โคพี อันนัน

โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ บุรุษผิวสีผู้ที่โลกจดจำ

โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ บุรุษผิวสีผู้ที่โลกจดจำ

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งโลกได้ยินข่าวอันน่าเศร้า การจากไปของบุรุษผิวสีคนหนึ่ง เขาเป็นบุคคลต้นแบบของผู้ที่มีความสามารถรักษาสันติภาพของมนุษยชาติไว้ได้ ชื่อของเขาคือ โคฟี อันนัน ชายผู้นี้ที่โลกจดจำ

บุรุษผิวสีผู้นี้ทำอะไร ทำไมโลกต้องจดจำ การที่โลกหรือใครจะจดจำคนๆหนึ่งไว้ แสดงว่าเขาต้องมีความสำคัญ โคฟี อันนันมีความสำคัญต่อโลกในฐานะเลขาธิการสหประชาชาติ แล้วเขาก็เป็นนักเจรจาเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศ

การทำงานของเขาเป็นไปเพื่อการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่โลกอย่างแท้จริง ซึ่งเขาก็สามารถสนองวัตถุประสงค์ขององค์การสหประชาชาติได้อย่างแท้จริง

เรามารู้จักกับตัวของอันนันกันว่า อดีตท่านเลขาธิการสหประชาชาติท่านนี้ กว่าเขาจะกลายเป็นบุรุษผิวสีผู้สร้างสันติภาพนั้น ชีวิตของเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

 

โคฟี อันนัน

 

เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ.1938 ที่เมืองกุมาซี (Kumasi) ในเขตอาณานิคมโกลด์โคสของอังกฤษ (Gold Coast) ซึ่งเป็นประเทศกานา ทวีปแอฟริกาในปัจจุบัน นายอันนันเป็นบุตรคนที่ 4 ในครอบครัวที่มีการศึกษาดี สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส รวมไปถึงภาษาท้องถิ่นแอฟริกาอีกด้วย

เขาเข้ารับการศึกษาที่ University of Science and Technology ที่เมืองกุมาซี และสำเร็จการศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์จาก Macalester College แห่งเมืองเซนต์ปอล (St. Paul) มลรัฐมินเนโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1961 จากนั้นได้ศึกษาต่อระหว่างปี ค.ศ. 1961 – 1962 ในระดับ Graduate Studies สาขาเศรษฐศาสตร์ที่ Institute of International Affairs ณ เมืองเจนีวา (Geneva) สมาพันธรัฐสวิส และสำเร็จปริญญาโทสาขาการบริหาร (Master of Science degree in management) จากสถาบัน Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT เมื่อปี ค.ศ. 1972 แล้วสมรสกับนางนาเน่ (Nane) และมีบุตรด้วยกันถึง 3 คน

 

โคฟี อันนัน

 

ในปี ค.ศ. 1962 นายอันนันเริ่มมีบทบาทในแวดวงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกิจการสหประชาชาติ โดยเข้าทำงานด้านงานบริหารและงานงบประมาณขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) จากนั้นได้ร่วมงานในคณะ Economic Commission for Africa in Addis Ababa ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) ณ เมืองเนจีวา จากนั้นถึงได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รวมถึงกิจการด้านทรัพยากรมนุษย์ (ระหว่างปี ค.ศ. 1987-1990) งานงบประมาณและการเงิน (ระหว่างปี ค.ศ. 1990-1992) และงานด้านการรักษาสันติภาพ Peacekeeping (ระหว่างมีนาคม ค.ศ. 1992 – ธันวาคม ค.ศ. 1996)

ผลงานที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของเขา ได้แก่ การปฏิบัติงานรักษาสันติภาพในตำแหน่ง Under-Secretary-General เขามีหน้าที่ดูแลเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่พลเรือนในตอนนั้นมากกว่า 70,000 คน ซึ่งปฏิบัติงานให้กับสหประชาชาติอยู่ทั่วโลก และดำรงตำแหน่งผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติ (Special Representative of Secretary General) เพื่อดูแลยูโกสลาเวีย ในระหว่างปี ค.ศ. 1995 – 1996 และการดูแลส่งคณะเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติมากกว่า 900 คน กลับจากอิรักจากกรณีความขัดแย้งระหว่างอิรักและคูเวต

