แม้ชื่อของ เคนซาบุโร โอเอะ จะเป็นที่รู้จักไม่แพร่หลายนักในบ้านเรา…แต่ในญี่ปุ่น นักเขียนผู้นี้เปรียบเสมือน ”พระเจ้า”
รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี พ.ศ. 2537 คือเครื่องการันตีความสามารถและอิทธิพลที่ชายผู้นี้มีต่อสังคมโลก
งานเขียนส่วนใหญ่ของเคนซาบุโรรังสรรค์ขึ้นเพื่อสะท้อนความจริงของชีวิต ผลงานของเขาแม้จะหนักหน่วงไปด้วยความจริงอันไม่สวยงาม ทว่ากลับมอบพลังและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้อ่านอย่างประหลาด
อย่างไรก็ดี เคนซาบุโรจะยิ่งใหญ่อย่างที่เขาเป็นทุกวันนี้ไม่ได้เลย หากขาดฮิคาริ ลูกชายผู้ที่แม้จะได้ใช้ชื่อที่แปลว่า แสงสว่าง แต่กลับได้สร้างความมืดมนอันใหญ่หลวงให้ชีวิตของผู้เป็นพ่อ
ลูกชายคนแรกของเขาถือกำเนิดขึ้นพร้อมสมองที่ผิดปกติ และอาจต้องใช้ชีวิตเยี่ยง ”ผัก” ไปทั้งชีวิต ความผิดหวังและสับสนเรื่องลูกทำให้เคนซาบุโรเกือบโยนความเป็นพ่อทิ้งไปพร้อมกับชีวิตของลูกชาย
วันหนึ่งเคนซาบุโรได้รับเชิญให้ไปที่ฮิโระชิมะหลังการทิ้งระเบิดปรมาณู เพื่อเยี่ยมเยียนคนเจ็บและผู้รอดชีวิต นายแพทย์คนหนึ่งกล่าวกับเขาว่า ”แม้ว่าจะมีคนตายเพิ่มขึ้นเป็นพันคนทุกๆ วัน แต่ผมก็ยังคงทำหน้าที่ของผมต่อไป เพราะนอกจากนั้นแล้ว ผมจะทำอะไรได้อีกเล่า …ในเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือของเรา และตอนนี้ลูกชายของคุณก็กำลังต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่ รู้ไหมว่าในโลกนี้ไม่มีใครต้องการคุณเท่ากับลูกชายของคุณอีกแล้ว” คำพูดนั้นทำให้เคนซาบุโรรุดกลับมาโตเกียวเพื่อเผชิญหน้ากับความจริง
“เหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นจุดพลิกผันของชีวิตผม” นับแต่นั้น เคนซาบุโรได้ใช้การเขียนเป็นเครื่องมือในการปลดปล่อยความทุกข์ รวมทั้งปลุกจิตสำนึกแห่งความเป็นพ่อของตนเองให้ตื่นขึ้นทีละน้อย ผลงานเรื่องแล้วเรื่องเล่าที่เขาเขียนจึงมีชีวิตของฮิคาริเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง
ความผิดปกติทางสมองทำให้ฮิคาริไม่ยอมรับรู้สิ่งรอบตัวใดๆ นอกจากเสียงนกร้องเท่านั้น เคนซาบุโรและภรรยาจึงกว้านซื้อเทปบันทึกเสียงนกมาเปิดให้ฮิคาริฟัง ด้วยหวังว่าวันหนึ่งเด็กน้อยจะหันมาสื่อสารกับพ่อแม่ของตนบ้าง แล้ววันหนึ่งขณะที่เคนซาบุโรกำลังเดินเล่นอยู่ในป่าละเมาะ จู่ๆ ฮิคาริวัยหกขวบที่นั่งอยู่บนไหล่ของผู้เป็นพ่อ ก็ตัดสินใจสลัดความเป็นเด็กพิการทางสมองผู้ไม่ยอมสื่อสารกับโลกด้วยภาษามนุษย์ทิ้งไป แล้วกล่าวขึ้นมาลอยๆ ว่า ”นี่คือนกวอเตอร์เรล”
“นั่นเป็นครั้งแรกที่ลูกชายของผมพูดภาษามนุษย์” เคนซาบุโรเล่า
ตั้งแต่นั้นมาเคนซาบุโรและภรรยาก็พยายามทุกวิถีทางที่จะกระตุ้นพัฒนาการของฮิคาริด้วยเสียงดนตรี จนเขาสามารถแต่งเพลงคลาสสิกได้ดี ถึงขั้นมีอัลบั้มและคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิกของตนเองได้
“เพลงแรกที่ฮิคาริแต่งขึ้นนั้นเต็มไปด้วยความสดใหม่ที่ไพเราะงดงาม ประหนึ่งน้ำค้างที่แพรวพรายอยู่บนยอดหญ้า…แต่เมื่อเขาเริ่มเติบโตและแต่งเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ ดนตรีของเขากลับเต็มไปด้วยเสียงร่ำไห้จากจิตวิญญาณที่มืดมนและเศร้าโศก แต่การแสดงความรู้สึกเหล่านี้ออกมาผ่านดนตรีก็ช่วยให้ฮิคาริสามารถเยียวยาจิตใจของตนเองได้ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดนตรีของฮิคาริยังได้รับการยอมรับว่าสามารถเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจของผู้ฟังได้เช่นกัน”
งานศิลปะของสองพ่อลูกทำให้ผู้เสพได้เรียนรู้ว่า แม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเข้าใจชีวิตและยอมรับความจริงที่แม้จะไม่สวยงาม แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความหวังและบทเรียนอันทรงคุณค่าได้
Secret Box
”ในเมื่อผมรู้ดีว่าผมและลูกชายต่างก็เลือกเกิดใหม่ไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะช่วยชีวิตตัวเองและลูกชายแทน”
– เคนซาบุโร โอเอะ –
ที่มา นิตยสาร Secret
ภาพ nordstjernan.com, commons.wikimedia.org, welt.de
บทความน่าสนใจ
ดิ๊ก ฮอยต์ พ่อที่แกร่งที่สุดในโลก
หนูน้อยส่งจดหมายถึงพ่อบนสวรรค์ ไปรษณีย์อังกฤษตอบจดหมายกลับมาอย่างน่ารัก
มาร์ตติ อาห์ติซารี พ่อผู้ให้สันติภาพแก่โลก
Dhamma Daily : ดิฉันกำลังจะ แต่งงานกับพ่อม่าย ลูกติด แต่ไม่รู้สึกรักลูกเขา ทำอย่างไรดีคะ