กิน เห็ด เป็นอาหารและยา ได้ประโยชน์ปัง
มนุษย์กิน เห็ด เป็นอาหารและยามายาวนานกว่าสองพันปี กระทั่งปัจจุบันมนุษย์ก็ยังนิยมกินเห็ด แถมยังพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะพันธุ์และการแปรรูปเห็ดรูปแบบต่างๆ ออกมามากมาย เห็ดเป็นอาหารและยายอดฮิตตลอดกาลเพราะอะไร ชีวจิตมีคำตอบมาฝากค่ะ
เห็ด…อาหารและยา เพื่อคนรักสุขภาพ
นายแพทย์ดํารงค์ เลาหะพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเนเจอร์ไบโอเทค จํากัด จำแนกคุณสมบัติของเห็ดให้ฟังว่า
“เราสามารถแบ่งเห็ดเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ เห็ดที่นิยมนำมาทำอาหารซึ่งส่วนใหญ่เรารู้จักกันดี และสองคือ เห็ดที่มีฤทธิ์ทางยา (Medicine Mushroom) ซึ่งมีไม่กี่ชนิด”
เห็ดเป็นอาหาร
โดยเห็ดที่นำมาทำอาหารนั้นมีหลายชนิด เช่น เห็ดเออรินจิเห็ดหอม เห็ดโคน เห็ดเข็มทอง เห็ดนางฟ้า ฯลฯ หนังสือมหัศจรรย์อาหารต้านโรค บริษัทรีดเดอร์ไดเจสท์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงสารอาหารเด่นๆ ในเห็ดที่นิยมนำมาปรุงอาหารว่า
พบว่ามีสารไรโบฟลาวิน ไนอะซิน และวิตามินบี 6 ในปริมาณสูง ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยควบคุมภาวะซึมเศร้า ไมเกรนและโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังมีสารเออร์โกสเตอรอลที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูก
เห็ดเป็นยา
ส่วนเห็ดที่มีคุณสมบัติทางยานั้น คุณหมอดำรงค์อธิบายว่า
“เห็ดที่มีคุณสมบัติทางยาคือ เห็ดหลินจือ ซึ่งในประวัติศาสตร์จีน มีการนำเห็ดหลินจือมาใช้ปรุงเป็นยาอายุวัฒนะ แต่ในปัจจุบันเราสามารถวิเคราะห์สารสำคัญต่อสุขภาพในเห็ดหลินจือที่พบว่ามีหลายชนิดมาก ชนิดเด่นๆ คือพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งสารสำคัญในกลุ่มนี้ คือ เบต้าดีกลูแคน (Beta D Glucan)
“โดยเบต้าดีกลูแคนมีสรรพคุณค่อนข้างกว้าง แต่ที่ออกฤทธิ์เพื่อช่วยระบบและอาการผิดปกติเด่น ๆ มี 5 ระบบคือ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล”
นอกจากนี้คุณหมอดำรงค์ยังอธิบายเสริมว่า นอกจากสารพอลิแซ็กคาไรด์แล้ว ในเห็ดยังพบสารไตรเทอร์ปีนอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งมีรสขม มีสรรพคุณช่วยลดอาการภูมิแพ้ลดความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด