อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ปราศจากคาร์โบไฮเดรต ในจำนวน 6 เม็ด มีไขมัน 5 กรัม ให้พลังงาน 45 กิโลแคลอรี อัลมอนด์และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไม่เพียงมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ยังมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัว ตำแหน่งเดียวสูง (Monounsaturated Fatty Acid) มีคุณสมบัติช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ขณะลดน้ำหนักมวลกล้ามเนื้อมีความสำคัญเพราะเป็นแหล่งเผาผลาญพลังงานชั้นดี หากน้ำหนักลดลงโดยมวล กล้ามเนื้อลดลงตาม จะทำให้ระบบเผาผลาญลดลงน้ำหนักจึงลดลงช้า
นอกจากออกกำลังกายเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ Journal of Nutrition แนะนำว่า ควรกินอาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูงต่อเนื่องนาน 12 สัปดาห์ เพื่อช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น และช่วยให้ไขมันสะสมในร่างกายลดลงอีกด้วย
เพื่อประโยชน์ในการลดน้ำหนัก ควรกินถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ไม่เกินวันละ 30 กรัม โดยกินอัลมอนด์ 23 เม็ดอัลมอนด์สไลซ์ครึ่งถ้วยตวง หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 16 เม็ด เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
น้ำเปล่า น้ำขิง
หากใครกำลังลดน้ำหนัก น้ำเปล่าคือเครื่องดื่มคู่ใจอันดับแรกที่ควรนึกถึง สามารถดื่มได้วันละ 6 – 8 แก้ว ดื่มระหว่างวันเมื่อรู้สึกหิว ดื่มได้บ่อยโดยไม่ต้องกังวลถึงปริมาณคาร์โบไฮเดรตและพลังงาน
น้ำเปล่าไม่มีคาร์โบไฮเดรตและมีพลังงานเป็นศูนย์ต่างจากน้ำหวานและน้ำผลไม้ที่ 1 แก้วให้ทั้งน้ำตาลและพลังงานสูง ดื่มเพียง 1 แก้วอาจให้พลังงานเทียบเท่าข้าว 2 – 3 ทัพพี
มีรายงานว่า น้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง โดยช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกาย กระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้การดื่มน้ำเปล่ามากขึ้นยังช่วยลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลซึ่งให้พลังงานสูง จึงควบคุมน้ำหนักง่ายขึ้น
แต่หากใครเบื่อน้ำเปล่า แนะนำให้ดื่มน้ำสมุนไพรโดยเฉพาะน้ำขิง เพราะไม่มีคาร์โบไฮเดรต ปราศจากน้ำตาล และไม่ให้พลังงานเช่นเดียวกับน้ำเปล่า แถมด้วยสรรพคุณเพิ่มระบบเผาผลาญ ช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย
มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า การดื่มน้ำขิง 1 แก้ว (ขิงผง 2 กรัม กับน้ำสะอาด 1 แก้ว) หลังอาหารเช้า เป็นประจำทุกวัน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญโดยพบว่า พลังงานความร้อนขณะย่อยและดูดซึมอาหาร (Thermic Effect of Food) เพิ่มขึ้น 22.3 – 64.1 กิโล-แคลอรี เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มน้ำขิง
ทีมวิจัยอธิบายว่า พลังงานความร้อนที่เพิ่มขึ้นเกิดจากอาหารบางส่วนกินแล้วไม่สะสมเป็นไขมัน แต่สลายตัวกลายเป็นความร้อน
ปรับอาหารสักนิด ลดคาร์โบไฮเดรตสักหน่อย ทั้งไม่ลืมออกกำลังกายต่อเนื่อง 30 นาทีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ไม่ว่าไซส์ใหญ่แค่ไหนก็หุ่นดี สุขภาพเยี่ยมได้แน่นอน
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิตฉบับ 390 (1 มกราคม 2558)
บทความน่าสนใจอื่นๆ
3 เครื่องเทศลดอ้วน ป้องกันโรคเยี่ยม
Bananas Diet กินกล้วย ตัวช่วยคนลด ความอ้วน
สูตรเด็ดลดอ้วน 5 กิโล ใน 1 สัปดาห์