น้ำแครนเบอรี่ ลดหินปูนและป้องกันฟันผุ
ดร. หัวอัน (มิเชล) คู [Hyun (Michel) Koo] ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาช่องปาก (Oral
Biologist) มหาวิทยาลัยศูนย์การแพทย์รอเชสเตอร์ (University of Rochester Medical Center) ค้นพบว่า น้ำแครนเบอร์รี่ไม่เพียงช่วยป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ แต่ยังช่วยปกป้องฟันจาก
แบคทีเรีย และสกัดกั้นเอนไซม์ของแบคทีเรียที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างคราบหินปูน
แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม และสารสำคัญต่าง ๆ โดยนักวิจัย เชื่อว่าสารเหล่านี้มีคุณสมบัติยับยั้งไม่ให้แบคทีเรียก่อฟันผุเกาะติดบนผิวฟัน จึงช่วยลดคราบหินปูน ลดโอกาสการผลิตกรดจากแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ ปัจจุบันมีการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดสารสำคัญจากน้ำแครนเบอร์รี่มาบรรจุไว้ในยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก
น้ำแครนเบอร์รี่มีรสเปรี้ยว ผู้ผลิตส่วนใหญ่จึงนิยมเติมน้ำตาลปริมาณมากเพื่อปรับรสให้ถูกปากถูกใจ ก่อนซื้อจึงควรเลือกฉลากที่ระบุว่าไม่เติมน้ำตาลหรือมีน้ำตาลต่ำ
ทั้งนี้น้ำแครนเบอร์รี่มีความเป็นกรดเช่นเดียวกับน้ำผลไม้หลายชนิด แต่ไม่มีผลให้เกิดฟันผุเช่นเดียวกับน้ำตาล แต่หากดื่มไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ฟันสึกได้
เพราะหลังดื่มน้ำผลไม้ ผิวฟันจะอ่อนลงชั่วคราว จึงอยากแนะนำผู้ที่เลือกวิธีนี้เพื่อลดคราบหินปูนว่า ควรกลั้วปากด้วยน้ำสะอาดหลังดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ และทิ้งระยะเวลาสักครู่ก่อนแปรงฟัน ไม่แปรงฟันทันทีหลังดื่ม
เกรปฟรุต ยับยั้งเลือดออกตามไรฟัน
หากมีเลือดออกบ่อยครั้งขณะบ้วนปากหรือแปรงฟันอย่านิ่งนอนใจเพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคเลือดออกตามไรฟัน นำไปสู่ปัญหาโรคเหงือกในระยะยาว
British Dental Journal ระบุว่า ผู้ที่มีปัญหาส่วนใหญ่มีวิตามินซีในร่างกายต่ำผิดปกติ แต่หากได้รับการเสริมวิตามินซีอย่างทันท่วงทีอาการจะทุเลาลงอย่างชัดเจน เช่น ในการศึกษาหนึ่ง นักวิจัยทดลองโดยขอให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาเลือดออกตามไรฟันงดการรักษาในทุกกรณีแล้วหันมากินเกรปฟรุตวันละ 2 ผลแทน หลัง 2 สัปดาห์พบว่า ผู้ป่วยมีระดับวิตามินซีในเลือดเพิ่มขึ้นอาการเลือดออกตามไรฟันลดลงตาม เพราะเกรปฟรุตมีวิตามินซีสูงสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของผิว เส้นผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ ตลอดจนผนังหลอดเลือด จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อภายในร่างกาย รวมถึงทำให้เหงือกแข็งแรง
วิตามินซีไม่มีผลเพิ่มความเป็นกรดในช่องปาก และไม่ก่อให้เกิดฟันผุดังที่หลายคนเข้าใจ
แต่หากขาดวิตามินซี สัญญาณที่เห็นชัดคือ เหงือกอ่อนแอ บวมอักเสบ เส้นเลือดเปราะแตกง่ายเลือดออกตามไรฟัน ฟันโยกและหลุดไปในที่สุด
ไม่เฉพาะผลไม้จากแดนไกลผลไม้ไทย ๆ หลายชนิดก็มีวิตามินซีสูงไม่แพ้กัน ทั้งส้ม เชอร์รี่ ฝรั่ง มะกอกไทย มะขามป้อม กล้วย มะละกอสุก สับปะรด ควรกินผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุชนิดอื่นร่วมด้วย
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนร่วมด้วย รับรองฟันสวย เหงือกแข็งแรงนานเท่านานค่ะ
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารฉบับ 405
บทความน่าสนใจอื่นๆ
4 อาหารบำรุงฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง
สาเหตุและวิธีป้องกัน อาการเสียวฟัน อย่างง่าย
รู้ทัน ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทำเหงือกและฟันป่วย
