ชาวพุทธใฝ่ธรรมหมั่นสวดมนต์ต้องรู้ … 4 หลักการอ่าน ภาษาบาลี ให้คล่องปรื๊ด

ภาษาบาลี หรือ Pali เป็นภาษาที่เก่าแก่ภาษาหนึ่งในตระกูลอินเดีย-ยุโรป (อินโด-ยูโรเปียน) โดยนักปราชญ์ทางภาษาและนักการศาสนาให้ความเห็นว่า คือ ภาษาท้องถิ่นของชาวมคธ ในชมพูทวีป

คำว่า “บาลี” มีความหมายว่า “ภาษาอันรักษาไว้ซึ่งพุทธพจน์” เนื่องจากเป็นภาษาที่ใช้ทรงจำและจารึกรักษาพุทธพจน์มาแต่ดั้งเดิม โดยใช้บันทึกเป็นคัมภีร์ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท จึงนับว่ามีความสำคัญมาก  แม้แต่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังเคยประทานพระโอวาทเมื่อครั้งเสด็จไปวัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ในการที่คณะธรรมยุต แสดงมุทิตาต่อพระภิกษุสามเณรผู้สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๑  ความว่า

“ความเข้าใจกระจ่างใน ‘พระไตรปิฎก’ ที่โบราณาจารย์เรียกว่า ‘พระบาลี’ นั้นคือการรักษาพระบวรพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่โลก

“สาเหตุที่บูรพาจารย์ท่านใช้คำว่าพระบาลี เสมอแทนด้วยคำว่าพระไตรปิฎก ก็เพราะภาษาบาลีคือภาษาที่รักษาอรรถธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ได้อย่างไม่แปรผันบิดเบือน ความรู้พระไตรปิฎกฉบับภาษาอื่นย่อมมีประโยชน์ก็จริงอยู่ แต่ก็เสมือนเรียนรู้เพียงข้อมูลระดับทุติยภูมิ ซึ่งถูกแปลผ่านบริบทถ้อยคำและวัฒนธรรมทางภาษาออกมาแล้วชั้นหนึ่ง จึงเป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรที่ตั้งใจบวชเรียนทุกรูป ที่จะต้องทำความเข้าใจพระไตรปิฎกภาษาบาลี อันเป็นข้อมูลระดับปฐมภูมิด้วยตนเองให้ได้ การเล่าเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จึงอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความสำคัญคู่สังคมไทยมานับแต่โบราณกาลตราบจนปัจจุบัน”

จริงอยู่ว่าทุกวันนี้ยังไม่มีบทบัญญัติว่าพุทธศานิกชนทั้งหลายต้องลุกขึ้นมาศึกษาภาษาบาลีเหมือนพระสงฆ์ ทว่าสำหรับผู้ที่ต้องการลึกซึ้งใน ‘ธรรม’ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

การรู้หลักการอ่าน ภาษาบาลี ให้คล่อง ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

แต่ก่อนจะอ่านให้คล่อง ต้องรู้ก่อนว่าภาษาบาลีมีตัวอักษรทั้งสิ้น 41 ตัว โดยแบ่งเป็น

1.สระ 8 ตัว ได้แก่ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

ให้สังเกตว่าเฉพาะสระ ‘อะ’ จะไม่ปรากฏรูปร่าง ส่วนอีก 7 ตัว รูปสระจะยังคงตัว และสระทุกตัว นิยมอ่านออกเสียงเหมือนในภาษาไทย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

2. พยัญชนะ ซึ่งในภาษาบาลีมีทั้งสิ้น 33 ตัว ได้แก่

ก ข ค ฆ ง เรียกว่า วรรค ก

จ ฉ ช ฌ ญ เรียกว่า  วรรค จ

ฏ ฐ ฑ ฒ ณ เรียกว่า  วรรค ฏ

ต ถ ท ธ น เรียกว่า  วรรค ต

ป ผ พ ภ ม เรียกว่า  วรรค ป

พยัญชนะเศษวรรค เรียก ‘อวรรค’ มี 8 ตัว คือ ย ร ล ว ส ห ฬ (เพราะมีเสียงเกิดจากฐานต่างกันไป )

ทั้งนี้เมื่อนำมาเขียนถ่ายทอดเป็นภาษาไทยแล้ว จะมีลักษณะที่ควรสังเกตประกอบการอ่าน ดังนี้

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

1. ตัวอักษรทุกตัวที่ไม่มีเครื่องหมายใดอยู่บนหรือล่าง และไม่มีสระใดๆ กำกับไว้ ให้อ่านอักษรนั้นเป็นเสียง “อะ” ทุกตัว เช่น

