ชีวิตดี สุขภาพเลิศ เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เนื่องจากนิตยสาร ชีวจิต ได้เคยจัดทำบทความเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไว้หลายบทความ ในหลายคอลัมน์ จึงขอรวบรวมบทสัมภาษณ์ผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการที่น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตจริง ดังนี้
คุณวิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ ประธานกรรมการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
“…พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร) มีพระราชดำรัสว่า ‘ทำงานกับเรา เราไม่มีอะไรให้นอกจากความสุขที่ได้ทำงานเสียสละด้วยกัน’ พระองค์ท่านทรงกำลังสอนเรื่องทานหรือการให้คือ ยิ่งให้ ยิ่งทำ ยิ่งเหน็ดเหนื่อย เรายิ่งได้ความสุข
“…จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราเคารพพระองค์แต่ไม่เคยนำคำสอนของพระองค์มาปฏิบัติส่วนผม เมื่อนำมาปฏิบัติแล้วก็เห็นผล ชีวิตผมก็เหลือล้น ไม่เคยอดอยาก เพราะมีมิตรคอยเอื้อเฟื้อ และเมื่อเกิดน้ำท่วมก็พึ่งตนเองได้แถมยังเลี้ยงคน 500 คนได้หลายเดือน…”
คุณวริสร รักษ์พันธุ์ ผู้บริหารชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต
“พระเจ้าอยู่หัวทรงสอนว่า ให้เริ่มต้นจากความง่าย คิดใหญ่ แต่ทำให้เล็ก โดยสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องทำคือ การพึ่งตัวเอง ยืนด้วยขาตนเองอย่างมั่นคง สิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องแรกคือ อาหาร ผมมองว่าข้าวเป็นสิ่งสำคัญ คนเราต้องกินข้าว 3 มื้อ ถ้าพนักงานทุกคนได้กินข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัย ก็น่าจะทำให้สุขภาพแข็งแรง ผมจึงปลูกข้าวปลอดสารพิษไว้ให้บริการทั้งพนักงานและแขกที่มาพักในโรงแรม
“ผลที่เกิดขึ้นคือ พนักงานสุขภาพแข็งแรง และเขาเริ่มเข้าใจหลักการพึ่งพาตนเองสิ่งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์สูงสุดที่อยากให้เกิดขึ้นกับคนทั่วไป”
นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ทางเลือก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“ความพอเพียงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะโลกปัจจุบันผลิตอาหารออกมามากมาย ปัญหาเรื่องขาดอาหารน้อยลง แต่กลับเป็นเรื่องบริโภคเกิน ทำให้มีกลุ่มอาการอ้วนลงพุงมากขึ้นนอกจากนี้มนุษย์ยังเป็นสัตว์โลกที่ขี้เหงาที่สุด จึงพยายามหาทางแก้เหงา ซึ่งมีสองวิธีใหญ่ ๆ คือ หนึ่ง พึ่งอบายมุข กินของแปลก ๆ ซึ่งบั่นทอนสุขภาพ สอง พึ่งตนเอง เช่น การทำงาน ซึ่งได้ทั้งผลงานและความภาคภูมิใจ
“รวมถึงการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างเหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีหรือถ้าจะให้สรุปโดยย่อคือ เราควรจัดการชีวิตอย่างพอเพียง คือ กินอยู่อย่างพอเพียงพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายให้พอเพียง อย่าเสพสิ่งที่เป็นพิษภัยต่อกายและใจ”