออกฤทธิ์ได้ไม่ดี

ส่วนน้ำขิงควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำขิงสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากเกินไป ทางที่ดีที่สุดควรดื่มน้ำขิงต้มสด และไม่ควรดื่มในวันที่มีสภาพอากาศร้อนแห้ง เพราะอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะร้อนเกินจนมีอาการคอแห้ง เจ็บคอ ท้องผูกตามมา

เหมาะกับใคร

ปกติแล้วผู้ที่ควรกินขิง ได้แก่ ผู้ที่เป็นหวัดจากการโดนลมเย็นกระทบ กระเพาะอาหารเย็น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการถูกความเย็นภายนอกกระทบ เป็นต้น ซึ่ง
การแยกแยะภาวะโรคดังกล่าวควรได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์จีนผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากถ้าวินิจฉัยผิด ในผู้ป่วยที่เป็นหวัดจากการโดดแดดเผาหรือลมร้อน การดื่มน้ำขิง อาจทำให้มีอาการมากขึ้น

ข้อระวัง

ผู้ป่วยโรคตับไม่ควรกินขิงในปริมาณที่มากเกินไป เพราะสารจินเจอรอล (Gingerol) ที่ทำให้ชิงมีรสเผ็ดร้อน จะออกฤทธิ์ทำให้เซลล์ตับเกิดการเปลี่ยนแปลง หรืออาจเป็นสาเหตุทำให้ตับอักเสบ และในผู้ป่วยที่มีภาวะโรคหยินพร่อง เกิดไฟ ร้อนใน ตาแดง ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ถุงน้ำดีอักเสบ ไตอักเสบ เบาหวาน ริดสีดวงทวาร จึงไม่ควรกินขิงสดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

เราสามารถสังเกตผู้ที่มีภาวะหยินพร่องได้จาก มีอาการฝ่ามือฝ้าเท้าร้อน เหงื่อออกที่ฝ่ามือตลอดเวลา หิวน้ำบ่อย ตาแห้ง จมูกแห้ง ผิวหนังแห้ง กระวนกระวายใจ
ขี้หงุดหงิด นอนไม่ค่อยหลับ เป็นต้น

ที่มา
อาจารย์แพทย์จีนนภษร แสงศิวะฤทธิ์ คณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติและนักเขียนประจำคอลัมน์ หมอจีนประจำบ้าน นิตยสารชีวจิต