บรอกโคลี่ ผักสีเขียวที่ราคาขายค่อนข้างจะสูงในบ้านเรา แต่คุณประโยชน์ของบรอกโคลี่ก็สูงตามราคาไปด้วย เพราะสารอาหารที่มีอยู่ในผักสีเขียวทรงพุ่มเหมือนต้นไม้นี้ อุดมไปด้วยวิตามิน C มีสารเบต้าแคโรทีน ไฟเบอร์สูง และแคลเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ผักบรอกโคลี่สามารถกินได้สดๆ หรือนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย
หากใครซื้อบรอกโคลี่มาแล้วกินไม่หมดในคราวเดียว เรามีวิธีการเก็บรักษาบรอกโคลี่ให้สดใหม่เสมอ ทั้งแบบเก็บไว้ใช้ระยะสั้นและเก็บไว้ใช้ระยะยาวมาแนะนำให้ลองทำตามกันดูค่ะ รับรองว่าจะไม่มีของเหลือทิ้งให้เสียดายเงินในกระเป๋าเล่นแน่นอน
การเก็บบรอกโคลี่ในระยะสั้น
1. แช่บรอกโคลี่ในแก้วน้ำ คล้ายกับแช่ช่อดอกไม้ โดยจุ่มลำต้นของบรอกโคลี่ให้โดนน้ำ (เทน้ำประมาณครึ่งนิ้ว) และนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บได้นานถึง 7 วัน
2.ห่อบรอกโคลี่ด้วยกระดาษทิชชู่อเนกประสงค์ โดยให้สเปรย์น้ำพรมให้ทั่วบรอกโคลี่ จากนั้นใช้กระดาษทิชชู่อเนกประสงค์ที่มีความหนากว่ากระดาษทิชชู่ปกติ มาห่อให้ทั่วบรอกโคลี่ แต่ไม่ต้องห่อจนเเน่นเกินไป ปล่อยให้มีอากาศผ่านได้บ้าง แล้วจึงนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บความสดไว้ได้นาน 3 วัน
3. เก็บบรอกโคลี่ในถุงที่ระบายอากาศได้ดี หากไม่มีเวลามากนัก แค่หาถุงพลาสติก เจาะรูเล็กๆ ประมาณ 5-6 รู แล้วใส่บรอกโคลี่ไว้ข้างในโดยให้ด้านดอกบรอกโคลี่อยู่ติดกับรูระบายอากาศ จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็น สามารถเก็บความสดได้นาน 3 วัน
การเก็บบรอกโคลี่ในระยะยาว
ทำเป็นบรอกโคลี่แช่แข็ง วิธีนี้ทำให้เราสามารถเก็บบรอกโคลี่ไว้ได้นานถึง 1 ปี แต่ต้องทำให้ถูกวิธี ดังนี้
* เริ่มจากเตรียมต้มน้ำให้เดือด และอ่างอีกใบใส่น้ำเปล่ากับน้ำแข็ง
* หั่นบรอกโคลี่บริเวณดอกให้เป็นช่อเล็กๆ ขนาดไม่เกิน 1 นิ้ว ส่วนลำต้นก็หั่นให้ได้ขนาดไม่เกิน 1 นิ้วเช่นกัน
* นำลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 3 นาที การต้มบรอกโคลี่นั้นเพื่อฆ่าแบคทีเรีย และหยุดการทำงานของเอนไซม์ ที่มีส่วนทำให้รสชาติ และสีสันของบรอกโคลี่นั้นเปลี่ยนไป ทำให้มีรสชาติไม่อร่อยเมื่อนำไปแช่แข็ง
* กรองเอาน้ำออก นำบรอกโคลี่ไปแช่ในน้ำเย็นผสมน้ำแข็ง ประมาณ 3 นาที เพื่อหยุดความร้อนจากการต้มทันที ทำให้บรอกโคลี่ยังคงความกรอบอร่อยอยู่
* กรองน้ำออก พักไว้ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ ใช้กระดาษทิชชู่อเนกประสงค์ซับน้ำให้แห้ง
* นำไปใส่ในถุงพลาสติกซิปล็อค ไล่อากาศออกให้หมดจึงค่อยปิดปากถุง เขียนวันที่กำกับไว้ทุกครั้ง แล้วจึงนำไปแช่ในช่องแข็ง เก็บได้นานถึง 1 ปี
หนูก็ทำตามเคล็ดลับนี้ค่ะ ที่บ้านเลยมีบรอกโคลี่เก็บไว้กินตลอดปี ^^
ข้อมูลจาก www.wikihow.com
แปลและเรียบเรียง : mini me
ภาพ : Pixabay.com