เชฟปิง สุรกิจ  เข็มแก้ว

วันนี้ Amarin Cuisine  พามาเปิดครัว เชฟปิง  Executive Chef  หนุ่มไฟแรง ฉายาเชฟกระทะหล่อขวัญใจใครหลายๆคน    ที่ Cielo Sky Bar & Restaurant    แบบ Exclusive

หลายคนอยากรู้จักที่มาที่ไปของเชฟปิง อยากให้เชฟเล่าให้เราฟังหน่อยค่ะ……

ผมจบจากวิทยาลัยดุสิตธานี หลังจากนั้นก็ไป Internship (ฝึกงาน)ก่อนที่จะมาทำงานที่ Cielo Sky Bar  ระหว่างเรียนผมแข่งขันทำอาหารมาเยอะมาก  เยอะจนอาจารย์และเพื่อนๆอยากให้หยุด  เพราะผมลงแข่งแทบทุกสนาม มีแข่งทุกเดือน   ได้เหรียญรางวัลเกือบสี่สิบเหรียญและถ้วยอีกเกือบสิบใบ ที่ฝากไว้ทั้งที่โรงแรมและวิทยาลัย

แรงบันดาลใจที่ทำให้เชฟสนใจในการทำอาหารเริ่มต้นมาจากอะไร……..

อะไรที่เกี่ยวกับอาหาร  มันคือหนึ่งในปัจจัย4 ที่ขาดไม่ได้  เพราะทุกคนต้องกินอาหาร มันเป็นทักษะเฉพาะ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในทุกอย่างที่เกี่ยวกับอาหาร  แล้วพัฒนามาประกอบเป็นอาชีพได้  ผมรู้สึกว่าการทำอาหารคือสิ่งที่ไม่น่าเบื่อ  ยิ่งเราเรียนทำอาหารและแข่งขันทำอาหารไปด้วยมันทำให้ซึมซับเข้าในกระแสเลือด  เราอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขและมีอะไรให้เรียนรู้ตลอดเวลา  โลกของอาหารพัฒนาไปทุกๆวัน  ยิ่งทุกวันนี้ โลกโซเชียลเปิดกว้าง เราสามารถเห็นอาหาร 1 จานตามที่ต่างๆของทุกมุมโลก ได้ในมือถือเพียงเครื่องเดียว……

ทำไมเชฟถึงมาเรียนทำอาหารคะ…….

เชื่อไหมครับว่าก่อนที่จะมาเรียนทำอาหาร  ผมเคยขอที่บ้านไปเรียนเกี่ยวกับการบิน แต่ไม่มีใครสนับสนุน  กลับกันพอผมมาเรียนทำอาหาร ซึ่งค่าเทอมสูงกว่าประมาณเท่าตัว ที่บ้านกลับสนับสนุน555   ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่เค้าคงมองเห็นว่าอาชีพไหนที่สามารถอยู่ติดตัวและสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้     แรกๆเพื่อนๆผมก็แปลกใจนะ  ว่าทำไมผมถึงตัดสินใจมาเรียนทำอาหาร   เพราะผมเป็นเด็กติดเกมส์   น่าจะไปเป็นโปรแกรมเมอร์หรือทำอาชีพที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ต่างๆมากกว่า เพราะก่อนที่ผมจะมาเรียนทำอาหารผมก็ซิ่วมาจากสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ  ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวตนของผม ก็เลยเปลี่ยนมาเรียนทำอาหารแทนจนมาได้ไกลขนาดนี้……

ใครที่เป็นไอดอลในดวงใจของเชฟ……

คนแรกก็คือเชฟประชัน  วงศ์อุทัยพันธ์  เชฟเป็นผู้ที่สอนผมมาตั้งแต่ฝึกงาน  สอนจนผมได้เหรียญทองเหรียญแรก  มาจนถึงถ้วย  Bass Junior  จวบจนปัจจุบัน

คนที่สอง  เชฟชุมพล  แจ้งไพร  เป็นผู้ที่ให้โอกาสผมจนผมมีที่ยืนบนสายอาชีพเชฟ  ทำให้ผมมีรากฐานที่มั่นคงในสายอาชีพนี้  ทั้งสองท่านมีบทบาทในชีวิตผมมากๆ และก็ผมจะเดินรอยตามทั้งสองท่านครับ…..

เชฟรู้สึกอย่างไรกับฉายาเชฟกระทะหล่อคะ……..

