ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว ทำกินเองได้…ไม่ต้องง้อร้านดัง!!
อีกหนึ่งเมนูง๊ายง่ายที่ A Cuisine ขอนำเสนอ ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว สูตรนี้ หอมอร่อยไม่เป็นรองใครแน่นอน! เพราะทีเด็ดอยู่ที่ น้ำราดรสกลมกล่อมทั้งยังเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันเจียวขิงและกระเทียม ที่ราดฉ่าลงบนเนื้อปลา ขณะร้อนๆ ให้กลิ่นหอมฟุ้งเข้าจมูก เมื่อได้ลิ้มชิมรสจะสัมผัสถึง เนื้อปลานุ่มๆ ชุ่มฉ่ำ ตามด้วยรสหอมกลมกล่อมจากน้ำซีอิ๊ว ปิดท้ายด้วยความ กรอบ ของขิงซอย กระเทียมซอย ที่เข้ากันอย่างลงตัว การันตีความอร่อยฟินไม่แพ้ภัตตาคารเหลาแน่นอน!! เอาล่ะอย่าช้าหยิบตะหลิวเข้าครัวตามแอดมาเลยจ้า ^^
ส่วนผสม
- เนื้อปลากะพง 1 ชิ้น
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- เนยจืด 2 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเห็ดหอม ½ ถ้วย
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- เห็ดหอมซอย ¼ ถ้วย
- ขิงหั่นแว่น ¼ ถ้วย
- ขิงซอยเป็นเส้น ¼ ถ้วย
- กระเทียมกลีบใหญ่ซอย ¼ ถ้วย
- น้ำมันเจียวขิงและกระเทียม สำหรับราดเล็กน้อย
- พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด
- ต้นหอมซอย ¼ ถ้วย
วิธีทำ
ผสมน้ำราดซีอิ๊ว
1.เตรียมหม้อ ใส่เนย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม น้ำเห็ดหอม พริกไทยป่น เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดยกลง พักไว้
เตรียมนึ่งปลา
2.วางขิง กระเทียม และเห็ดหอม ลงภาชนะสำหรับนึ่ง วางปลาทับที่ด้านบน นำไปนึ่งน้ำเดือดจัดนาน 8 นาที
จัดเสิร์ฟ
3.ราดซอสที่เตรียมไว้ลงบนเนื้อปลา
4.ตกแต่งด้วยต้นหอมซอย พริกชี้ฟ้าซอย ขิงเจียวและกระเทียมเจียว ลงบนเนื้อปลา
5.แล้วราดน้ำมันเจียวขิงกับกระเทียมลงบนเนื้อปลาร้อนๆ อีกครั้ง พร้อมเสิร์ฟ
ประโยชน์ของ “ปลากะพง”
เป็นที่ทราบกันดีว่า ในเนื้อปลามีโปรตีนชั้นเยี่ยม ย่อยง่าย และไขมันต่ำ และในไขมันก็ยังมี โอเมก้า และ DHA ซึ่งช่วยในเรื่องการบำรุงสมอง รวมทั้งยังมีแร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารอื่น ๆ อีกหลายชนิด
ปลากะพง จัดว่าเป็นปลาที่มีไขมันต่ำ เมื่อเทียบกับปลาทะเลชนิดอื่น ๆ คือ มีไขมัน เพียง 2-4 กรัม ต่อเนื้อปลา 1 ขีด แต่มีโอเมก้า 3 มากเมื่อเทียบกับปลาทะเลด้วยกัน ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในโอเมก้า 3 จะมีอยู่มากในปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งราคาจะค่อนข้างสูง แต่เราสามารถเลือกทานปลากะพงแทนได้ในราคาไม่แพงและได้รับสารอาหารได้เหมือนเลยทีเดียว
ประโยชน์จากปลามีมากมาย เด็กก็ชอบทานปลา เพราะช่วยบำรุงสมอง ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักก็ชอบทานปลา เพราะมีไขมันต่ำ ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ก็ชอบทานปลาเพราะย่อยง่าย จะเห็นได้ว่า เมนูปลาสามารถรับประทานกันได้ทุกเพศทุกวัย แท้ที่จริงเราได้รับประโยชน์อะไรบ้าง ลองมาดูกัน
- ลดน้ำหนัก เพราะปลาจะให้พลังงานน้อยกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น จึงไม่ทำให้อ้วน
- บำรุงสมอง ในปลามีกรด DHA ช่วยในเรื่องการพัฒนาสมอง ความจำ และการเรียนรู้
- ผิวสวย ผ่องใส ในปลามีวิตามินดี จาก โอเมก้า 3 ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณ และการไหลเวียนเลือดในร่างกาย จึงช่วยในเรื่องการบำรุงผิวทั้งภายนอกและภายใน
- สายตาดี ทานปลาช่วยบำรุงประสาทตา ซึ่งช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น
- บำรุงข้อกระดูก ในน้ำมันปลา สามารถช่วยเสริมสร้าง และบรรเทาอาการไขข้ออักเสบได้
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ทานปลา สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ช่วยลดความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
วิธีการเลือกซื้อปลา
- เหงือกมีสีสด
- ตาปลาต้องใส
- เกล็ดและหนังไม่ขุ่น
- เนื้อแน่น เมื่อกดดูไม่บุ๋มตามรอยนิ้วมือ
- เนื้อไม่แข็งทื่อ
- ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
- เหงือกมีสีสด
วิธีการล้างปลาสดให้หมดเมือกและกลิ่นคาว มีหลายวิธี ลองดูกันนะคะ
- ล้างน้ำเปล่าธรรมดา แต่เน้นที่ความแรงของน้ำ
- ล้างด้วยน้ำผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
- ล้างด้วยการนำมะนาวฝานเป็นชิ้นมาถูที่เนื้อปลา แล้วตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
- ล้างด้วยน้ำส้มมะขามเปียก แล้วตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
การเก็บรักษา
ควรทำความสะอาดปลาก่อน กล่าวคือ ต้องขอดเกล็ดออกให้หมด ถ้าไม่มีเกล็ดต้องขูดเมือกออก ดึงเหงือกและควักไส้ออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ใส่กล่องพลาสติก ปิดฝา นำเข้าช่องแช่แข็ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
#ACuisine #เอคูซีน #MaTamCooking #EasyMenu
👉 กดติดตาม Instagram ได้ที่ @ acuisine.th Follow มาเยอะๆ นะคะ 😘
ง่าย สนุก สุข อร่อย อยากกิน..อยากฟิน..อยากทำ.. อย่าลืมติดตาม #Acuisine นะจ๊ะ