ยถาวาที ตถาการี  อ่านว่า  ยะ-ถา-วา-ที  ตะ-ถา-วา-ที

อรหโต อ่านว่า อะ-ระ-หะ-โต

ภควา อ่านว่า ภะ-คะ-วา

นมามิ อ่านว่า นะ-มา-มิ

โลกวิทู อ่านว่า โล-กะ-วิ-ทู

ในภาพอาจจะมี ท้องฟ้า, มหาสมุทร, ภูเขา, ข้อความ และธรรมชาติ

2. ตัวอักษรใดมีเครื่องหมายพินทุ (  ฺ ) อยู่ข้างใต้ แสดงว่าอักษรนั้นเป็นตัวสะกดของอักษรที่อยู่ข้างหน้า เมื่อผสมกันแล้วให้อ่านเหมือนเสียง อะ+(ตัวสะกด) นั้น เช่น

ขนฺติโก (ขะ+น = ขัน)  อ่านว่า  ขันติโก

สมฺมา (สะ+ม = สัม) อ่านว่า  สัม-มา

สงฺโฆ (สะ+ง = สัง) อ่านว่า  สัง-โฆ

ยกเว้นในกรณีที่พยัญชนะตัวหน้ามีเครื่องหมายสระกำกับอยู่แล้ว ให้อ่านรวมกันตามตัวสะกดนั้น เช่น

พุทฺโธ  อ่านว่า พุท-โธ

พุทฺธสฺส   อ่านว่า พุท-ธัส-สะ

สนฺทิฏฺฐิโย อ่านว่า สัน-ทิฏ-ฐิ-โย

ปาหุเนยฺโย อ่านว่า ปา-หุ-เนย-โย

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, สถานที่กลางแจ้ง, ข้อความ และธรรมชาติ

3. อักษรใดเป็นตัวนำแต่มีเครื่องหมายพินทุ ( ฺ ) อยู่ข้างใต้ด้วย ให้อ่านออกเสียง “อะ” ของอักษรนั้นเพียงครึ่งเสียงควบไปกับอักษรตัวตาม เช่น

สฺวากฺขาโต  อ่านว่า  สะหวาก-ขา-โต

ตสฺมา  อ่านว่า  ตะ-สมา

กตฺวา  อ่านว่า  กะ – ตวา

ในภาพอาจจะมี มหาสมุทร, ท้องฟ้า, เมฆ, ข้อความ, ธรรมชาติ และน้ำ

4. อักษรใดมีเครื่องหมายนฤคหิต (  ํ )  อยู่ข้างบนตัวอักษร ให้อ่านเหมือนอักษรนั้นมีไม้หันอากาศและสะกดด้วยตัว “ง”  เช่น

อรหํ   อ่านว่า  อะ-ระ-หัง

สงฺฆํ   อ่านว่า   สัง-ฆัง

ธมฺมํ  อ่านว่า  ธัม-มัง

สรณํ  อ่านว่า  สะ-ระ-นัง

อญฺญํ   อ่านว่า  อัญ-ญัง

แต่ถ้าตัวอักษรนั้นมีทั้งเครื่องหมาย (  ํ )  อยู่ข้างบนและมีสระอื่นกำกับอยู่ด้วย ก็ให้อ่านออกเสียงตามสระที่กำกับ + ง (ตัวสะกด) เช่น

พาหุํํํํ ํ  อ่านว่า  พา-หุง

วิสุํ  อ่านว่า  วิ-สุง

เสตุํ  อ่านว่า  เส-ตุง

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

จริงอยู่ว่าทุกวันนี้ หนังสือสวดมนต์ หรือบทสวดมนต์ตามวัดมักถอดคำอ่านออกเสียงแบบเด่นชัด แต่การรู้หลักการอ่านที่ถูกต้องก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่แน่เราอาจจะไปเจอบทสวดที่ยังไม่ได้รับการถอดคำ ถึงตอนนั้นจะได้ไม่นก หรือเป็นไก่ได้พลอยยังไงละ

ท้ายนี้หากมีใครสงสัยว่า ทำไมเราต้องสวดมนต์เป็นภาษาบาลีด้วย? พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ได้เคยฝากคำตอบไว้กับ Secret ว่า

“ที่เราต้องสวดมนต์เป็นภาษาบาลี ก็เพราะมนต์นั้นคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งทรงสั่งสอนด้วยภาษาบาลี เมื่อเรานำเอามนต์ซึ่งจำไว้ด้วยภาษาบาลีนั้นมาสวด ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่เราจะต้องสวดเป็นภาษาบาลีตามรูปแบบเดิม เหมือนเรานำเอาภาษาอังกฤษมาใช้ในภาษาไทยกับคนไทย เราก็ยังคงต้องพูดภาษาอังกฤษเหมือนกับภาษาแม่ทุกประการ”

 

 

ที่มาข้อมูล : dhamma4today.blogspot.com/2013/03/blog-post_16.html

ภาพ : Secret

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.