 

โคฟี อันนัน

 

กระทั่งเดือนธันวาคม ค.ศ. 1996 เขาได้รับการเสนอชื่อจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC)  และสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly: UNGA) ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติ (ลำดับที่ 7) โดยเริ่มดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1997

นายอันนันได้แสดงบทบาทสำคัญหลายด้าน เช่น การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ การผลักดันเรื่องสิทธิมนุษยชน การตั้งเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDG) และความอุตสาหะในการนำสหประชาชาติให้ใกล้ชิดกับภาคประชาสังคมมากยิ่งขึ้น

ด้านการรักษาสันติภาพ นายโคฟี อันนัน ได้มีบทบาทเป็นสื่อกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศ (Good Office) ต่างๆ เช่น

กรณีอิรัก ปี ค.ศ. 1998

กรณีไนจีเรีย ปี ค.ศ. 1999

กรณีอิสราเอล – เลบานอน ปี ค.ศ. 2000

รวมไปถึงการรักษาสันติภาพในลิเบียและติมอร์ตะวันออก ส่งผลให้องค์การสหประชาชาติมีบทบาทเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในการสร้างสันติภาพให้แก่โลก

 

โคฟี อันนัน

 

จากผลงานด้านสันติภาพอันเป็นที่ประจักษ์ต่อโลกแล้ว  ยังส่งผลให้ในปี ค.ศ. 2001 คณะกรรมการรางวัลโนเบลมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้แก่เขา ในฐานะที่ทุ่มเทการทำงานเพื่อสันติภาพและการยกระดับองค์การสหประชาชาติ และในปีถัดมา รัฐสมาชิกสหประชาชาติได้มีมติให้นายโคฟี อันนัน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ ต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยเริ่มในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2002  ซึ่งนายอันนันยังคงเดินหน้าเสริมสร้างสันติภาพและมนุษยธรรมในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจวบจนครบวาระในปี ค.ศ. 2006

แม้ภายหลังการก้าวลงจากตำแหน่งเลขาธิการฯ วาระที่ 2 ประชาคมนานาชาติยังคงให้การยอมรับนายโคฟี อันนัน มาจนถึงปัจจุบัน ในการทำภารกิจต่าง ๆ เพื่อสันติภาพและการส่งเสริมมนุษยชนรวมไปถึงเป็นผู้ทำให้สหประชาชาติมีบทบาทแข็งขันอย่างมาก

โดยล่าสุด (ค.ศ. 2012) นายอันนันได้ปฏิบัติหน้าที่ทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเสริมสร้างสันติภาพในซีเรีย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของประชาคมโลกในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง

ค.ศ. 2018 นี้ เขาก็จากพวกเราไปอย่างสงบในวัย 80 ปี ขอขอบคุณในคุณความดีที่เขาได้สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่โลกใบนี้

ที่มา : http://sameaf.mfa.go.th

ภาพ : en.wikipedia.org


บทความน่าสนใจ

สันติภาพ สิ่งที่มนุษย์ต้องการ บทความน่าคิดจากพระราชญาณกวี (ปิยโสภณ)

สันติภาพ สันติสุข สันติธรรม โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

สันติในเรือนใจเท่ากับสันติในโลก ว.วชิรเมธี

วิธีอยู่ร่วมกับเจ้านายอย่างสันติ เคล็ด (ไม่) ลับ จาก ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

อับราฮัม ลินคอล์น จากลูกชาวนาก้าวสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

ซาดาโกะ ซาซากิ ขอให้เรื่องของหนูเป็น อุทาหรณ์เตือนใจ โลก

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.