ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคฮีทสโตรกมีหลายกลุ่ม
- กลุ่มเด็กและผู้สูงอายุที่ระบบระบายความร้อนในร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีนัก
- กลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูงที่ต้องรับประทานยาขับปัสสาวะ ซึ่งมีผลต่อการขับโซเดียมออกจากร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติกับระดับเกลือแร่ได้ง่าย
- กลุ่มนักกีฬาที่ออกกำลังกายหักโหม และทหารเกณฑ์ฝึกใหม่ที่ต้องฝึกกลางแดด
- กลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่นั่งทำงานอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน แล้วต้องออกมาปะทะอากาศร้อนกะทันหันทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันแต่อย่างไรก็ตาม
โรคฮีทสโตรก สามารถป้องกันได้ เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือในที่ที่อากาศถ่ายเทเป็นประจำ
- ดื่มน้ำมากๆ ไม่น้อยกว่า 6 – 8 แก้วในแต่ละวัน
- สวมใส่เสื้อสีอ่อน ไม่หนา เนื้อผ้าบางเบา ระบายความร้อนได้ดี
- ควรดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ โดยจัดให้อยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทและไม่ปล่อยให้อยู่ในรถที่ปิดตามลำพัง
การช่วยเหลือผู้มีอาการโรคฮีทสโตรกเบื้องต้น
- นำผู้ป่วยเข้าร่ม แล้วให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามข้อพับ คอ รักแร้เชิงกราน และศีรษะ พร้อมกับเปิดพัดลมเป่าระบายความร้อนออกจากร่างกายผู้ป่วย
- ห้ามเทน้ำเย็นราดบนตัวผู้ป่วย เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อสั่นเทา ส่งผลให้ความร้อนในร่างกายไม่ลดลง
เพียงใส่ใจดูแลตัวเองและคนรอบข้างเช่นนี้ เรื่องร้อนก็กลายเป็นเรื่องเล็กแล้วค่ะ
จาก คอลัมน์เก็บข่าวมาเล่า นิตยสารชีวจิต ฉบับ 277
Pages: 1 2