ต้องเล่าก่อนว่าฉายาเชฟกระทะหล่อนี่มาจากนิตยสารสุดสัปดาห์   เค้าจัด 10 อันดับ เชฟกระทะหล่อ   ซึ่งผมได้ยินข่าวอยู่แต่ก็ไม่คิดว่าผมจะเข้าไปติด 1 ใน 10 เพราะตอนนั้นผมพึ่งเรียน อยู่ปี 4  แต่ละคนที่ถูกเสนอชื่อมาเป็นเจ้าของร้าน  เป็นเชฟดัง แต่เรายังเป็นนักศึกษาอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร5555  ทำไม่ถึงติดอันดับ ก็เลยกลายเป็นฉายาติดตัวมาตั้งแต่ตอนนั้น

 

 

อาหารประเภทไหนที่เชฟถนัดคะ……

สไตลล์การทำอาหารของผม คือ อาหารไทย อินโนเวทีฟ  ซึ่งก็คืออาหารไทยดั้งเดิมที่ประยุกต์ เทคนิคการปรุงต่างๆ เข้ามาไว้ในเมนูอาหาร เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับจานนั้นๆ และเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น หรือจะเรียกง่ายๆก็คือ  อาหารไทยสมัยใหม่  อาหารไทยร่วมสมัย  ที่ยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องรสชาติและยังมีรากเหง้าของอาหารไทยแบบเดิมๆอยู่  โดยปรับหน้าตาและใส่เทคนิคเพิ่มเข้าไป……

เชฟเคยคิดอยากจะเปิดร้านอาหารของตัวเองไหมคะ….และร้านอาหารในฝันของเชฟเป็นอย่างไร

ผมว่าคนที่เป็นเชฟทุกคนอยากที่จะเติมเต็มความฝันของตัวเองด้วยการเปิดร้านอาหาร ซึ่งอาจจะมีไม่กี่คนที่จะประสบความสำเร็จในการทำร้านของตัวเอง  สำหรับผม จะมีร้านเป็นของตัวเองเมื่อผมพร้อมและความเสี่ยงต้องน้อย  ทุกอย่างต้องรอเวลา อย่าฝืนที่จะทำในช่วงที่ไม่ใช่จังหวะของเรา

ร้านอาหารที่เติมเต็มความฝันคือร้านอาหารที่เป็น Fine Dining  เสิร์ฟอาหารสวยๆ  บนจานสวยๆ มีเทคนิคเยอะๆ แต่ร้านอาหารแบบนี้ไม่ได้เติมเต็มอนาคตของผม  เพราะธรรมชาติของคนไทยไม่ได้เข้าถึงอาหารประเภทนี้ขนาดนั้น

ร้านอาหารที่จะเติมเต็มอนาคตของผม คือร้านอาหารที่เข้าถึงง่าย อาหารที่กินง่ายๆ ราคาไม่สูง เช่น ข้าวขาหมู  ข้าวหน้าเป็ด ข้าวมันไก่ ที่ทุกคนกินได้และอร่อย ซึ่งผมว่ามันจับต้องได้ง่าย  เพราะความฝันกับอนาคตมันต่างกัน……

 

วันนี้เชฟจะเข้าครัวทำเมนูอะไรให้เราชิมคะ……

เมนูที่ผมจะทำก็คือ  แกงเนื้อสับปะรด  ที่เลือกเมนูนี้เพราะผมเป็นคนที่ชอบแกงซึ่งมีส่วนผสมของผลไม้อย่างแกงเผ็ดเป็ดย่าง  แต่วันนี้ปรับมาใช้เนื้อวากิว A4 ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น  ทำให้มูลค่าในตัวแกงเพิ่มมากขึ้น และยังอร่อยแบบเข้ากัน

หัวใจของคนเป็นเชฟที่ดีในมุมมองของเชฟ ต้องเป็นอย่างไร……และอยากฝากอะไรถึงคนที่อยากเป็นเชฟ…

การทำอาหารทุกอย่างต้องใส่ใจ ต้องคิดเสมอว่าอาหารที่เราทำคืออาหารที่เรากินได้ ดีที่สุดและอร่อยที่สุด  ถึงจะทำออกไปให้ลูกค้า   สำหรับคนที่อยากเป็นเชฟผมอยากให้มาลองนะครับ  อาชีพนี้อาจจะเหมาะกับบางคน  แต่ไม่ใช่ทุกคน   ผมว่ามันเป็นงานอดิเรกอย่างนึงที่อาจจะกลายมาเป็นอาชีพหลักในอนาคตก็ได้…

 

สำหรับใครที่เห็นเมนูของเชฟปิงแล้วอยากจะมาลองชิมสามารถ เดินทางมาได้ที่

Cielo Sky Bar & Restaurant   รูฟท็อปชั้น 46 ของสกายวอล์ก คอนโดมิเนียม โครงการดับเบิ้ลยู ดิสทริก    ติดรถไฟฟ้าพระโขนง     เบอร์โทร  02 348 9100  หรือติดตามได้ที่    http://www.cieloskybar.com/