ตัวการทำลายสมอง ความจำเสื่อม ก่อนวัย
ความจำเสื่อม เป็นอาการที่เกิดจากความเสื่อม โดยปกติเกิดขึ้นไปตามอายุที่มากขึ้น เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ก็เริ่มเสื่อมไปตามสภาพ แต่มีสาเหตุหลายประการ ที่อาจทำให้สมองของเราเสื่อมเร็วก่อนวัย ทำเอาหลงๆ ลืมๆ กันตั้งแต่อายุไม่มากได้ ลองมาเช็กสาเหตุกันดีกว่า ว่าคุณกำลังทำร้ายสมองโดยไม่รู้ตัวหรือไม่
แผนการลดน้ำหนักผิดๆ
การศึกษามากมายในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า เมื่อให้ผู้หญิงที่ลดน้ำหนักด้วยการจำกัดการกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ไปทดสอบเรื่องความจำ พบว่าได้คะแนนต่ำอย่างเห็นได้ชัด
จากการศึกษานี้ หัวหน้าทีมวิจัย ศาสตราจารย์ฮอลลี เทย์เลอร์กล่าวว่า “การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า อาหารที่เรากินสามารถส่งผลต่อความจำทันที” ทฤษฎีการงดกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่เป็นหนึ่ง ในเทรนด์ลดน้ำหนักทำให้สมองได้รับกลูโคสไม่เพียงพอ ซึ่งกลูโคสนี้เป็นแหล่งพลังงานของสมอง จึงทำให้สมองอ่อนล้า ไม่มีพลังที่จะจำเรื่องราวต่างๆ ดังนั้นควรกินอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน โดยคำนึงถึง สัดส่วนที่พอเหมาะ เช่น อาหารชีวจิตสูตร 2 ที่ช่วยทั้งหุ่นดี และสมองใสปิ๊ง
กรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไป
หนึ่งในวิตามินที่สำคัญต่อความจำก็คือวิตามินบี12 ซึ่งส่วนใหญ่พบในเนื้อสัตว์ แต่ปัญหาก็คือ ถ้ากระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่ำ ร่างกายจะดูดซึมวิตามินชนิดนี้ได้น้อย จึงส่งผลต่อการทำงานของสมองเกี่ยวกับความจำ
นอกจากนี้ เมื่อเราอายุมากขึ้น กระเพาะอาหารจะหลั่งกรด น้อยลงโดยอัตโนมัติ โอเวน แอนเดอร์สัน นักโภชนาการแนวธรรมชาติบำบัด ยังได้อธิบายถึงสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ความเป็นกรดในกระเพาะ อาหารต่ำ เช่น เกิดความเครียด ส่วนสัญญาณที่จะแสดงว่ากระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่ำ คือจะมีอาการกรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก และอาหารไม่ย่อย โอเวนแนะนำว่า ถ้ามีอาการดังกล่าวมานี้ ให้เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยอาหารรสขม เช่น ผักสลัดร็อกเกต มะระ อาหารเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารให้อยู่ในภาวะสมดุล ซึ่งเป็นผลดีต่อการดูดซึมวิตามินบี12 จึงช่วยให้สุขภาพสมอง และความจำดีในที่สุด
ภาวะก่อนวัยทอง
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักบ่นว่าตัวเองปํ้าๆเป๋อๆเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง แต่แท้จริงแล้ว ช่วงก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause) เป็นช่วงที่ความจำแย่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการนึกถึงเรื่องราว ต่างๆในอดีตหรือการจำเรื่องใหม่ ๆ ดร.เกล กรีนเดล จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส หรือยูซีแอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า
“การที่ฮอร์โมนเอสโทรเจนตกลงอย่างฮวบฮาบ ในช่วงก่อนหมดประจำเดือนเป็นชนวนปัญหาเรื่อง ความหลงลืม เพราะฮอร์โมนเอสโทรเจนมีผลดีต่อส่วนต่างๆของสมองที่ทำหน้าที่ในเรื่องความจำ คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ อย่าตื่นตระหนก เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน”