มาม่าไข่ข้นโคตรปู

บะหมี่ไข่ข้นโคตรปู เมนูเลิศหรู จนอยากลิ้มลอง!!

บะหมี่ไข่ข้นโคตรปู เนื้อปูเน้นๆ ผัดเนยกระเทียมหอมจนกระแทกจมูก โรยหน้าบนไข้ข้น แล้วราดบนหน้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่คลุกเคล้าเครื่องปรุงรสชาติโปรดคุณ ง่ายแบบนี้มาดูกันเลย

บะหมี่ไข่ข้นโคตรปู

ส่วนผสม

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป2ซอง
เนื้อปูส่วนกรรเชียง200กรัม
เนยสดจืดหรือเค็ม1ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
พริกไทยป่นเล็กน้อย
ต้นหอมซอย1ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ2ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่3ฟอง

วิธีทำ

1. ต้มเส้นบะหมี่กึ่ง ในน้ำเดือดจัด เมื่อสุกได้ที่ตักขึ้น สะเด็ดน้ำ โรยผงปรุงรสและน้ำมันเจียว คลุกเคล้าให้เข้ากันเตรียมไว้

2. ตั้งกระทะ ใส่เนยสดลงไป ตามด้วยกระเทียม ผัดจนเริ่มหอม ใส่เนื้อปูลงไปผัด ให้หอมและเนยซึมเข้าไปในเนื้อ ตักขึ้นพักไว้ (วิธีช่วยดับกลิ่นไม่ดีของเนื้อปูนึ่งได้)

3. เตรียมชามผสม ตอกไข่ลงไป 3 ฟอง ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ตีผสมให้เข้ากัน

4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย เทไข่ลงไป ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ใช้ตะหลิวหมั่นคนเรื่อยๆจนไข่เริ่มข้น ใส่เนื้อปูที่ผัดไว้ลงไป เมื่อไข่ข้นได้ที่ นำไปราดบนบะหมี่กึ่งที่เตรียมไว้ เสิร์ฟคู่กับซอสพริกศรีราชา อร่อยสะใจง่ายๆ ลองทำกันดูนะครับ

ภาพประกอบขั้นตอนการทำ

ข้อมูลสูตร : ธนพล ดิเรกศิลป์

เขียนลงเว็บ โดย เนื้อทอง ทรงสละบุญ
วิธีการเลือกซื้อปูสด!

1. ปูต้องยังไม่ตาย

2. เลือกตัวที่มีน้ำหนักมาก เพราะปกติปูจะมีน้ำอยู่ในตัวมาก เมื่อถูกจับขึ้นมาน้ำจะระเหยออกไปตลอดเวลา ดังนั้นยิ่งวางขายนานเท่าไหร่ น้ำหนักก็ยิ่งเบาลงจึงให้เลือกปูที่หนักๆ ไว้ก่อน

3. ให้พลิกหงายท้องปูดู ถ้ามีสีเหลืองอ่อน หรือมีคราบอยู่ตามร่องระหว่างปล้อง แสดงว่า เป็นเปลือกเก่า ปูผ่านการลอกคราบมานานแล้ว บ่งบอกว่าเป็นปูเนื้อแน่น

4. ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงบริเวณส่วนท้อง ่ถ้ากดแล้วแข็ง ไม่บุ๋ม จะเป็นปูเนื้อแน่น5. ปูตัวใดที่มีก้ามหักไปข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ให้สังเกตว่ามีก้ามเล็กๆ งอกขึ้นมา สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นปูเนื้อแน่น

6. ในกรณีของปูทะเล สังเกตได้จากปลายก้ามของปู หากเป็นรอยด่างคล้ายสีลอก แสดงว่าก้ามนั้นได้ผ่านการใช้งานมานานแล้ว ปูตัวนั้นจึงผ่านการ ลอกคราบมานานแล้วด้วยเช่นกัน

7. ถ้าต้องการเนื้อให้เลือกปูตัวผู้ ถ้าต้องการไข่ให้เลือกปูตัวเมีย โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้
ปูตัวผู้ จะมีก้ามใหญ่ ฝาปิดหน้าอกเรียวเล็ก มีรูปคล้ายใบพาย
ปูตัวเมีย ฝาปิดหน้าอกจะใหญ่ มีรูปคล้ายกลีบดอกไม้ ถ้ามีไข่อยู่ใช้นิ้วดีดกระดองจะมีเสียงแน่นทึบ

8. สำหรับปูม้า ให้เลือกตัวที่มีเทาอ่อน มีจุดบางๆ

ประโยชน์ของปูทะเล
  1. ประโยชน์ของปูทะเลรักษาโรคกล้ามเนื้อฝ่อหรือลีบ ในปูทะเลจะมีสารอาหารสำคัญที่เรียกว่า ‘ไกลซีน’ โดยสารชนิดนี้จะทำหน้าที่สร้าง ‘ครีเอทีนีน’ ซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญในการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ ทำให้อาการกล้ามเนื้อตีบหรือฝ่อดีขึ้นได้ นอกจากนั้นยังมีรายงานที่น่าสนใจอีกว่า ผู้ที่ได้รับไกลซีนในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ตื่นตัวตลอดเวลาและมีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ มากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับไกลซีนเลยในแต่ละวัน
  2. ประโยชน์ของปูทะเลอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ในปูทะเลจะมี ‘ฟอสฟอรัส’ อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้จะทำหน้าที่สื่อประสาทและยังมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางเคมีภายในร่างกายแทบทุกส่วน นอกจากนั้นยังมีความสำคัญต่อระบบหัวใจ โดยช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นไปอย่างปกติและยังมีส่วนช่วยให้ไตขับของเสียออกจากร่างกายดีขึ้น
  3. ประโยชน์ของปูทะเลกระตุ้นการเรียนรู้และการจดจำของสมอง ปูทะเลเป็นอาหารทะเลอีกชนิดหนึ่งที่มีกรด ‘กลูตามิก’ จำนวนมาก ซึ่งกรดดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ช่วยเพิ่มความรู้ความจำ ในทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า กลูตามิกเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงของสมอง นอกจากนั้นยังมีส่วนสำคัญในการกำจัดแอมโมเนียออกจากร่างกายอีกด้วย
  4. ประโยชน์ของปูทะเลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเม็ดเลือดขาว ‘อาร์จีนีน’ ในปูทะเลเป็นอีกหนึ่งสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไธมัส ซึ่งต่อมดังกล่าวนี้เป็นศูนย์รวมของเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคในเซลล์ร่างกาย นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยที่น่าสนใจที่อธิบายถึงการทำงานของอาร์จีนีน ว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเม็ดเลือดขาวและต่อต้านมะเร็งด้วย
  5. ประโยชน์ของปูทะเลป้องกันโรคเอ๋อหรือปัญญาอ่อน โรคเอ๋อหรือปัญญาอ่อนมีสาเหตุสำคัญคือขาด ‘ไอโอดีน’ ที่มีอยู่มากในอาหารทะเลเช่น กุ้ง หอยและปูทะเล ถึงแม้ว่าไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่ไม่ได้สำคัญมากแต่ร่างกายก็ขาดไม่ได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดภาวะร่างกายขาดไอโอดีน จึงควรรับประทานอาหารทะเลอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อเดือน
การเก็บรักษาเนื้อปูให้คุณภาพดี
  • ให้เจาะรูที่กล่องโฟม และตัดก้นถุงปูออกเล็กน้อย จากนั้นใส่น้ำแข็งลองที่ก้นกล่องโฟม วางเนื้อปูลงไป นำน้ำแข็งใส่ทับลงบนเนื้อปู วิธีนี้สามารถเก็บได้3-5วัน โดยการเด้ง ความหวาน ความสดจะคงอยู่เสมือนวันแรกๆเลยค่ะ

ในกรณีที่ต้องการเก็บนานกว่านั้น แนะนำเอาเข้าฟรีสได้เลยค่ะ พอจะทานเอามาวางไว้ให้เค้าละลายค่ะ สามารถอยู่ได้เป็นเดือนค่ะ แต่ความหวาน ความเด้งจะลดลงไปค่ะ

ห้ามนำเนื้อปูแช่ในตู้เย็นเกิน10ชม.ค่ะ เพราะความเย็นไม่เพียงพอจะทำเนื้อปูเสียง่ายมาก เนื้อปูต้องอยู่ในความเย็นที่เพียงพอค่ะ

ห้ามวางไว้ในอุณหภูมิปกติโดยไม่มีความเย็นเกิน2ชม. เพราะเนื้อปูอาจจะมีกลิ่นได้ค่ะ ความเย็นสำคัญมาก

กรณีแช่เนื้อปูไว้กับน้ำแข็งหลายๆวันโดยไม่เข้าฟรีสไว้ จะทำให้ปูจืดและขมในที่สุด

ข้อแนะนำ วิธีที่สะดวกที่สุด ง่ายที่สุด ไม่เสี่ยงของเสียหาย แนะนำเข้าฟรีสไว้ค่ะ อาจจะแบ่งไว้เป็นแพคเล็กๆเอาไว้ทำทานเป็นมื้อๆได้ค่ะ เอามาวางให้ละลาย ถ้าไม่ทันใจใช้พัดลมเป่าช่วยแปบเดียวก็ได้ทานแล้วค่ะ ควรฟรีสตั้งแต่ตอนที่ยังสดๆเพราะพอละลายแล้วรสชาติอาจจลดลงบ้างไม่เกิน5% เท่านั้นเองค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

#ACuisine #เอควิซีน #CherryKitCook #Recipes
อยากกิน อยากฟิน อยากทำ อย่าลืมติดตาม A Cuisine (เอควิซีน)

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.